spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 139: ผ่อนคลาย
เพราะเมื่อคืนไม่ได้ฝัน จางเทีย จึงหลับสนิททั้งคืน โดยเฉพาะเมื่ออยู่กับ บลู และพวกเขาได้วางกับพักไว้บนทางเผื่อว่าจะมีคนอื่นเข้ามาในถ้ำเมื่อพวกเขายังนอนอยู่
เสียงหอนหมาป่าจากทุ่งหญ้าด้านนอกนั้นยังคงดังอยู่ตลอด บางเสียงนั้นฟังดูเหมือนจะอยู่ไม่ห่างมาก ถ้าเป็นแต่ก่อน จางเทีย คงนอนหลับไม่สนิท เขาต้องออกไปเช็คซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อให้ตัวเองวางใจได้แต่เมื่อคืนนี้ จางเทีย หลับสนิทอย่างที่ไม่คิดมาก่อน
เสียงหมาป่าด้านนอกนั้นทำให้นึกถึงเสียงหมาและเสียงฝนตกกระทบหลังคาบ้านตัวเอง ทุกอย่างนั้นทำให้รู้สึกคุ้นเคย เมื่อได้ยินเสียงแบบนั้น จางเทีย เลยรู้สึกสบายใจและนอนหลับไปอย่างง่ายดาย
จางเทีย รู้ว่าข้างนอกนั้นไม่ใช่เสียงฝนตก หมาป่าก็ยังคงหอนอยู่ ถ้ำที่เขานอนนี้อยู่ในปลายขอบของเขตทุ่งหญ้าแต่นั่นก็ยังไม่ได้เปลี่ยนความรู้สึกที่เขารู้สึกได้
มันเก็เหมือนกับตอนที่เขารู้สึกตอนที่เป็นกระสอบทรายในคลับต่อสู้ ในตอนที่เขาเปลี่ยนความคิดต่อมัน ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไป !
เมื่อคืนนี้ จางเทีย ได้พบกับการเปลี่ยนแปลงใหม่ในตัวเอง
……
เขาไม่รู้ว่าทำไม บางทีอาจเพราะเมื่อคืนนั้นกลับมาดึก ทำให้เขาไม่ได้ตื่นในตอนหกโมงเช้าในวันต่อมาแบบปกติ
ในตอนที่ จางเทีย ตื่นขึ้นมา พระอาทิตย์ก็ขึ้นสูงแล้ว เขารู้สึกสบายในตอนที่นึกถึงตัวเองที่นอนตื่นสายที่บ้าน พ่อแม่ของเขาอาจใจดีกับเขาบ้างบางครั้ง ในวันหยุดตอนที่เขาไม่จำเป็นต้องไปโรงเรียน แม่ของเขามักจะเห็นเขาตื่นสายเหมือนกับหมูที่ขี้เกียจตื่นเช้า
ก่อนที่ จางเทีย จะอายุ 12 แม่ของเขานั้นจะดึงขนหน้าแข้งและตบท้องเขาเพื่อปลุกให้เขาตื่น ตอนที่ จางเทีย ลืมตาปรือๆขึ้นมา เขามักจะเห็นรอยยิ้มบนหน้าแม่และท่าทีเคร่งขรึมที่ตามมา
นั่นแหละคือตอนที่แม่สวยที่สุดในความทรงจำของ จางเทีย !
……
ในตอนที่ จางเทีย ตื่นขึ้นมา บลู นั้นก็ได้ออกไปแล้ว จางเทีย อยู่คนเดียว เมื่อคืนหลังจากที่ จางเทีย กลับมา บลู เหมือนมีแรงกระตุ้นบางอย่างเหมือนกับเขาได้เห็นสัตว์ประหลาดสามหัวหกแขนตอนที่มองมาที่ จางเทีย
จางเทีย รู้สึกว่าแม้แต่ตอนนอน บลู ก็ยังตื่นเช้าและออกไปพร้อมกับธนูของเขา...
หลังจากที่ตื่นแล้ว จางเทีย ไม่ได้ลุกขึ้นทันที เขาแค่อยู่ในถุงนอนต่อและคอยฟังเสียงด้านนอกรวมถึงเสียงของนกและแมลงที่ร้องพร้อมกับสายลม
มันรู้สึกเหมือนกับนอนตื่นสายที่บ้านเลย ! จางเทีย เหยียดตัวไปมาด้วยความพอใจจากนั้นจึงค่อยๆลุกขึ้น
แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันสำคัญแต่ จางเทีย รู้สึกผ่อนคลายอย่างมาก เขารู้สึกสบายและสดชื่นเหมือนกับได้อยู่บ้านในวันหยุด
ดอนเดอร์ บอกว่าไม่ว่าเราจะทำอะไร เราควรเรียนรู้ที่จะผ่อนคลายหลังจากที่ทำงานหนัก กฎของการผ่อนคลายหลังการทำงานคือกฎของหยินหยาง
เพราะเขาได้ทำงานหนักมาเมื่อวานนี้ จางเทีย เลยตัดสินใจที่จะพักผ่อนในวันนี้ หลังจากที่พักแล้วเขาก็จะหาที่กินผลไม้ นั่นแหละคือแผนวันนี้ของ จางเทีย
เสื้อผ้าที่เขาใส่เมื่อคืนนี้ถูกเอาวางไว้ด้านนอก เสื้อของเขานั้นมีแต่เลือดหมาป่าตั้งแต่หัวจรดเท้า เสื้อด้านในของเขาเมื่อคืนนี้ก็เปลี่ยนแล้วเอาไปซัก บลู บอกว่าเขาสุดยอดและดูหล่ออย่างมากเมื่อคืนนี้แต่ไม่ว่าเขาจะหล่อรึเท่แค่ไหนแต่เสื้อผ้าของเขาไม่มีทางที่จะทำความสะอาดตัวเองได้แน่
หลังจากที่ลุกขึ้นมาแล้ว จางเทีย ก็เปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดใส่ จากนั้นเขาก็ออกไปล้างหน้าที่บ่อหน้าด้านนอกถ้ำก่อนที่จะไปหยิบกองเสื้อผ้าเปื้อนๆแล้วเดินกลับไปที่หินข้างๆบ่อน้ำแล้วเริ่มซักเสื้อผ้า
เสื้อและกางเกงของ จางเทีย นั้นมีสีดำทำมาจากผ้าที่เหลือ จุดเด่นของเสื้อผ้าพวกนี้คือราคาถูกและมีความคงทน เพราะมันทำจากผ้าฝ้าย แม้ว่าจะไม่กันน้ำและไม่ได้ทำให้ดูดีแต่มันก็ยังพอให้ความอบอุ่นได้อยู่
เด็กส่วนมากที่โรงเรียนเองก็ใส่เสื้อผ้าแบบนี้ซึ่งนี่ก็เป็นของที่คนส่วนใหญ่ในเมืองใส่กัน สำหรับชุดทหารที่พี่ชายเขาทิ้งไว้ให้นั้นนอกจากว่าเป็นงานปาร์ตี้ จางเทีย ไม่มีทางเอามันมาใส่เล่นในการฝึกแน่ๆ
สำหรับเลือดที่อยู่บนเสื้อของเขานั้น เขาไม่เห็นรอยสีแดงเลยหลังจากที่ซักมันแล้ว นอกจากจะดูแบบละเอียดแล้วเขาจะไม่พบรอยเปื้อนเลย แต่ถึงยังไงเลือดหมาป่าก็ไม่อาจล้างออกได้หมดไม่ว่าจะซักดีแค่ไหนโดยเฉพาะตรงคอเสื้อ ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่ควรใส่เสื้อสีขาวอีกต่อไปเมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืนแล้วด้วย
เสื้อกั๊กของ จางเทีย เองก็มีคราบเลือดอยู่บ้าง หลังจากซักแล้วมีคราบหนึ่งเหลืออยู่ เพราะเสื้อกั๊กนี่ใส่ชิดกับตัวมากที่สุด จางเทีย คิดว่าคราบนี่คนอื่นคงไม่เห็น
หนึ่งอย่างคือเขาคงเอาเสื้อขาวกลับบ้านไม่ได้ ถ้าแม่เขาเห็นเลือดพวกนี้แล้วแน่นอนว่าต้องดีดหน้าผากเขาแน่แล้วต้องด่าเขาเมื่อรู้ว่ามันอันตรายแค่ไหน
‘ อย่าไปอวดเก่งกับใคร ‘ นี่คือคำพูดที่แม่ได้ย้ำกับเขามาเป็นหลายร้อยรอบ แน่นอน จางเทีย น่ะไม่ต้องการให้แม่กังวลเรื่องเขา
หุบเขาและทุ่งหญ้านี้ไม่ได้ขาดแหล่งน้ำ บ่อที่เขาใช้นั้นห่างจากฐานเขาไปเพียง 100 ม. ก่อนหน้านี้ถ้า จางเทีย อยากซักเสื้อที่นี่ เขาต้องเอาอาวุธมาด้วยแต่ครั้งนี้เขาไม่ได้เอาอะไรมานอกจากเสื้อผ้าสกปรกของตัวเองเท่านั้น
หลังจากที่ซักเสื้อและกางเกงเสร็จ ในตอนที่ จางเทีย ซักถุงเท้าอยู่ก็ได้มีหมาป่าสองตัวมาที่บ่อนั่น พวกมันดื่นน้ำอยู่อีกข้างหนึ่งของบ่อ เมื่อพวกมันดื่มเสร็จ หนึ่งในนั้นได้เงยหน้าขึ้นมาและเห็น จางเทีย เข้า
ตอนนั้น จางเทีย เองก็เงยหน้าและมองไปยังหมาป่าสองตัวนนั่น จากนั้นก็ได้ก้มหน้ากลับไปซักถึงเท้าอีกครั้ง แปลก เมื่อเขาเห็นหมาป่าธรรมดามาเป็นกลุ่ม 3-5 ตัวแล้วเขาไม่ได้รู้สึกอะไร นี่ยังไม่ต้องนับว่ากลัวเลย เขาไม่ได้รู้สึกว่าหัวใจตัวเองเต้นเร็วขึ้นด้วยซ้ำ
พวกมันสองตัวมองมาที่ จางเทีย แล้วแยกเขี้ยวใส่พร้อมกับลังเลเล็กน้อย
หลังจากที่ซักถุงเท้าเสร็จ จางเทีย ได้เงยหน้าขึ้นมาอีกรอบและพบว่าหมาป่าสองตัวนั้นยังคงอยู่ที่นี่อยู่ เขาเริ่มหมดความมอดทน เขาหยับก้อนหินเล็กๆขึ้นมาแล้วโยนไปที่มันเพื่อไล่มันไป – “ ไปซะ ... “
หลังจากที่หินตกไปในน้ำก็ทำให้เกิดระลอกขึ้นมา หมาป่าสองตัวนั้นดูเหมือนจะกลัวแล้วหันหลังกลับวิ่งหนีไปในพุ่มไม้แล้วไม่ได้โผล่ออกมาอีก
จางเทีย รู้สึกดีในวันนี้และไม่อยากฆ่ามัน
นี่ก็แค่วันพักเท่านั้น
เมื่อเขาซักเสื้อผ้าตัวเองเสร็จแล้วเอามันไปตากที่กิ่งไม้ข้างๆกองไฟในถ้ำก็ถึงเวลาบ่ายแล้ว เขาคิดถึงเนื้อกระต่ายของ บลู ขึ้นมา จางเทีย ได้ยินหอกขึ้นมาแล้วเดินออกไปด้านนอกถ้ำ
ครึ่งชั่วโมงต่อมาเขาได้กลับมาและเริ่มย่างกระต่ายบนกองไฟในถ้ำ แม้ว่าเสื้อผ้าที่อยู่ข้างๆนั้นจะแห้งแล้วแต่มันก็ไม่ได้มีกลิ่นดีขึ้นเลย เขายังได้กลิ่นควันบนเสื้อผ้าอยู่แต่เนื่องจากเขาอยู่คนเดียวเขาเลยไม่ได้สนใจเท่าไหร่
ไม่นานเนื้อกระต่ายก็สุกขึ้นมา เขาเลียนแบบวิธีของ บลู จางเทีย เริ่มใช้มีดตัวเองเปิดเนื้อกระต่ายแล้วโรยเกลือและพริกไทยลงไป
บางที บลู อาจจะมีวิธีพิเศษในการปรุงทำให้ จางเทีย ทำไม่อร่อยเท่า แต่เขาก็ยังคงพอใจกับรสชาติของมันอย่างมาก หลังจากที่กินเสร็จไปครึ่งหนึ่ง เขาก็เริ่มจุกขึ้นมา เขาออกไปหาต้นไม้ใหญ่ๆด้านนอกถ้ำแล้วไปนั่งใต้ร่มเงาไม้แล้วมองดูทุ่งหญ้าที่อยู่ไกลออกไป
เมฆสีขาวค่อยๆลอยไปมาบนท้องฟ้า มีนกตัวใหญ่หลายตัวที่บินอยู่บนอากาศ ทุ่งหญ้านี้เหมือนกับดินแดนที่ไม่รู้จักที่ราบเรียบราวกับผ้าห่ม
หมาป่าบางตัวนั้นยังคงไล่ตามเหยื่อของมัน เพราะมีตัวหนึ่งที่หลุดออกมาจากฝูง หมาป่าเลยล็อคเป้าหมายไปที่เหยื่อตัวนั้น ละมั่งนั้นยังคงวิ่งต่อไปโดยกระโดดไปมาอย่างผู้เชี่ยวชาญ มันยังคงกระโดดไปข้างหน้าต่อเพื่อที่จะหนี แต่ละครั้งที่มันกระโดดนั้นไกลอย่างมากแต่หมาป่าเองก็ยังคงไล่ตามมาติดๆ เพราะความอดทนอันน่ากลัวของพวกหมาป่าและความเร็วของพวกมันทำให้ละมั่งนั้นไม่มีทางทนไหวได้เลย....
จางเทีย แอบงีบอยู่ด้านบนต้นไม้
ในตอนที่ลืมตาขึ้นมาอีกตอนนี้ก็เกือบเย็นแล้วและลมที่นี่ก็รู้สึกสบายนิดๆ
เขารู้สึกกระปรี้กระเปร่า จางเทีย โดดลงจากต้นไม้แล้วเข้าไปในถ้ำ หลังจากที่จุดไฟขึ้นมาโดยใช้ฟื้นที่เหลือ จางเทีย ก็เริ่มจัดเสื้อผ้าและของตัวเองแล้วออกมาพร้อมกับอาวุธของเขา
ในตอนที่เขาออกจากถ้ำมานั้น จางเทีย ได้เร่งความเร็วไปอีก ไม่นานเขาก็เข้าสู่สภาวะการเคลื่อนที่แบบผู้โดดเดี่ยว
การเคลื่อนที่ของเขานี้เป็นแบบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน มันดีต่อทั้งร่างกายและวิญญาณของเขา จางเทีย รู้สึกได้ว่าเขาอยู่ในสภาวะที่ดีที่สุดตั้งแต่ที่เขาเกิดมาได้ 15 ปีนี้
นี่คือตอนที่เหมาะที่จะพัฒนาขึ้นมาเป็นระดับ 3 และรับประสบการณ์จาก Wild Wolf Seven-Strength Fruit เนื่องจาก บลู นั้นได้มาเยี่ยมที่นี่ จางเทีย จึงไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะกลับมารึเปล่า อีกย่างถ้ำนี้ก็ไม่ได้ลึกรึซ่อนไว้แต่อย่างใด ดังนั้น จางเทีย จึงไม่เลือกที่นี่เพื่อทำการพัฒนาตัวเอง
สถานที่ที่ดีที่สุดที่เขาหาได้นั้นยังคงเป็นฐานเบอร์ 1 ถ้ำที่งูกินทองสร้างขึ้นมา
‘ ยังไม่รู้เลยว่าตอนที่ฉันเข้าไปใน Castle of Black Iron จะทำให้คนอื่นไม่กลัวได้เมื่อไหร่ ‘ จางเทีย คิดในตอนที่วิ่ง
แต่เขาไม่รู้เลยว่าในตอนที่เขาออกมาจากถ้ำนั้น เกรซ ได้มาอยู่ใกล้ๆเขา
ในตอนที่ จางเทีย ผ่านทุ่งหญ้าบนเดินเขานั้น เขาอยู่ห่างจาก เกรซ ไม่ถึง 400 ม. แม้ว่า จางเทีย จะมองไม่เห็นอีกฝ่ายที่อยู่ในป่าใกล้ๆแต่ เกรซ น่ะเห็น จางเทีย
เมื่อเห็นหลังของ จางเทีย แล้ว เกรซ ก็ได้ยิ้มออกมาที่มุมปากตัวเอง...