spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 141: ล่อเหยื่อ
จางเทีย ยังคงวิ่งอยู่ด้านบนเนินเขาในหุบเขาหมาป่าอยู่ด้วยความเร็วระดับกลาง เมื่อมีใครอยู่รอบๆและเห็น จางเทีย วิ่งอยู่นั้นเขาจะมอง จางเทีย ต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะวิ่งหายลับไปจากตา
ในไม่กี่วันที่ผ่านมานั้น จางเทีย ได้วิ่งแบบนี้อยู่หลายรอบ เขาคอยวิ่งอยู่ในระยะ 10 กม.ระหว่างพรมแดนของทุ่งหญ้าและหุบเขา ในสายตาของคนอื่นแล้ว จางเทีย น่ะไม่ได้แตกต่างจากเด็กคนอื่นที่เข้าฝึกเลยเหมือนกับคอยหาหมาป่าเท่านั้น
จริงๆแล้วหมาป่าในสันเขานี้มีจำนวนมากกว่าในหุบเขาหมาป่า อีกอย่างนอกจากมีหมาป่ามากกว่าแล้ว มันยังมีสัตว์ชนิดอื่นด้วย
ตอนที่อยู่ตรงเขตแดนนั้น จางเทีย เห็นสิ่งมีชีวิตอันตรายสองตัวที่ บลู เคยบอกเขาเอาไว้คือตะกวดยักษ์กับจระเข้เขา ตะกวดนั้นคือสิ่งมีชีวิตระดับ 3 ส่วนจระเข้เขานั้นคือสิ่งมีชีวิตระดับ 4
เมื่อเห็นสองตัวนั้น จางเทีย ก็รอไม่ได้ที่จะเข้าไปสู้กับพวกมันแต่เขาก็ควบคุมแรงกระตุ้นของตัวเองและทำท่าเป็นอึ้ง ทุกครั้งที่เขาเจอพวกมัน เขาจะเลือกที่จะวิ่งหนี ในหลายวันที่ผ่านมาเมื่อเขาเจอสิ่งมีชีวิตระดับ 3 ขึ้นไป เขาจะเก็บความแข็งแกร่งที่จริงไว้แล้วทำเป็นถอยกลับมา
เป้าหมายหลักของ จางเทีย นั้นยังคงเป็นหมาป่าระดับต่ำและหมาป่าตัวโตที่เจอบ้างในบางครั้ง มีครั้งเดียวเท่านั้นที่ จางเทีย ไปเจอกับหมาป่าทองเข้าแต่หลังจากที่โยนหอกใส่มันแล้ว หมาป่าทองก็ยังคง ‘ หนีรอด ‘ จากเงื้อมมือของ จางเทีย ไปได้ จางเทีย ทำเป็นไล่ตามไปสักพักก่อนจะกลับมาพร้อมท่าทีสลด
ในสายตาของคนอื่นแล้วความสามารถของ จางเทีย นั้นเกือบจะเป็นนักรบระดับ 2 สำหรับทักษะหอกของเขาและความแม่นยำแล้ว พวกมันอาจจะเป็นภัยสำหรับสิ่งมีชีวิตต่ำกว่าระดับ 2 แม้ว่าตอนที่เขาจัดการกับหมาป่าด้วยหอกแล้วแต่บางครั้งเขาก็จงใจโยนพลาดด้วย
ในหลายวันที่ผ่านมา จางเทีย ได้ควบคุมความสามารถตัวเองให้ต่ำเข้าไว้ให้เกือบถึงระดับ 2 เท่านั้นซึ่งสูงขึ้นมานิดหน่อยเมื่อเทียบกับตอนที่เขาออกจากฐานต้นไม้มา ทักษะการโยนหอกของเขานั้นดูดีแต่เขาขาดแรงและความเร็ว
หลังจากที่ทำแบบนี้อยู่สองวัน ในวันที่สาม จางเทีย รู้สึกว่าเขาโดนจับตามอง เขารู้ว่า เกรซ นั้นต้องกลับมาตามหาเขาอีกรอบ
เมื่อรู้ถึงเล่ห์เหลี่ยมของ จางเทีย เกรซ นั้นได้คอยจับตาดู จางเทีย อยู่หลายวันระหว่างนั้นเขาก็ได้เห็นทักษะทั้งหมดของ จางเทีย จากที่ดูมาแล้วเขารู้ว่าสิ่งที่เป็นภัยกับเขาก็มีแค่การโยนหอกของ จางเทีย เท่านั้นแต่มันก็จะเป็นภัยก็ต่อเมื่ออยู่ห่างกัน 10-30 ก้าว ถ้าเขาห่างออกไปอีกรึใกล้เข้าไปอีก หอกนั้นก็จะไม่ได้มีอันตรายกับเขา
แต่ความสามารถของ จางเทีย ก็ทำให้ เกรซ ต้องประหลาดใจอย่างมาก เขาเริ่มมั่นใจว่าเหตุผลที่ จางเทีย กล้าต่อต้านเขาหลายครั้งและทำให้เขาอายเพราะ จางเทีย น่ะเล็งเขาไว้ตั้งแต่แรก ด้วยระดับความแข็งแกร่งนี้แน่นอว่า จางเทีย ต้องได้รับการแนะนำจากโรงเรียนแน่ ดังนั้นแล้วแน่นอนว่าเขาจึงกลายเป็นคู่ต่อสู้อันดับหนึ่งของ จางเทีย
‘ ไอ้บ้านี่เจ้าเล่ห์กว่า เบอร์วิค และซ่อนความแข็งแกร่งได้ดีกว่า ‘
เกรซ เริ่มอยากฆ่า จางเทีย มากขึ้นไปอีก
ในทางกลับกันหลายวันที่ผ่านมานี้ ไม่ว่าเขาจะรู้สึกแย่กับความสามารถของตัวเองแค่ไหนและท่าทีสลดที่เขาทำออกมาในตอนที่จับเหยื่อพลาดแต่ จางเทีย น่ะรู้สึกดีใจอยู่ข้างใน
การปลุกจุดชีพจรที่หลังจุดที่สองขึ้นมาและการเพิ่มพลังของหมาป่านั้นทำให้เขาแปลกใจขึ้นไปอีก โดยเฉพาะแรงของหมาป่าที่ทำให้ จางเทีย รู้สึกแตกต่างจากเก่าอย่างสิ้นเชิง
เขาตระหนักได้ว่าเขาน่ะตกหลุมรักการวิ่ง สำหรับเขาแล้วการวิ่งนั้นมันง่ายและเป็นเรื่องที่น่าพอใจ ถ้าเป็นแต่ก่อนแล้ว จางเทีย คงรู้สึกเหนื่อยอย่างมากหลังจากที่วิ่งได้ 10 กม.ในเวลาครึ่งชั่วโมงแต่ตอนนี้หลังจากได้พลังทั้งสองมาแล้ว เขาไม่ได้รู้สึกเหนื่อยอีกต่อไป เขารู้สึกเหมือนมีพลังที่ไม่มีวันหมดคอยสนับสนุนเขาอยู่ในร่างกายทำให้เขาเคลื่อนที่ได้เร็วขึ้นและบอกกับตัวเองว่ายังคงวิ่งแบบนี้ต่อไปได้เรื่อยๆ
เพราะเขาได้รับประสบการณ์ในการวิ่งแบบนี้หลังจากที่ปลุกจุดชีพจรมา จางเทีย จึงรู้อย่างชัดเจนว่าความรู้สึกนี้ไม่ได้มาจากการปลุกจุดชีพจรแต่ได้มาจาก Wild Wolf Seven-Strength Fruit หลังจากที่กินผลนั่นเข้าไป ความอึดที่น่ากลัวของหมาป่าและสัญชาตญาณในการวิ่งนั้นดูเหมือนจะทำงานกับเขาด้วย จางเทีย เก่งในเรื่องวิ่งเหมือนกับหมาป่า นอกจากนี้ยังได้ความอึดของมันมาด้วย
หมาป่าตัวโตเต็มวัยตอนที่มันวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดแล้วมันจะวิ่งได้ความเร็ว 60 กม./ชม. เป็นเวลาครึ่งชั่งโมง ถ้าคิดจะไล่ตามเหยื่อแม้ว่าจะเป็นวันที่หนาวเหน็บรึหิมะตกมันก็ยังคงล่าเหยื่อได้เกิน 10 ชม. เหยื่อส่วนมากนั้นไม่ได้ถูกล่าโดยคมเขี้ยวของมันแต่แพ้ให้กับความอึดที่น่าทึ่งของหมาป่า หลังจากที่ไล่ตามเหยื่ออยู่นาน เหยื่อจะเริ่มหมดแรงและไม่มีแรงที่จะวิ่งอีกต่อไป ดังนั้นพวกมันจึงถูกฆ่าในที่สุด
ในตอนที่เขาเริ่มฝึกในหุบเขานี้ จางเทีย น่ะชื่นชมความเร็วในการวิ่งของพวกหมาป่าและความอึดอันสุดยอด พวกมันน่ะเหมือนกับสายลม
ตอนนั้นเขาไม่คิดเลยว่าเชาจะทำแบบพวกมันได้ แม้ว่าเขาจะเทียบความเร็วกับความอึดกับพวกมันไม่ได้แต่มันก็ทำให้ จางเทีย พอใจอย่างมากแล้ว เอฟเฟ็คของ Wild Wolf Seven-Strength Fruit ผลแรก ใครจะไปรู้ว่าผลที่สองจะเป็นยังไง ?
ในหลายวันที่ผ่านมาแม้ว่า จางเทีย จะไม่ได้แสดงความแข็งแกร่งที่แท้จริงและอ่อยเหยื่อไปเรื่อยๆแต่เขาก็ได้ฆ่าหมาป่าไปมากกว่าสิบตัวแล้วสร้างแรงอีกสองแรงของ Wild Wolf Seven-Strength Fruit มีสี่แรงในทั้งหมดเจ็ดแรงถูกสร้างขึ้นมาแล้ว การที่มันจะสุกก็คงอีกไม่นาน
ดังนั้น จางเทีย จึงรู้สึกค่อนข้างดีกับมัน เขาไม่มีเหตุผลที่จะต้องมาสลด วันนี้เขารู้สึกได้ถึงรังสีอาฆาตรอบๆตัว หลังจากที่โดนจับตามองมาสามวันติด จางเทีย รู้ว่า เกรซ คงเข้าโจมตีเขาคืนนี้แน่ๆ
……
ในตอนที่พระอาทิตย์ตกดิน เกรซ ได้กัดฟันแน่แล้วแอบตาม จางเทีย ไป หลังจากที่เฝ้าสังเกตมาสองวัน เขาพบเหตุผลใหม่ในการฆ่าคู่แค้นของเขา ชายคนนี้เก่งเรื่องวิ่งจริงๆ
ความสามารถในการวิ่งของ จางเทีย นั้นทำให้ เกรซ ทั้งชื่นชมและอิจฉา สุดท้ายแล้วความรู้สึกสองอย่างนี่ก็เปลี่ยนเป็นความต้องการที่จะทำลาย ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นตอนกลางวัน เกรซ คงเข้าโจมตีไปนานแล้ว แต่ถ้าโจมตีในตอนกลางวันเขาจะเสี่ยงที่จะโดนคนอื่นเห็นเข้าและตามกฎสงครามที่ประกาศใช้แล้ว กรรมการจะลงโทษเขาด้วยโทษถึงตายที่ก่อคดีฆาตกรรมขึ้นมา พวกนั้นจะไม่ส่งเขากลับไปที่เมืองเพื่อเข้าศาลเลยด้วยซ้ำ
สิ่งที่ เกรซ กังวลเองก็เป็นเรื่องที่ จางเทีย กังวลเช่นกัน จางเทีย น่ะคิดถึงรายละเอียดของแผนอยู่หลายรอบ หลังจากที่ยืนยันแล้วว่าคงไม่มีข้อบกพร่อง จางเทีย ก็เริ่มวางใจขึ้นมา
ตอนนี้ทั้งสองคนต่างก็ต้องการฆ่ากัน
นี่เป็นครั้งแรกที่ จางเทีย อยากฆ่าคนตั้งแต่ที่เขาเกิดมา เอาจริงๆแล้วเหตุผลที่พวกเขาแค้นกันก็เป็นเรื่องตลกก็แค่เรื่องถาดอาหารบ้าๆก็เท่านั้น
จางเทีย รู้สึกว่าไอ้บ้านั่นมันเจ้าคิดเจ้าแค้น ในตอนที่เขานั่งอยู่คนเดียวที่ต้นไม้ พวกบ้านั่นได้โยนถาดอาหารมาแล้วบอกว่าให้เขาเอาไปล้าง เขาปฏิเสธแต่กลับถูกพวกนั้นเกลียดเข้า หลังจากนั้นพวกนั้นจึงคิดที่จะฆ่าเขา พวกนั้นหาเรื่องเขามาหลายครั้ง จนบังคับให้เขาต้องฆ่าอีกฝ่ายเพื่อกำจัดภัยพวกนี้ทิ้งซะ
‘ แม้ว่าจะเป็นผู้หญิงแต่เรื่องนี้น่ะก็ยังคงโคตรไร้สาระ ! ‘ จางเทีย พึมพำในหัวตอนที่วิ่งไปที่ทุ่งหญ้าที่เขาเลือกไว้ที่จะจบเรื่องนี้
หลังจากที่ไม่รู้ว่าทำไม จางเทีย ถึงจำเรื่องตลกเรื่องหนึ่งได้ มันเกี่ยวกับคนที่ต้องฆ่าอีกคนและได้เอาเรื่องนี้ไปเล่าไปนับพันๆปี
ดอนเดอร์ เล่าเรื่องนี้ให้เขาฟัง บางคนที่เจอกันอาจจะสร้างเรื่องจนไม่อาจที่จะแก้ไขได้อีก ถ้าเรื่องนี้เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็นถาดอาหารแล้วล่ะก็ จางเทีย รู้สึกว่าเขาเองก็เจอแบบเดียวกับเรื่องนั้นเลย
เรื่องน่ะเริ่มแบบนี้ : เด็กสองคนกินอาหาร ถ้าอีกคนโยนไม่คิดจะล้างถาดข้าวให้ อีกคนจะคิดว่าเขาอวดและฆ่าเขาซะ ถ้าคนๆนั้นไม่ปฏิเสธ อีกคนจะคิดว่าเขาจะบังคับให้ล้างของทุกคนและฆ่าเพื่อนร่วมชั้นเขาซะ ถ้าเขาใช้คนอื่นไปล้าง เพื่อนร่วมชั้นจะคิดว่าทำตัวเหมือนกันแล้วฆ่าเขาซะ ถ้าพวกเขาไม่กิน อีกคนจะคิดว่าเพื่อนร่วมชั้นตัวเองปฏิเสธที่จะกินข้าวด้วยกันซึ่งหมายความว่าไม่ชอบอีกฝ่ายและสุดท้ายก็จะฆ่าเขาทิ้ง !
“ บ้าเอ้ย ! “- จางเทีย ด่าออกมาในตอนที่วิ่ง
……
เมื่อเห็นว่า จางเทีย ไม่ได้วิ่งกลับไปที่ฐานแต่วิ่งกลับไปที่ทุ่งหญ้าแปลกๆ เกรซ ก็แปลกใจแทนที่จะตื่นตัว สถานที่นี้ทั้งไกลและลับตาคน ไม่มีใครอยู่ที่นี่ในตอนกลางวันแล้วนี่ก็ตกกลางคืนแล้ว
ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนที่เข้าร่วมการฝึกรึนักสำรวจที่มาทุ่งหญ้าพระจันทร์เสี้ยว ไม่มีสักคนที่อยากมาที่นี่ เด็กๆจะเห็นว่ามันอันตรายเกินไปเพราะที่นี่อยู่ติดกับทุ่งหญ้าพระจันทร์เสี้ยว ส่วนนักสำรวจนั้นไม่ได้สนใจอยู่แล้วเพราะมันไม่ใช่ทุ่งหญ้าพระจันทร์เสี้ยวและพวกเขาคงหาหมาป่าทองและหญ้าคอห่านที่นี่ไม่ได้
ก่อนที่จะวิ่งไปที่ทุ่งหญ้านั่นตามหลัง จางเทีย ไป เกรซ ได้หยุดอยู่ด้านนอกและมองไปรอบๆ ในตอนที่เขามั่นใจแล้วว่าไม่มีใครตามมา เขาก็ยิ้มออกมาแล้ววิ่งเข้าไป ในเวลาเดียวกันเขาก็แอบดึงดาบออกมาจากฝักที่เอวของตัวเอง
‘ หนึ่งนาที , ในหนึ่งนาทีเท่านั้น ไอ้ห่านี่จะหายไปตลอดกาล ! ‘ เกรซ พึมพำในใจ
ตอนนั้นพระอาทิตย์ได้ลับขอบฟ้าไปแล้วทำให้ทุ่งหญ้านี่ดูมืดลงยิ่งกว่าเดิม เกรซ ได้ยินแต่เสียงแมลงแทนที่จะเป็นเสียงคน ในตอนที่หลังของ จางเทีย หายไปจากสายตา เกรซ เพื่อที่จะไม่ให้เขาคลาดสายตาอีก เกรซ ก็ได้เพิ่มความเร็วขึ้น
มันง่ายที่จะหาคนซึ่งซ่อนอยู่ในทุ่งหญ้านี้ หลังจากที่หารอบๆประมาณ 5 นาทีได้ เกรซ ก็ยังไม่เจอเงาของ จางเทีย ในตอนที่เขาสลดแล้วคิดว่า จางเทีย คงคาดสายตาไปอีกแล้วเขาก็ได้ยินเสียงแปลกๆ มันเหมือนกับเสียงคนที่กำลังขุดบางอย่างอยู่
จากนั้น เกรซ จึงตามหาต้นตอของเสียง
เสียงมันชัดยิ่งขึ้นและง่ายที่จะหาตำแหน่ง บางคนกำลังขุดพื้นอยู่จริงๆด้วย
หลังจากที่เดินเข้ามา ในที่สุด เกรซ ก็ได้เห็น จางเทีย กำลังขุดพื้นโดยใช้พลั่วอยู่
“ แกมาขุดอะไรที่นี่ ? “
เงาและรอยยิ้มอันเย็นชาที่ปรากฏออกมา เกรซ ได้เดินออกมาจากป่าพร้อมกับอาวุธในมือ......