spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 149: เติบโต
ในวันที่สองก่อนที่จะเช้าคนในปราสาทหมาป่าได้รู้ว่าเมืองแบล็คฮ็อตนั้นยอมแพ้ให้กับอาณาจักรนอแมนแล้ว เอาให้เจาะจงคือไม่ใช่ยอมแพ้แต่เป็นเข้าร่วม
เหยี่ยวส่งข้อความนั้นได้เอาข่าวล่าสุดจากเมืองมาที่ปราสาท กลุ่มเหมืองที่ดูแลเมืองได้ประกาศว่านับจากวันนี้เมืองแบล็คฮ็อตได้แยกจากพันธมิตรและเข้าร่วมกับอาณาจักรนอแมน กลายเป็นเมืองระดับ 4 ของเขตเบรินวิคภายใต้การดูแลของรัฐบาลฝ่ายเหนือของอาณาจักรนอแมน
หลังจากที่ได้รับการประกาศนี้ กลุ่มเหมืองที่ได้ดูแลเมืองมากว่าสิบปีได้ประกาศทำการยุบ
ในยุคนี้ตอนที่ความวุ่นวายมาถึงจากสงคราม ปลาใหญ่จะกินปลาเล็กและสิงโตจะล่ากระต่าย มันยากที่จะบอกว่าเป็นเรื่องตลกสำหรับปลาเล็กที่มีแรงน้อยนิดจะต้านทานได้ แต่หลายตัวก็จะหาโอกาสเข้าร่วมกับศัตรูแล้วทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น...
ในฐานะประชาชนของพันธมิตรแล้ว ทุกคนในปราสาทตอนนี้ได้กลายมาเป็นคนของอาณาจักรนอแมนในตอนที่พระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้า
หลังจากรู้ว่าโชคชะตาของเขาอยู่ภายใต้มือที่มองไม่เห็นและรู้เรื่องที่เกิดกับเมือง จางเทีย ก็ได้ออกจากปราสาทไปและวิ่งออกไปอย่างเต็มแรง เขาไม่ได้หยุดจนกระทั่งไปอยู่บนยอดภูเขาที่เป็นพรมแดนระหว่างหุบเขาและทุ่งหญ้า ตาของเขามองไปยังทุ่งหญ้าและเขาได้ยืนอยู่ที่นั่นจนพระอาทิตย์ตกดิน
ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ในตอนนั้น
ในตอนที่พระอาทิตย์ตกดิน จางเทีย ก็ได้กลับมาที่ปราสาท
จากวันนี้เป็นต้นไปคนที่อยู่ในปราสาทจะต้องกินข้าวหม้อเดียวกัน หลังจากที่เปิดคลังเมื่อวานนี้ โรงอาหารในปราสาทก็ถูกเปิดให้ใช้งานเช่นกัน
มันใหญ่กว่าโรงอาหารที่โรงเรียนอย่างมาก ทุกคนได้รับถาดและอาหารเหมือนกับทหาร หลังจากที่กินเสร็จพวกเขาก็ต้องล้างถาดแล้วส่งมันคืน
บรรยากาศตอนนี้ดูน่ากระอักกระอ่วน
หลังจากที่กินเสร็จตอนที่สมาชิกในองค์กรตั้งใจจะไปล้างถาดของตัวเอง จางเทีย ก็เก็บพวกมันแล้วบอกว่าเขาจะจัดการมันเอง
“ มีอะไรเหรอ ไอ้หัวโต “ – ดั๊ก ถามเหมือนกับคนโง่
“ ฉันรู้สึกว่าเขาทำตัวแปลกๆนะวันนี้ เขาไม่เหมือนแต่ก่อน ! “
แบร์ลี่ ส่ายหน้า
ทุกคนในองค์กรนั้นมองไปที่ จางเทีย ที่เก็บถาดแล้วเดินออกไปอีกด้านแทนที่จะเป็นก็อกน้ำ
เขาเดินเข้าไปหา ชาร์ลอน,ซูแฮร์,และการ์เนอร์ ที่นั่งอยู่
ปัง !
จางเทีย โยนถาดทั้งเจ็ดใบใส่ ชาร์ลอน เสียงนั้นเกิดขึ้นจากถาดอาหารที่กระแทกกับโต๊ะและทำให้ทุกคนตกใจ คนอื่นๆต่างก็หันมาและมองสิ่งที่เกิดขึ้น ผลก็คือบรรยากาศนั้นเงียบลงยิ่งกว่าเดิม
จางเทีย โยนถาดลงไปใส่ถาดของ ชาร์ลอน ซึ่งทำให้ซุปในถาดนั้นหกรดตัวของอีกฝ่าย
เมื่อเห็นแบนนั้น ชาร์ลอน, ซูแฮร์ และ การ์นเนอร์ ต่างก็หน้าซีดและลุกขึ้นทันที
เมื่อเห็นความรุนแรงแบบนั้น นักเรียนคนอื่นที่นั่งโต๊ะเดียวกันต่างก็รีบลุกขึ้นยืนแล้วถอยออกไป
แน่นอนว่า จางเทีย เป็นหนึ่งในคนดังที่สุดในปราสาท ในเวลาเดียวกัน แบร์ลี่ และคนอื่นในองค์กรต่างก็รีบวิ่งเข้ามาม้วนแขนเสื้อของตัวเองขึ้น พวกเขารู้ว่า จางเทีย จะต้องอัดลูกน้องของ เกรซ สมาชิกทุกคนในองค์กรต่างเตรียมพร้อมที่จะสู้
“ ล้างถาดและเอาไปส่งคืนที่ครัว ! “ - จางเทีย สั่งด้วยสีหน้าเย็นชา – “ ฉันคิดว่าคงไม่จำเป็นต้องบอกนะว่าต้องทำยังไง แกเคยทำมาแล้วนิ แกล้งคนอื่นมานานโดยบอกให้พวกนั้นล้างถาดให้พวกแก ! “
คนที่รู้สึกว่า จางเทีย ทำตัวดุร้ายก่อนหน้านี้รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากได้ยินคำพูดเขา พวกเขายังคงเงียบ โดยเฉพาะเมื่อมีเด็กมากมายอยู่ในโรงอาหารที่มาจากโรงเรียนแห่งที่เจ็ดเหมือนกัน
หลังจากพึมพำเงียบๆก็ไม่ได้มีสายตาสงสารจากคนที่มองทั้งสามคนอีกต่อไป
“ จางเทีย แก...แก...อย่าเกินไปนัก ! “ - ซูแฮร์ ชี้มาที่ จางเทีย หน้าของเขาซีดขาว เขาไม่คิดมาก่อนว่า จางเทีย จะกล้าขนาดนี้ – “ หลังจาก เกรซ กลับมา แกต้องซวยแน่ๆ ! “
“ หลังจาก เกรซ กลับมาแล้ว บอกมันว่าฉันอยู่ไหน ฉันจะรอ ! “ - จางเทีย เผยรอยยิ้มเย็นชาออกมา – “ ตอนนี้ตอบฉันมา แกจะล้างมันรึเปล่า ? “
“ หะ--- “
ปัง !
จางเทีย เคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วจน ซูแฮร์ นั้นด่ายังไม่ทันจบก็โดนตบที่หน้า เขาอยากจะทนมันให้ได้แต่มันรู้สึกเหมือนโดนแรดอัดเข้าที่หน้า การเคลื่อนที่และความหวังของเขาไม่ได้มีผลของการโจมตีของ จางเทีย เลย ด้วยความรู้สึกที่เหมือนกระดูกหัก ซูแฮร์ ได้กระเด็นออกไปตามแรงแล้วหมุนควงอยู่ในอากาศหลายรอบก่อนจะหล่นลงไปที่พื้น
ในเวลาเดียวกัน จางเทีย ก็ได้เตะไปที่ การ์เนอร์ ที่ซึ่งนั่งอยู่ตรงกลางเข้าที่ท้องและทำให้มันกระเด็นไปด้วย
ชาร์ลอน นั้นอ่อนแอเกินไป ในตอนที่เขาต่อย จางเทีย หมัดของเขาได้ถูกปัดออกอย่างกับแมลงวันซึ่งมันรู้สึกเหมือนมีแผ่นเหล็กปัดมือเขาทิ้ง ในเสี้ยววินาทีนั้น ชาร์ลอน ก็รู้สึกเจ็บจนเกือบร้องออกมา แต่ก่อนที่เขาจะได้ส่งเสียง จางเทีย ก็คว้าเข้าที่ผมของเขาและจับเขาโขกเข้ากับถาดอาหารอย่างแรง เสียงกรีดร้องดังขึ้นมาและหน้าของ ชาร์ลอน ตอนนี้ก็เริ่มแดงกล่ำ
ก่อนที่คนอื่นๆในองค์กรจะได้วิ่งเข้ามาช่วย การต่อสู้ก็จบลงแล้ว ตรงหน้า จางเทีย ชายสามคนนั้นกลับยืนได้ไม่ถึง 3 วินาที พวกเขาต่างก็โดนอัดและนอนกองไปที่พื้นไม่อาจที่จะลุกขึ้นยืนไหว
คนที่ดูอยู่ต่างก็ช็อคกับแรงต่อสู้ของ จางเทีย นักรบระดับ 1 รึระดับ 2 ก็ไม่สามารถทำแบบที่ จางเทีย ทำได้ง่ายๆ แน่นอนว่าเหมือนกับผู้ใหญ่รังแกเด็กที่ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ตอบโต้เลย
“ ล้างมั้ย ? “
เขาคว้าผมของ ชาร์ลอน จางเทีย ดึงหน้าอีกฝ่ายขึ้นมาจากถาดและถามด้วยสีหน้าเย็นชา
ชาร์ลอน ยังคงเงียบแต่สายตาของเขาเพียงพอที่จะตอบได้แล้ว !
จางเทีย โขกหัวอีกฝ่ายเข้ากับถาดอีกรอบทำให้มันต้องร้องออกมาอีก
“ ล้างมั้ย ? “
จางเทีย กำผมแน่นกว่าเดิมแล้วดึงหน้าขึ้นมาอีกรอบ
ชาร์ลอน ดูกลัวข้นมานิดๆพร้อมกับสัมผัสได้ถึงความสงบและไร้อารมณ์ในเสียงของ จางเทีย
“ ล้างมั้ย ? “ - เสียงของ จางเทีย ดังขึ้นมาอีกครั้ง ก่อนที่ ชาร์ลอน จะได้พูดอะไรออกไป จางเทีย ก็ฟาดหน้ามัดเข้ากับถาดอาหารเป็นครั้งที่สี่...
...
ในตอนที่ จางเทีย จับหัว ชาร์ลอน ฟาดเป็นครั้งที่หกก็ได้มีเสียงหงุดหงิดดังขึ้นมาในโรงอาหาร
“ จางเทีย นายกำลังทำอะไร ? “
มิสกิลิ โผล่มาด้านหลัง จางเทีย มองมาที่การกระทำอันโหดร้ายของเขา เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเด็กที่วิ่งไปที่หอคอยเพื่อส่งของให้คนที่ตัวเองรักเมื่อคืนนี้ถึงได้เปลี่ยนไปแบบนี้ได้ในระยะเวลาอันสั้น
“ มิสกิลิ ! “
จางเทีย ปล่อยผม ชาร์ลอน และหันกลับไปด้วยท่าทีใจเย็น
ในตอนที่ จางเทีย ปล่อยผม ชาร์ลอน ก็ร่วงลงไปกองที่พื้น เมื่อเห็นทั้งสามคนร้องโหยหวนออกมา มิสกิลิ ก็ดูหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม
“ นายกำลังทำอะไร ? นายอัดเพื่อนร่วมชั้นนายทำไม ? “
“ ผมอยากให้พวกมันล้างถาดให้ผม พวกมันไม่ตกลงและด่าผม ผมเลยอัดพวกมัน ! “ - จางเทีย อธิบายไปตรงๆ
เมื่อได้ยินแบบนั้น มิสกิลิ ได้คิ้วขมวดแต่คนที่ดูอยู่รวมถึงคนในองค์กรรู้สึกว่า จางเทีย น่ะยิ่งใหญ่ นี่น่ะเป็นครั้งแรกที่พวกเขาเห็นคนที่กล้ารังแกคนอื่นด้วยเหตุผลแบบนี้
เมื่อเห็นครู ซูแฮร์ ที่นอนอยู่ที่พื้นได้สักพักก็เขยิบเข้าไปหา มิสกิลิ แล้วบ่นออกมา – “ มิส ก...ลิ ผม..อยากจะร้องเรียนต่อกรรมการ.... “
การตบอันรุนแรงนั้นทำให้ฟันของ ซูแฮร์ หลุดไปสามซี่ ในตอนที่อ้าปากเขาก็พบว่าอากาศนั้นไหลเข้ามาในช่วงที่ฟันหายไป มันทำให้เขาหงุดหงิด จางเทีย มากขึ้นไปอีก
ในตอนนี้แน่นอนว่า มิสกิลิ น่ะคือเทพธิดาของทั้งสามคนนั้นแต่ชัดแล้วว่า ซูแฮร์ นั้นดีใจเกินไป ในตอนที่เขาเข้าไปหาเธอก็ได้มีเก้าอี้ลอยมาอัดเข้าที่หัวของเขาทำให้เขากรีดร้องออกมา
แน่นอนว่า จางเทีย เป็นคนโยนไปเอง ในตอนที่เขาโยนมัน เขายังกระทืบหลังของ ชาร์ลอน ด้วยทำให้มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นมาอีกเสียง
เมื่อเห็น จางเทีย กล้าอัดคนอื่นต่อหน้าเธอ มิสกิลิ ก็โกรธจัด ในเวลาเดียวกันคนที่มองอยู่ต่างก็ตาโตเพราะความทึ่ง
“ นาย... “ - มิสกิลิ ทนไม่ไหวอีกต่อไปและต้องการที่จะหยุดเขา เพราะบางอย่างแต่ละครั้งที่เธอเห็น จางเทีย เธอจะรู้สึกว่าตัวเองควบคุมตัวเองไม่อยู่ – “ จากนี้ ถ้านายกล้าทำรุนแรง ฉันจะหักแขนนาย ! “
เธอเดินเข้ามาหาเขาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา – “ นายไปกับฉันรึต้องให้ฉันบังคับ “
“ มิสกิลิ แม้ว่าผมจะเคารพคุณมากแต่ผมกลัวว่าคุณจะบังคับให้ผมทำอะไรไม่ได้ ! “
“ นายพูดอะไร ? “ - มิสกิลิ มองไปที่ จางเทีย – “ นายคิดว่านายจะทำตามใจในปราสาทได้รึไง ? “
“ มิสกิลิ คุณไม่เข้าใจรึไง ? “ - จางเทีย มองไปอย่างสงสารไปยังผู้หญิงคนนี้ที่ซึ่งสับสนอยู่ – “ ตอนนี้ปราสาทนั้นอยู่ในกฎของอาณาจักรนอนแมนแทนที่จะเป็นกฎสงครามของพันธมิตรรึกฎของเมือง ตั้งแต่เมื่อคืนที่เมืองประกาศว่าจะเข้าร่วมกับอาณาจักรนอแมน กฎก็ได้เปลี่ยนไป เหมือนกับว่าเราเป็นทาส มันมีกฎที่แตกต่างจากเมือง ในฐานะคุณของอาณาจักรนอแมนแล้ว ผมคิดว่าคุณควรจะรู้กฎสำหรับนักเรียนที่เข้าร่วมการฝึกเอาตัวรอดนะ ! “
ในตอนที่ จางเทีย พูดจบ มิสกิลิ ก็ได้หยุดเดินเข้ามาทันทีพร้อมกับส่งสายตาหงุดหงิดมาที่เขา...