spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 132: อุบัติเหตุที่ไม่คาดคิดใน The Trouble-reappearance Scene
หลังจากที่เข้ามาในฉากเขาก็ได้เห็นหมาป่าราวๆ 30 ตัวโดยมีหมาป่าตัวโตกว่า 6 ตัวและธรรมดาอีก 23 ตัว มีอย่างน้อยสองตัวที่เป็นหัวหน้าฝูง จางเทีย เริ่มรู้สึกผิดขึ้นมา เขารู้ว่าแน่นอนเขานั้นต้องตายในครั้งนี้
ก่อนที่เขาจะได้เข้าไป จางเทีย ได้เลือกสถานที่เป็นข้างแม่น้ำที่เขาฆ่าหมาป่าไปครั้งล่าสุด เกือบจะทันทีที่ จางเทีย เข้าไป หมาป่ากว่า 30 ก็ได้พุ่งเข้ามาเผยให้เห็นเขี้ยวของพวกมัน
ในตอนที่ฝูงหมาป่าพุ่งหาเขานั้น จางเทีย ได้โยนหอกหกเล่มด้วยมือทั้งสองข้างเหมือนกับสายฟ้า ในเสี้ยววินาทีหมาป่าตัวโต 2 ตัวและธรรมดาอีก 4 ตัวนั้นโดนหอกเขาแทงทะลุและล้มลงไปกองที่พื้น
ตอนแรก จางเทีย ตั้งใจที่จะเล็งไปยังหมาป่าตัวโต 6 ตัว แน่นอนว่ามันไม่แม่น ไม่ได้หมายความว่าเขาพลาด ไม่คาดคิดเลยว่าในตอนที่เขาโยนหอกของเขาออกไปใส่หมาป่าตัวโตทั้งหกนั้น หมาป่าธรรมดาที่อยู่รอบๆได้พุ่งเข้ามาข้างหน้าเพื่อหยุดหอกไว้ให้โดยใช้ร่างกายของตัวเอง ดังนั้นเขาจึงโจมตีโดนพวกมันแค่ 2 ตัวโดยหอกอีก 4 เล่มนั้นโดนพวกหมาป่าธรรมดาไป
เมื่อเห็นเหตุการณ์ฉุกเฉินแบบนั้น จางเทีย ก็อึ้ง เขาตระหนักได้ว่าหมาป่าที่เขาสู้มานั้นเริ่มฉลาดและมีลูกเล่นมากกว่าเดิม ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ใช่แค่ฝ่ายเดียวที่พัฒนาทักษะต่อสู้ขึ้นมา วิญญาณหมาป่าข้างในเองก็พัฒนาขึ้นด้วยซึ่งในที่สุดวันนี้มันก็ได้แสดงผลออกมา
สิ่งเดียวที่หมาป่ายังคงไม่ได้เปลี่ยนแปลงคือความเกลียดชังในตาของมัน
หลังจากโยนหอกทั้งหกเล่มไป จางเทีย ได้หันหลังกลับและใช้แรงทั้งหมดในการหนี เขาต้องการที่จะลองดูว่านักรบระดับ 2 นั้นอาจจะมีหวังในการจัดการหมาป่าทั้งฝูงได้ ถ้าเขาสู้พวกมันโดยเอาชีวิตตัวเองไปสี่ยง แน่นอนว่าเขาจะตาย ครั้งนี้ฉากนี้มันเหมือนกับตอนที่เขาโดนหมาป่าเจ็ดตัวไล่ล่าที่ทุ่งหญ้า องค์ประกอบเดียวที่เขาสามารถใช้มันได้คือสภาพแวดล้อมและภูมิประเทศ
จางเทีย หนีโดยมีพวกหมาป่าตามมาติดๆ เขาวิ่งเร็วอย่างมากแต่พวกหมาป่านั้นเร็วกว่า เขาเคลื่อนที่ไปไม่ถึง 50 ม.ในตอนที่เขารู้สึกถึงแรงลมที่พัดอัดเข้ามาที่ด้านหลังของเขา เขาบิดตัวแล้วดึงมีดที่เอวออกมาแล้วแทงไปที่ท้องหมาป่าตัวโตที่พุ่งเข้ามาใส่เขา
ความแข็งแกร่งและดุดันของหมาป่าตัวโตนั้นเอาไปเทียบกับหมาป่าธรรมดาไม่ได้ ถ้ามันเป็นหมาป่าธรรมดา จางเทีย คงจัดการโจมตีพวกมันได้ง่ายๆโดยไม่ต้องลดความเร็วลงแต่มันเป็นหมาป่าตัวโตที่ซึ่งความแข็งแกร่งและความเร็วนั้นทำให้เขาต้องสะดุด
หลังจากที่ล้มไปกับพื้นแล้วหมาป่าตัวโตได้ก้าวมาข้างหน้าได้อีกสองก้าวเพราะแรงเฉื่อยจากการวิ่งเมื่อตะกี้ หลังจากนั้นมันได้มองกลับมาที่ จางเทีย ดูเหมือนว่ามันอยากที่จะพุ่งเข้าใส่เขาอีกครั้งแต่ในตอนที่มันลงไปกองกับพื้นนั้น จางเทีย ก็สะบัดมีเปิดส่วนช่องท้องของมันออก
ในเวลาเดียวกัน จางเทีย ก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่สามารถหนีได้อีกต่อไป เขาเข้าใจว่าแม้ว่าเขาจะระดับสูงกว่าหมาป่าตัวโตหนึ่งระดับ เขาก็คงมีความเร็วไม่เท่าพวกมัน บางทีมันอาจเป็นไปได้ถ้าเขาขึ้นไปถึงระดับ 3 แต่แน่นอนว่าตอนนี้เขาน่ะเทียบมันไม่ได้
แม้ว่าเขาจะไม่ได้ตายจริงๆในนี้แต่เขาก็รู้สึกถึงความเจ็บปวด เพราะการไม่อยากตายด้วยความเจ็บปวด จางเทีย ได้ตัดสินใจเลือกในสิ่งที่เขาจะทำในสถานการณ์จริงๆถ้าเขาโดนหมาป่าขนาดนี้ไล่ตาม---- เขาได้กระโดดลงแม่น้ำ
น้ำตรงนี้ลึกระดับหัวเข่า พื้นด้านล่างมันเป็นโคลนดังนั้นจึงทำให้เป็นเรื่องยากอย่างมากที่จะเดินได้ เดินต่อแค่เพียงสองก้าวหลังจากที่กระโดดลงมา เท้าของ จางเทีย ตอนนี้ก็จมกับโคลน เมื่อเดินต่ออีกสองก้าวเขาก็เหลือเพียงแค่เท้าเปล่า
หมาป่าที่ไล่ตามมาต่างก็พุ่งลงน้ำโดยไม่ลังเล จางเทีย เดาเรื่องนี้เอาไว้อยู่แล้ว เพราะหลังจากที่เขากิน Trouble-reappearance Fruit ผลแรกเข้าไป จางเทีย ได้พยายามกระโดดลงหลุมอยู่หลายรอบแต่เขาก็พบว่าหลังจากที่เขาโดดไปแล้วหมาป่านั้นจะตามเขาเข้ามา พวกมันจะไม่หยุดไล่ตามจนกว่าพวกมันรึไม่เขาที่ตายลงไป พวกมันกล้าที่จะกระโดดลงหลุมลึกแล้วนี่แม่น้ำคงไม่ต้องพูดถึง
ห่างจากฝั่งไม่ถึง 10 ม. น้ำเริ่มขึ้นมาถึงระดับต้นขา น้ำที่นั้นไม่ได้ไหลแรงอะไร
จางเทีย หันกลับมาและพบว่าหมาปาตัวโตตัวหนึ่งอยู่ห่างเขาไป 1.7-2 ม.
เขาเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าหมาป่าเองก็ว่ายน้ำเก่งเหมือนกัน
หมาป่านั้นใช้ท่าหมาในการว่าย จางเทีย เองก็รู้ท่านี้จากที่โรงเรียน ตัดสินจากท่าทางการว่ายแล้วเขาเทียบทักษะการว่ายน้ำของมันไม่ติดเลย
ในฉากนี้การต่อสู้ระหว่างคนกับหมาป่านั้นไม่มีทางเกิดขึ้นในแม่น้ำกับชีวิตจริงๆแน่ๆ
เพราะขาเขาจึงถึงเข่านั้นจมลงไปในโคลนทำให้เขาแทบขยับเท้าของตัวเองไม่ได้นี่ไม่ต้องคิดถึงเรื่องใช้มันโจมตีหมาป่าเลย หมาป่าเองก็เริ่มว่ายน้ำเข้ามาหาเขาแต่พวกมันเองก็ช้าลงเนื่องจากแรงต้านของน้ำ ดังนั้นแล้วภัยร้ายที่สุดของพวกมันที่เหลืออยู่ก็คือเขี้ยว
ในตอนที่อยู่ในน้ำ การยืนตำแหน่งของหมาป่านั้นเริ่มกระจัดกระจายกัน เมื่อเห็นแบบนั้น จางเทีย ได้หัวเราะออกมาและโยนมีในมือแล้วใช้ท่ามือของทักษะหมัดเหล็กโลหิต เขาล็อคเข้าที่คอของหมาป่าตัวโต เมื่อโดนแบบนั้นมันก็เตรียมพร้อมที่จะกัดที่ข้อมือของ จางเทีย ตอนนั้นเองมือทั้งสองของ จางเทีย ได้ต่อยเข้าที่หูของมันเหมือนกับค้อนทำให้เลือดนั้นระเบิดออกมาจากตาของมัน แม้ว่ามันจะบาดเจ็บรุนแรงแต่ฟันหน้าของมันเองก็ยังโดนแขนของเขาทำให้เกิดแผลขึ้นมา
แค่รอบเดียวทั้งสองฝ่ายก็ได้แผลกันขึ้นมา
แต่ความจริงที่ว่า จางเทีย ลงมือได้เร็วกว่านั้นทำให้ความต่างระหว่างนักรบระดับ 2 กับหมาป่าระดับ 1 นั้นไม่สามารถที่จะมองข้ามได้ ในตอนที่หมาป่าได้ก้มหัวของมันเพราะโดนหมัดค้อนฟาดเข้าไป จางเทีย ก็ได้ล็อคเข้าที่คอมันอีกครั้งก่อนที่จะหักคอมันทิ้ง
จางเทีย คลายมือออกก่อนที่หมาป่านั่นจะจมลงไปในน้ำ ด้านหลังหมาป่าตัวโตนั่นมีหมาป่าอีกเป็นฝูงซึ่งแสดงสายตาโกรธแค้นออกมา จางเทีย ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหนีอีกครั้ง
“ ฮาฮา....เจ๋งชะมัด ! “ - จางเทีย หัวเราะออกมา – “ มาสิ เพราะฉันเคยฆ่าพวกแกมาก่อน ฉันเลยฆ่าพวกแกได้อีก แกอยากแก้แค้นงั้นเหรอ ? มาสิ มา ! “
การรต่อสู้ระหว่างคนและหมาป่าเริ่มขึ้นอีกครั้ง.......
เพราะการไม่เคยสู้ในน้ำทำให้ จางเทีย ไม่รู้เลยว่ามันยากแค่ไหน เขารู้สึกได้ว่าแรงของเขานั้นโดนไปอย่างรวดเร็วในแต่ละการเคลื่อนที่ในน้ำซึ่งได้กินแรงมากกว่าเดิมอยู่หลายเท่า ยิ่งเขาเคลื่อนที่เร็วมากเท่าไหร่ยิ่งใช้แรงมากกว่าเดิม เขาเสียแรงไปเพราะแรงต้านของน้ำ แต่ละก้าวที่ลึกไปอีกก็จะทำให้เขาเคลื่อนที่ได้ยากกว่าเดิม
หลังจากนั้นแค่เพียง 10 นาที ก็ได้มีศพหมาป่ากว่า 10 ตัวที่ลอยอยู่ในน้ำ จางเทีย มีแผลมากกว่า 20 ที่ ตอนนั้นเขาเข้าใจกฎอีกอย่าง ว่าระดับของเขาจะสูงกว่าหมาป่าแต่ความอดทนน่ะเทียบพวกมันไม่ได้ หมาป่าแต่ละตัวมีความอดทนที่สุดยอด
เขาเริ่มรู้สึกว่ามืออ่อนแรงลงเรื่อยๆทำให้การโจมตีของเขาเองก็เบาและช้าลงแต่หมาป่านั้นยังคงว่ายน้ำเข้ามาหาเขาโดยไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย มันแค่ต้องการที่จะกัดเขาเท่านั้น
เมื่อเห็นแบบนั้น จางเทีย ก็ได้กัดฟันแน่และทำการต่อสู้กับพวกหมาป่าต่อ ดูเหมืนอว่าเขาจะลืมไปแล้วว่าได้แผลมาเพิ่มกี่ที่ในการทำแบบนั้น
หลังจากที่อยู่ในฉากนี้นาน เขารู้สึกว่าเขามีความอดทนเพิ่มขึ้นเพราะการเมินเฉยความเจ็บปวดและบาดแผลต่างๆ
ห้านาทีต่อมาหมาป่าหลายตัวก็โดนฆ่าไปทำให้แผลที่ตัวเขานั้นมีมากกว่าเดิม ต้องขอบคุณที่แผลพวกนี้ไม่ได้ร้ายแรง จากนั้นสนามต่อสู้ของพวกเขาตอนนี้ก็ได้เปลี่ยนเป็นส่วนที่น้ำตื้นๆ
จางเทีย เริ่มรู้สึกว่าหมัดค้อนนั้นเริ่มเบาลง เขาใช้เวลามากกว่าเดิมในการหักคอหมาป่า เพราะมันใช้เวลามากเกินไปเขาจึงไม่สามารถตอบโต้กับการโจมตีโต้กลับของพวกหมาป่าได้และทำให้โดนกัดเข้าที่แขนจากหมาป่าอีกตัว
เพราะเจ็บ จางเทีย จึงเริ่มหงุดหงิดขึ้น แม้ว่าหมาป่าอีกตัวนั้นจะห้อยอยู่ที่แขนของเขาอยู่แต่เขาก็ยังคงหักคอหมาป่าที่อยู่ในมือก่อนที่จะหักคอหมาป่าที่อยู่ตรงแขนเขาต่อ
การโจมตีอันรุนแรงครั้งสุดท้ายดูเหมือนจะเหมือนแสงสุดท้ายของคนที่กำลังจะตายในไม่ช้า หลังจากที่จัดการหมาป่าที่ห้อยอยู่ตรงแขนตัวเอง จางเทีย รู้สึกว่ามือของเขารู้สึกเบาราวกับเส้นก๋วยเตี๋ยว ตอนนั้นก็ได้มีหมาป่าอีกตัวโจมตีเข้ามา เพื่อรับการโจมตีนั้น จางเทีย ได้บิดตัวออกไปด้านข้างทันที
แต่มีบางอย่างที่ทำให้ จางเทีย ต้องอึ้ง ส่วนไหล่ของ จางเทีย โดนหมาป่ากัดเอาทำให้เขาตกลงไปน้ำและได้โดนหมาป่าตัวที่เหลือนั้นตามมาขย้ำอีก....
ครึ่งนาทีต่อมาฉากตรงนั้นก็ได้ระเบิดออกกลายเป็นเศษก่อนที่จะหายไป...
นี่คือการต่อสู้นองเลือดและโหดร้ายที่สุดกับพวกหมาป่าที่ จางเทีย เคยเจอมาและมันจบลงด้วยการที่พวกหมาป่านั้นเป็นผู้ชนะ
เขานั่งอยู่ใต้ต้นไม้ จางเทีย ได้ลืมตาขึ้นมา เขาเงยหน้าขึ้นไปมองเมฆที่กลิ้งไปมาด้านบนพร้อมกับความสับสนเล็กน้อยและมีอาการช็อคแสดงออกมาในตาเขาด้วย !
‘ เป็นแบบนี้ได้ไง... ‘ จางเทีย พึมพำ ‘ ทำไมฉันถึงได้รู้สึกว่ากำลังก้าวไปบนของแหลมๆตะกี้ ? ทำไมของแหลมๆนั่นถึงได้โผล่มาในโคลนส่วนน้ำตื้นในแกได้ ? มันไม่เห็นจำเป็นเลย เอามาทดสอบปฏิกิริยารึไง ? ‘
จางเทีย คิดไม่ออกแม้ว่าจะใช้เวลามาสักพัก ตอนที่เขากำลังจะหนีจากการโจมตีของพวกหมาป่า เขาได้เหยียบไปยังของแหลมๆในโคลน เพราะมันเขาจึงต้องอึ้งทำให้เขาโดนหมาป่าพวกนั้นฆ่า
แล้วถ้าของแหลมๆนั่นมีจริงๆในแม่น้ำล่ะ ? ความคิดนี้แว๊บขึ้นมาในหัวของเขาราวกับสายฟ้าที่ปะทุขึ้น....