spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 146: การมาถึงของสงคราม
กรรมการที่อยู่บนหอคอยต่างก็ใช้กล้องส่องไปยังทุ่งหญ้าพระจันทร์เสี้ยว หลังจากที่เห็นแล้วพวกเขาต่างก็หน้าซีด พวกเขานั้นต่างจากนักเรียน ครูส่วนมากสามารถประมาณได้ว่ามีทหารในกองทัพจนำวนกี่คนบนยานโดยการวิเคาระจำนวนและระดับของยานผ่านทางกล้อง
“ นานแค่ไหนที่เราจะเริ่มเครื่องต้มของปราสาทได้ ? เรามีเวลาพอรึเปล่า ? “ – ครูบางคนถามขึ้นมา
“ ถ้าเราพึ่งเด็กๆ มันจะใช้เวลาอย่างน้อย 3 ชม.เพื่อเริ่มมันและเราจึงจะเปิดการทำงานของอาวุธป้องกันทางอากาศของปราสาทได้โดยใช้แรงดันจากเครื่องต้มแต่ระหว่างการเพิ่มแรงดัน ยานของศัตรูนั้นจะใช้ระเบิดเพื่อทำลายปราสาททิ้ง เราไม่มีโอกาสสู้ได้เลย....” - ครูอีกคนตอบกลับอย่างใจเย็น
เมื่อได้ยินแบบนั้นครูคนอื่นๆต่างก็เงียบ
“ ฉันเสนอว่าให้ยกธงเขียวเพราะเราไม่มีสิทธิที่จะเสียสละชีวิตของเด็กบริสุทธิ์ไป ! เรารู้ว่ามีทหารกี่คนบนยานนั่น มีคำพูดบอกว่าถ้ามันจำเป็นรึเปล่ากับเราที่จะต้องเป็นตั๊กแตนที่จำเป็นต้องรั้งรถไฟไว้ด้วยตัวเองโดยเอาตัวเองไปขัดล้อไว้ ? เอาจริงๆนะเด็กพวกนั้นน่ะเป็นแค่คนธรรมดา พวกเขาน่ะไม่ได้ถูกผูกมัดให้มาเกี่ยวข้องกับสงครามที่จะมาถึงนี่... “ - เมื่อพูดแบบนั้น เซรอม ได้มองไปที่ กัปตันเคอร์ลิน – “ มายกมือโหวตกันเถอะ ! “
หลังจากพูดจบ เซรอม ได้ยกมือขึ้น ไม่นานหลังจากนั้นครูคนอื่นก็ได้ทำเหมือนกัน ในที่สุด กัปตันเคอร์ลิน ก็ยกมือขึ้นด้วย เมื่อเห็นแบบนั้นครูคนที่เหลือต่างก็ยกมือขึ้นตาม
หลายนาทีต่อมาพร้อมกับควันสีแดงก็ได้มีธงสีฟ้าเขียวชูขึ้นมาที่ด้านบนปราสาท นี่ถือว่าเป็นวิธีที่มีเกียรติเพื่อหลีกเลี่ยงสงครามเมื่อเทียบกับการยกธงขาว ตามตำราสงครามแล้วธงสีฟ้าเขียวนี้บ่งบอกว่าปราสาทปหมาป่านี้ไม่ใช่กองทัพที่เป็นเป้าหมายและไม่ใช่ป้อมปราการ
ก็อย่างที่คาดไว้ หลังจากที่ยกธงฟ้าเขียวแล้ว ยานที่บินมายังปราสาทก็ได้เปลี่ยนเส้นทางไปยังเมืองแบล็คฮ็อตแทน
เมื่อมองไปยังทิศทางเมืองแล้ว กัปตันเคอร์ลิน ดูสลดลงเล็กน้อย ตอนนั้นเอง เซรอม ก็ได้เปิดประตูเข้ามาพร้อมกับแก้วสอบใบและขวดไวน์ในมือ
กัปตันเคอร์ลิน มองไปที่อีกฝ่ายด้วยความทึ่ง – “ นายไปเอามันมาจากไหนกัน ? “
“ ห้องของแม่ทัพไง ! “
“ ที่นั่นล็อคอยู่นิ นายอาจต้องขึ้นศาลทหารถ้านายเข้าไปโดยไม่ได้รับอนุญาต “
“ ฉันปลดล็อคมันเองแหละ ! “ - เซรอมตอบด้วยท่าทีไม่ใส่ใจ – “ นายคิดว่าเจ้าของห้องจะมีโอกาสกลับมาเปิดประตูได้อีกเหรอ ? รึนายต้องการที่จะทิ้งของพวกนี้ให้พวกบัดซิบที่จะมาที่นี่เพื่อยืดปราสาท... “
ในตอนที่เขาพูด เซรอม ได้เปิดขวดไวน์และเทลงไปในแก้ว หลังจากที่เทมาได้สักพักครูทั้งสองคนก็ได้มองดูน้ำในแก้วที่สั่นเครือเล็กน้อย
“ อย่างน้อย 200,000 ไม่ใช่แค่กองทหารม้า แม้แต่กองทัพเหล็กก็ยังถูกส่งออกมาด้วย ไม่อย่างนั้นแล้วมันคงจะไม่มีทางที่จะเยอะขนาดนี้ได้ ! “ - เซรอม ถอนหายใจออกมาเหมือนกับสิ่งที่เขาพูดไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเขา – “ กองทัพเขาเหล็กนั้นได้ทิ้งการป้องกันที่คาชิทอนไปโดยที่นั่นพันธมิตรได้ยึดไว้กว่า 20 ปีและโผล่กลับมาที่เมืองแบล็คฮ็อตแทน พวกเขาตรงเข้ามาในส่วนที่เป็นช่องโหว่ของพันธมิตรซึ่งคือทุ่งหญ้าพระจันทร์เสี้ยว นี่คือเป็นหมัดฮุคที่เยี่ยมจริงๆ...”
กัปตันเคอร์ลิน มองด้วยสายตาหงุดหงิดไปที่ เซรอม และด่าออกมา – “ บัดซบ ! “ – มันยากที่จะพูดอะไรออกไปไม่ว่าเขาจะด่ากองทัพของอาณาจักรนอแมนรึ เซรอม หลังจากนั้น กัปตันเคอร์ลิน ก็ไม่ได้รับแก้วของเขาแต่เขากลับคว้าเอาขวดแล้วเริ่มดื่มเข้าไป
“ แม้แต่ตอนนี้อาณาจักรนอแมนก็ยังกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้ ! พวกเขาคงทำการตกลงกับราชวงศ์อาทิตย์ไว้ บางทีตอนนี้กองทัพของราชวงศ์คงเดินหน้าไปที่เมิองซิแลนก้า ! “ – หลังจากที่จิบไวน์เข้าไป เซรอม ได้หรี่ตาลง – “ แม้ว่าพวกเขาจะรวมกันเป็นร้อยแต่คนที่ทำธุรกิจในพันธมิตรน่ะก็ยังคงเป็นกระต่ายอยู่ดี แม้ว่าจะพวกนักธุรกิจพวกนั้นจะมารวมกันเป็นสิบๆคนแต่ก็ทำได้แค่เรื่องเล็กๆเท่านั้น ! “
“ กำแพงของเมืองแบล็คฮ็อตไม่ได้พังง่ายๆ ถ่าน,เหล็กและเหล็กกล้าน่ะทำให้มันแข็งขึ้นอย่างมาก ถ้าอาณาจักรนอแมนอยากเปิดสงครามจริงๆ มันคงไม่มีทางจะจัดการเมืองแบล็คฮ็อตได้ถ้าไม่ให้เกิดการสูญเสียกันบ้าง ! “ - กัปตันเคอร์ลิน พูดออกมาเบาๆ
“ เคอร์ลิน นายไม่ต้องคิดหรอกว่าได้รึไม่ได้ แต่น่าจะกล้ารึไม่กล้าดีกว่าสำหรับคนในเมือง ลืมเกียรติของการเป็นทหารของนายซะ ! “ - เซรอม เริ่มขึ้นเสียง – “ เชื่อฉัน พวกคนที่ทำแต่การค้าน่ะมี่ทางคิดถึงเรื่องการเคารพรึเกียรติห่าเหวอะไรนี่หรอกแต่พวกนั้นน่ะจะไปเจรจาเพื่อแลกกับความปลอดภัยของตัวเองและของของพวกมันต่างหาก “
“ พวกมันไม่กล้าที่จะสู้กับอาณาจักรนอแมนหรอก ถ้าพวกมันกล้าแม้แต่นิดแล้วแม่ทัพของกองทัพนั่นคงจัดการหั่นพวกมันเป็นชิ้นๆแล้วยึดเอาทรัพย์สินของพวกมันทั้งหมดไป รอไปก่อนเถอะ เมื่อกองทัพเข้าล้อมเมืองแบล็คฮ็อตเอาไว้ เราจะเห็นว่ามีหลายคนที่ยอมเป็นคนของอาณาจักรนอแมนไป..”
“ บ้าเอ้ย ! “ - กัปตันเคอร์ลิน ทำสีหน้ากระอักกระอ่วน หลังจากที่ดื่มไวน์ไปหลายอึก เขาก็มองมาที่ เซรอม – “ นายได้มาเท่าไหร่ ? “
“ อะไร ? “
เป็นตา เซรอม บ้างที่ต้องสับสน
“ ไม่ว่านายจะได้ไวน์นี่มากี่ขวด ฉันอยากได้ครึ่งหนึ่ง ! “ – ชายตาเดียวพูดขึ้นมาอย่างเผด็จการ....
กองทัพทหารม้าของกองทัพเหล็กนั้นยังไม่เข้าใกล้เมืองในระยะ 15 กม. ยานเพียงลำเดียวบนฟ้าของเมืองก็เห็นว่ามีคลื่นเหล็กและยานต่างๆเข้ามาหาเมืองด้วยความเร็วสูง
เสียงเตือนประกาศสงครามและการป้องกันทางอากาศนั้นต่างก็ดังก้องไปทั่วทั้งเมือง ในเวลาเดียวกันประตูเมืองต่างก็ถูกปิดลง
บนกำแพงเมืองนั้นทหารและเจ้าหน้าที่ทุกคนรวมถึงพี่ชายของ จางเทีย ที่ซึ่งวิ่งไปประจำตำแหน่งต่างก็หน้าซีดเมื่อเห็นกองทัพที่แห่เข้ามา
“ กองทัพจากอาณาจักรนอแมนกำลังมา ! กองทัพเขาเหล็กกำลังมา ! “
ในตอนที่เสียงเตือนดังขึ้น พ่อของ จางเทีย ที่ยังทำงานอยู่โรงงาน แม่ของเขาและพี่สะใภ้นั้นอยู่ที่บ้าน ประชายชนหลายคนกำลังยืนอยู่ตามท้องถนน
ในตอนที่พ่อของ จางเทีย ได้ยินเสียงเตือน เขาก็ออกจากที่ทำงานแล้ววิ่งออกมานอกโรงงานทันที เมื่อเห็นเด็กสองคนที่ยืนอยู่ในตึก เขาก็รีบดึงแขนพวกนั้นเข้ามาหา
“ เกิดอะไรขึ้น ? “
“ เสียงประกาศสงครามกับการแจ้งเตือนการป้องกันทางอากาศ ไปกันเถอะ ออกจากโรงงานกัน ... “ - พ่อของ จางเทีย ตะโกนขึ้นมาดังๆ
เมื่อได้ยินแบบนั้นทุกคนต่างก็หน้าซีดแล้ววิ่งออกจากโรงงานมา ถ้าการโจมตีทางอากาศเริ่มแล้ว งั้นพื้นที่โรงงานคงโดนโจมตีเป็นเป้าหมายแรก ตอนนี้พวกเขาจะปลอดภัยกว่าในพื้นที่อื่น
เมื่อจำเสียงสัญญาณได้แม่ของ จางเทีย และพี่สะใภ้ก็ได้ซ่อนตัวอยู่ในห้องหลบภัยทันที
ทุกคนในถนนต่างก็เริ่มวุ่นวาย ทั้งเมืองเองก็ด้วย....
ตอนนั้นเอง จางเทีย ก็กำลังมุ่งหน้ากลับไปที่ปราสาทหมาป่าอยู่....