spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 144: กองทัพ
หลังจากนั้นแค่เพียงสี่ชั่วโมง ท้องฟ้าด้านบนหัว จางเทีย ก็เต็มไปด้วยหมู่อีแร้ง พวกอีกแร้งต่างก็บินว่อนไปทั่วพร้อมกับร้องอย่างมีความสุขด้วยเสียงอันน่ากลัว ตาของมันจ้องไปยังอาหารอันโอชะที่นอนอยูที่พื้น ตัวที่กล้าบางตัวนั้นถึงกับลงมายืนที่พื้นพร้อมกับมองไปยังศพหมาป่าที่นอนตายอยู่ ในเวลาเดียวกันมันก็แอบสะบัดก้นและปีกของมันพร้อมกับกระโดดเข้าหาศพ
ตอนนั้นพื้นที่กว่าร้อยเมตรด้านบนเนินเขาที่ จางเทีย อยู่นั้นเต็มไปด้วยศพของหมาป่า มีศพราวๆ 70 ตัวที่นอนตายอยู่ตามพื้น
เทียบกับไม่กี่วันก่อนแล้ววันนี้ จางเทีย ประสบความสำเร็จมากที่สุด แต่ถ้าหมาป่า 70 ตัวนั้นพุ่งเข้าหาเขาพร้อมกับแล้ว เขากลัวว่าเขาคงต้องหนีลงไปที่ทุ่งหญ้าแทน ต้องขอบคุณที่พวกมันมาเป็นกลุ่มๆซึ่งทำให้ จางเทีย มีโอกาสที่จะฆ่ามันได้ทีละนิดๆ
นี่เองก็เป็นสิ่งอธิบายว่ากับดักนี้ยอดเยี่ยมขนาดไหน ในตอนที่หมาป่าตัวผู้นั้นได้กลิ่นของหมาป่าตัวเมีย แน่นอนว่าพวกมันต้องพุ่งเข้ามาหาทันที พวกมันไม่มีโอกาสเลือกเข้าข้างกันเองได้เลยในสถานการณ์แบบนี้
‘ บางทีพวกมันอาจจะไม่ใช่พวกเดียวกันก็ได้ถ้าคิดเรื่องหมาป่าตัวเมีย ‘ จางเทีย ตัดสิน
เขาหันกลับไปมองแล้วพบว่าหมาป่านี่ก็เหมือนคน เพราะมนุษย์นั้นบางคนถึงกับใช้เงินเพื่อเอาสาว พวกนี้ก็ไม่ได้มักจะไปกันเป็นกลุ่ม เอา จางเทีย เป็นตัวอย่าง นอกจากเพื่อนในองค์กรแล้วเขาไม่ค่อยไปที่แบบนั้นกับคนอื่น
เขารอต่อไปและคาดว่าจะมีหมาป่ามามากกว่าเดิม..
กลุ่มสุดท้ายนั้นมีหมาป่าราวๆ 20 ตัว ตอนแรก จางเทีย แค่ใช้มือในการฆ่าพวกมันแต่เมื่อเห็นว่าพวกมันกำลังจะหนี เขาก็ต้องใช้หอกออกมา
ตอนนี้ระยะโจมตีของหอกนั้นได้ไกลถึง 80 ก้าวเพราะแรงและพลังวิญญาณที่เพิ่มขึ้นมา ในระยะนี้ จางเทีย มั่นใจว่ามันต้องโดนอย่างแน่นอน
นี่เป็นพรสวรรค์ที่แปลกและน่ากลัว และ จางเทีย ยังคงไม่รู้ว่าเขาเชี่ยวชาญทักษะน่ากลัวแบบนี้ได้ยังไง เขาไม่รู้ว่าการล็อคเป้าหมายแปลกๆระหว่างเขากับเป้าหมายนั้นมาจากไหน มันจะโผล่ออกมาตอนที่เขาจะโยนหอกของเขาออกไป
ด้วยการที่เซนส์เรื่องนี้แล้วแน่นอนว่า จางเทีย รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องธรรมดา อย่างน้อยในโรงเรียนแม้ว่าเขาจะได้ยินเรื่องแปลกๆมาเยอะแต่เขาก็ไม่เคยได้ยินว่ามีใครอยู่ๆก็มีความสามารถแบบนี้ขึ้นมา แต่สำหรับเขาตอนนี้แล้วทักษะนี้น่ะเหมือนกับเป็นสัญชาตญาณไปแล้ว มันราวกับว่าเขาเกิดมาพร้อมกับทักษะนี้
‘ ดอนเดอร์ รู้เรื่องเยอะ บางทีเขาน่าจะรู้เรื่องนี้ก็ได้ ‘
จางเทีย ตัดสินใจว่าจะไปถาม ดอนเดอร์ หลังจากที่ฝึกเสร็จ แม้ว่าชายคนนั้นจะใจแคบแต่เขาก็เป็นน่าเชื่อถือที่สุดที่ จางเทีย รู้จักมา นอกจากพ่อแม่และพี่ชายของเขา
เยี่ยวของหมาป่าตัวเมียนั้นส่งกลิ่นคลุ้งไปทั่วพร้อมกับกลิ่นเลือดของพวกหมาป่า เมื่อได้กลิ่นนี้ก็ได้มีอีแร้งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆที่ลงมาที่พื้นพร้อมกับร้องออกมา พวกมันคอยมองไปยังหมาป่าที่ตายเพื่อเช็คว่าพวกนั้นตายจริงๆแล้วหรือยัง
ในวันก่อนๆพวกมันมักจะได้กินอาหารกันหลายรอบ ถ้าพวกมันเป็นคนตัดเกรดคนที่อยู่ในทุ่งหญ้านี้แล้ว จางเทีย รู้สึกว่าเขาคงได้อันดับหนึ่งแน่นอน
ในตอนที่อีแร้งมาดูหมาป่าพวกนี้แล้ว จางเทีย ก็มองดูพวกมัน หลายวันที่ผ่านมาเขาพบว่าจริงๆแล้วพวกนี้ก็ไม่ได้น่ารังเกียจ แม้ว่าพวกมันจะมีชื่อเสียงที่ไม่ดีแต่พวกมันก็เป็นพวกรักสงบตัวจริงเพราะพวกมันกินแต่เนื้อเน่าและสิ่งมีชีวิตที่โดนสัตว์อื่นฆ่า
อีกอย่างก่อนที่จะกินแล้วพวกมันยังทำการยืนยันว่าเป้าหมายน่ะตายแล้วจริงๆ ถ้ายังมีชีวิตอยู่พวกมันก็จะเขยิบออกไปและรอคอยอย่างอดทน พวกมันน่ะจะคอยสังเกตเหยื่อแต่ไม่ได้ทำการโจมตีแม้ว่าเหยื่อของมันจะใกล้ตายแค่ไหนก็ตาม
“ เฮ้เพื่อน ไม่ต้องกลัว เราเป็นคนดี เราไม่โจมตีแกตอนแกมีชีวิตหรอก เราต้องการกินตัวแกตอนที่ตายต่างหาก ฉันคิดว่าแกคงเห็นด้วย ถูกมั้ย ? ถ้าไม่ แกก็ต้องลุกขึ้นมาไล่เราและเพราะแกไม่ทำงั้นก็แปลว่าแกตกลง “
นี่คือวิธีที่พวกมันทักทายสัตว์อื่นในทุ่งหญ้า
เพราะอีแร้งพวกนี้ จางเทีย จึงยืนยันเรื่องที่ตัวเองเชื่อว่าชื่อเสียงของคนและสิ่งที่เขาพูดนั้นมักจะยากที่จะแทนตัวตนจริงๆของเขาได้ บางคนที่มีชื่อเสียงดีน่ะบางทีอาจจะไม่ใช่คนดี ในทางกลับกันบางคนที่มีชื่อเสียงในด้านแย่ๆอาจจะไม่ใช่คนเลวก็ได้
แม้ว่าอีแร้งพวกนี้จะมีชื่อเสียงที่ไม่ดีแต่ก็ไม่มีเลยสักตัวที่ไปทำร้ายสัตว์อื่น พวกมันไม่ทำลายแม้กระทั่งกองฟางด้วยซ้ำ แม้ว่าพวกมันจะเป็นสัตว์ดุร้ายแต่พวกมันเลือกที่จะใช้ชีวิตอย่างโดดเดี่ยวและถูกเข้าใจผิดมากที่สุดแต่จริงๆแล้วมันใจดีที่สุดต่างหาก
ในทางกลับกันหมาป่าพวกนี้มักจะโจมตีคน แต่ละปีนั้นมีนักเรียนที่เข้าร่วมการฝึกและคนที่อาศัยอยู่นอกเมืองนั้นโดนหมาป่าฆ่าตายแต่อีแร้งน่ะไม่คิดจะโจมตีคนเลย แม้ว่าพวกมันจะดูน่าเกลียดด้วยขนสีดำที่มีและคอยาวๆ จางเทีย ก็ชอบพวกนี้ที่ไม่เคยทำร้ายใคร
อีแร้งลงมาที่พื้นพร้อมกับร้องออกมาเหมือนกับเตอนหมาป่าที่นอนอยู่ตรงพื้นเกี่ยวกับการมาถึงของพวกมัน หลังจากที่ร้องเสร็จสักพักพวกมันก็เห็นว่าหมาป่าพวกนี้ไม่ตอบโต้ ในที่สุดอีแร้งที่กล้าหาญตัวหนึ่งก็ขยับเข้ามาและลองจิกหมาป่าดูเพื่อทำการเตือนครั้งสุดท้ายและยืนยัน
หลังจากนั้นมันก็ได้กระพือปีกแล้วกระโดดออกแต่หมาป่าก็ยังคงนิ่งอยู่ อีแร้งอีกตัวได้ลองทำเหมือนกันแล้วกระโดดออกเหมือนตัวแรก หมาป่านั้นยังไม่ได้ขยับ เมื่อเห็นแบบนั้นในที่สุดอีแร้งก็ยืนยันว่าหมาป่าพวกนี้ตายแล้วและยอมตกลงให้พวกมันกิน
ดังนั้นอีแร้งสองตัวจึงทำการกระพือปีกแล้วร้องประกาศให้กับเพื่อนของมัน เมื่อได้ยินสัญญาณนั้นอีแร้งตัวอื่นๆได้พุ่งเข้าไปที่หมาป่าที่ตายและเริ่มกินอาหารอันโอชะของมัน
ในตอนที่อีแร้งเริ่มกินอาหาร จางเทีย ได้เตรียมตัวที่จะออกไปแล้ว จากนั้นในที่สุดเขาก็ยืนยันว่าไม่มีหมาป่าตัวไหนมาให้เขาฆ่าด้วยกับดักนี้อีกแล้ว
ความสำเร็จในวันนี้ทำให้ จางเทีย พอใจอย่างมาก เขารู้ว่า Wild Wolf Seven-Strength Fruit บนต้นไม้คงจะสุกแล้วและรอให้เขาชิมในคืนนี้ พรุ่งนี้ จางเทีย จะมีความแข็งแกร่งของหมาป่า 5 ตัวอยู่ในร่างกายเขาและคงพัฒนาความแข็งแกร่งในการต่อสู้ขึ้นอย่างมาก
ด้ามจับหอกนั้นเปรอะเลือดหมาป่า ตัวด้ามจับนั้นเริ่มดำขึ้นมาหลังจากที่ใช้สู้มาเป็นอาทิตย์ สีของไม้นั้นโดนเลือดย้อมมานาน
จางเทีย เก็บหอกทุกอันเข้าใส่ซองและเดินไปที่บ่อใกล้ๆ เขาอยากล้างพวกมัน เนื่องจากมันเปรอะเลือด ถ้ามันไม่สะอาดเขาคงได้กลิ่นคาวเลือด แม้ว่าจะไม่ได้รักความสะอาดแต่ จางเทีย ก็ยังคงเลือกที่จะทำให้มันสะอาดดีกว่า
ตอนแรกหอกนี้รู้สึกหนักพอดีมือแต่ไม่นานมานี้พวกมันกลับรู้สึกเบาราวกับฟางข้าว มันทำให้ใช้ยากยิ่งกว่าเดิม จางเทีย ส่ายหน้า ดูเหมือนว่าเขาคงต้องกลับไปที่ปราสาทในวันพรุ่งนี้และขอให้ ปีเตอร์ และเพื่อนสร้างหอกชุดใหม่ที่หนักกว่าเดิมให้ หอกตอนนี้เริ่มรู้สึกว่ามันเบาเกินไปแล้ว
เขาเดินไปที่บ่อ ในตอนที่เขาไปถึงแล้วนั่งยองๆลง จางเทีย ก็ต้องอึ้งเพราะน้ำในบ่อนั้นสั่นเป็นจังหวะ
‘ แผ่นดินไหวเหรอ ? ‘ จางเทีย งง
อีกอย่างระลอกคลื่นในบ่อนั้นเริ่มเร็วขึ้นๆ ในตอนที่มีน้ำเด้งขึ้นมาจากบ่อ ตอนนั้น จางเทีย ก็คิดว่าได้ยินเสียงฟ้าผ่าจากไกลๆ หน้าของเขาซีดทันทีแล้วโยนหอกลงแล้ววิ่งขึ้นไปยังต้นไม้ที่อยู่บนเนินเขา
หมาป่าตัวเมียหลายตัวที่ถูกมัดอยู่ที่ต้นไม้นั้นเริ่มกลัวขึ้นมาเมื่อเห็น จางเทีย วิ่งมาหาพวกมัน
จางเทีย ปีนขึ้นไปบนยอดต้นไม้ด้วยความเร็วที่สูงที่สุดและเริ่มมองไปยังทิศตะวันตกเฉียงเหนือของทุ่งหญ้า ไกลออกไปเขาได้เห็นสายฟ้านับพันที่ผ่าลงมา
หลายนาทีต่อมาเสียงนั้นก็เริ่มดังขึ้นๆและโลกนั้นก็เริ่มสั่นไหวอย่างกับกลอง ในเวลาเดียวกันนกจำนวมากก็แตกฮือออกแล้วบินขึ้นไปบนฟ้าแล้วบินหนีจากเมฆดำนั้นให้มากที่สุด แม้แต่อีแร้งตรงหน้า จางเทีย ก็เหมือนรู้สึกได้ถึงอันตรายและเริ่มบินขึ้นไปบนฟ้ากันทีละตัวๆ !
หลายนาทีต่อมาเสียงของสายฟ้าก็เริ่มดังขึ้น พวกสัตว์ในทุ่งหญ้านั้นต่างก็วิ่งหนีให้ไกลจากทิศทางของเสียงนี้ให้มากที่สุด
หมาป่าทองและหมาป่าตัวโตหลายตัวและแม้แต่สิงโตก็ยังหนีผ่านต้นไม้นั้นไปด้วยท่าทีตื่นตระหนกแต่ จางเทีย ไม่ได้มีอารมณ์ที่จะไปล่าพวกมันในตอนนี้ เขาแค่มองไปยังด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือต่อไป
ไม่นานสัตว์เหล่านั้นก็ได้หายลับไปจากสายตา นักสำรวจหลายคนต่างก็ขี่ม้าไปดู แม้ว่าจะมีนักสำรวจบางคนที่แข็งแกร่งแต่พวกเขาต่างก็ดูตื่นตระหนก พวกเขาก้มตัวลงให้ชิดกับม้ามากที่สุดแล้วขี่เข้าไปโดยไม่กล้าที่จะชูหัวขึ้นมา...
“ เร็วเข้า หนี กองทัพเขาเหล็กของอาณาจักรนอแมนกำลังมา... “ – นักสำรวจคนหนึ่งตะโกนออกมา เสียงของเขาดูตื่นกลัวในตอนที่วิ่งผ่าน จางเทีย ไปได้ 50 ม......