หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 130: ชื่อเสียงอันโด่งดัง

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 130: ชื่อเสียงอันโด่งดัง

 

ตอนนั้นเองก็มีเสียงตะโกนที่พัดผ่านเข้ามาพร้อมกับสายลมที่กราดเกรี้ยวซึ่งไม่อาจมีใครมองเห็นได้  ไม่นานหลังจากนั้นหมาป่าตัวใหญ่ที่อยู่ใกล้ๆ อบู นั้นก็ได้กรีดร้องออกมาเพราะคอของมันนั้นโดนหอกที่โยนออกมานั้นแทงทะลุจนไปปักที่พื้น หลังจากที่แทงเข้าที่คอของหมาป่าแล้วมันยังฝังลึกไปที่พื้นกว่าหนึ่งฟุต ด้ามจับของมันยังคงสั่นไหวเพราะความรุนแรงที่โยนมา....

จนกระทั่งตอนนี้เด็กที่ร้องเรียก อบู ก็ยังไม่ได้ดึงมีดออกมา ไม่คาดคิดเลยว่าหมาป่าข้างๆตัวเขานั้นโดนฝังกับพื้นไปเรียบร้อยแล้ว

ไม่นานหลังจากนั้นเสียงร้องของหมาป่าตัวนั้นก็ได้เงียบลง หมาป่าตัวอื่นเองก็ได้ร้องโหยหวนอออกมา ปรากฎว่าในเวลาเดี่ยวกันนั้นก็ได้มีหอกอีกอันที่โยนเข้าใหมาป่าตัวใหญ่ที่ซึ่งมันกำลังจับจ้องไปที่เด็กทั้งห้าอยู่

ตอนนี้ไม่ใช่แค่ บอนเดอร์ และเพื่อนของเขาเท่านั้นที่อึ้งแต่หมาป่าเองก็ด้วย

ทุกคนเห็นเด็กผมดำที่พุ่งเข้ามาจากเนินเขาที่อยู่ห่างออกไป 40 ม.แต่หมาป่าสามตัวนั้นไม่ได้ลดความเร็วของพวกมันเลย  หลังจากที่เปลี่ยนเป้าหมายแล้วมันก็ได้พุ่งเข้าหาเด็กหนุ่มผมดำคนนั้นแทน

“ ระวัง.... “ - บอนเดอร์ ตะโกนออกมาและวิ่งไล่ตามหมาป่าทั้งสามไปพร้อมกับเด็กคนที่เหลือ  ในสายตาพวกเขาแล้วเด็กที่วิ่งเข้ามานั้นกำลังตกอยู่ในอันตราย

แต่ทุกอย่างนั้นดูเหมือนจะเกิดขึ้นในเสี้ยววินาที เด็กที่ไล่ตามหมาป่าไปนั้นแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง

เด็กที่พุ่งเข้ามานั้นอยู่ๆก็เอาหอกอีกสองอันออกมาโยนเข้าใส่หมาป่าสองตัว ในเวลาเดียวกันที่หอกนั้นพุ่งเข้ามา หมาป่าสองตัวก็โดนหอกนั้นปักลงไปที่พื้นโดยหอกแต่ละเล่มนั้นห่างกันไม่ถึง 1 ม. ตอนนี้เหลือหมาป่าเพียงแค่ตัวเดียว เมื่อเห็นแบบนั้นหมาป่าตัวสุดท้ายได้เร่งความเร็วตัวเองขึ้นไปอีกแต่เด็กนั่นหลบการโจมตีโดยเอียงร่างกายออกไปด้านข้างแทน

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นเร็วซะจน บอนเดอร์ และคนที่เหลือนั้นต้องอึ้งกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนที่มันจะจบลง หลังจากที่อาศัยแรงเหวี่ยงตัวในตอนสุดท้าย หมาป่าตัวที่เหลือก็ล้มลงไปกองที่พื้น

แต่เด็กนั่นยังคงวิ่งเข้ามาโดยที่ไม่ได้ลดความเร็วรึมองกลับหลัง ดูเหมือนว่าเขารู้ว่าหมาป่าพวกนั้นน่ะตายแล้ว

“ เร็วเข้า รีบไปดูเพื่อน ไปช่วยพวกนั้นก่อน ! “

ตอนนี้ทุกคนก็เพิ่งรู้ตัวว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขารีบหันหลังกลับและไปดูอาการเพื่อนตัวเอง

สิบนาทีต่อมาศพของเด็กสี่คนและหมาป่าอีก 6 ตัวก็ถูกเอามาวางเรียงแถวกันโดยมีเพื่อนคนที่รอดนั้นต่างก็ร้องไห้จนตาแดงกล่ำ  เมื่อเห็นใบหน้าของเด็กพวกนั้นแล้ว จางเทีย ก็รู้สึกเศร้าขึ้นมาเล็กน้อย

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นศพเด็กรุ่นเดียวกันตรงหน้า  ศพของเด็กทั้งสี่นี้ดูแตกต่างกันไป คนที่น่าสงสารที่สุดก็คือคนที่ยังตาค้างอยู่และหน้าบิดเบี้ยวเพราะโดนเปิดท้องออกมาด้วยกงเล็บ

ไม่ว่าจะเป็นด้านทิศตะวันออกรึตะวันตกก็ไม่ได้มีประเพณีที่ว่าให้คนตายตาไม่หลับแบบนี้   จางเทีย เองก็รู้ถึงเรื่องการทำพิธีให้คนตายที่ ดอนเดอร์ สอนมา

“ ให้ฉันลองดูสิ ! “

จางเทีย เดินเข้ามา เมื่อเห็นเด็กนั่นเดินเข้ามาแล้ว บอนเดอร์ จึงได้ถอยหลังกลับไป

เขาเอาขวดน้ำออกมาจากเอวแล้วเทมันลงและดึงเสื้อของ บิลลี่ ออก  เขาเริ่มที่จะทำความสะอาดศพนั่น  กลิ่นที่ลอยออกมานั้นคาวเลือดสุดๆแต่ จางเทีย นั้นไม่ได้กลัวเลยสักนิดรึไม่ได้รังเกียจเลยด้วย  เขาแค่รู้สึกสลด  สลดที่ว่าเด็กที่ไร้ทางสู้กลับมาต้องตายในโลกแบบนี้

เขาคิดถึงแม่ตัวเอง เมื่อเห็นสีหน้าของ บิลลี่ แล้ว จางเทีย ก็คิดถึงแม่ของเด็กคนนี้   เขารู้สึกว่า บิลลี่ น่ะคือเขาอีกคน คนธรรมดาที่ไม่ได้มี Castle of Black Iron รึได้มีโอกาสได้กินผลไม้แปลกๆ

ไม่นานน้ำในขวดก็ถูกใช้จนหมด

“ มีอีกมั้ย ? “ - จางเทีย ถาม

เมื่อได้ยินแบบนั้นเด็กคนอื่นข้างๆก็รีบส่งขวดน้ำให้  จางเทีย ทำความสะอาดแผลของ บิลลี่ ต่อ  หลังจากนั้นเขาก็ได้ทำความสะอาดคราบสกปรกที่เสื้อของ บิลลี่   หลังจากทำทุกอย่างเสร็จเขาก็ได้ดึงชุดปฐมพยาบาลออกมาแล้วเริ่มเย็บแผลของ บิลลี่

“ เพื่อน ทนหน่อยนะ ฉันทำเป็นครั้งแรกแต่ฉันจะเย็บมันอย่างดีเลยแผลนายจะได้ไม่ดูน่าเกลียด ! “ - จางเทีย บอกกับ บิลลี่โดยมีเด็กคนที่เหลือรุมล้อมดูอยู่ซึ่งตอนนี้หน้าพวกเขาต่างก็เปียกไปด้วยน้ำตา

เพราะ จางเทีย นั้นไม่กลัวที่จะทำแบบนี้ มือของเขาจึงไม่ได้สั่นเลยสักนิด เขาปิดแผลของ บิลลี่ เหมือนกับที่เขาเย็บเสื้อผ้าตัวเอง  หลังจากนั้นเขากจึงได้ล้างมือและซ่อมเสื้อผ้าของ บิลลี่ ต่อ  สุดท้ายเขาก็ปิดแผลและแต่งตัวให้ศพเสร็จ

“ เพื่อน ฉันเย็บแผลและทำความสะอาดแผลกับเสื้อผ้านายแล้ว นายดูหล่อขึ้นเยอะเลย อย่าทำสีหน้าเจ็บปวดแบบนั้นให้แม่นายรึคนในครอบครัวเห็น วางใจได้และไปสบายเถอะ จำไว้ว่าระวังด้วยในการฝึกครั้งหน้า ! “

จางเทีย พูดพร้อมกับเอามือค่อยๆปิดตาของ บิลลี่  ที่ทำให้ทุกคนอึ้งนั้นคือหลังจากที่ จางเทีย เอามือออกจากหน้าของ บิลลี่ แล้ว  บิลลี่ ได้ปิดตาลงและดูผ่อนคลายยิ่งกว่าเดิม  เมื่อเห็นแบบนั้นแล้วเพื่อนทุกคนของเขาก็เริ่มวางใจขึ้น

หลังจากที่เอามือของ บิลลี่ ไปวางที่ท้องและประกบกันแล้ว จางเทีย ก็ลุกขึ้นยืน

“ นี่หอกของนาย ! “
บอนเดอร์ ที่ตาแดงกล่ำได้ทำความสะอาดหอกและส่งมันให้กับ จางเทีย  นี่คือหอกอันสุดท้ายที่ จางเทีย ได้ใช้ในการต่อสู้  มันถูกฝังไว้ในปากของหมาป่าตัวสุดท้ายซึ่งรวมถึงด้ามจับมันเองด้วย  ในตอนที่เขาเริ่มบิดตัว จางเทีย ก็ได้ดึงหอกออกมาและโยนมันเข้าไปในปากของหมาป่าตัวสุดท้าย

บอนเดอร์ และคนอื่นๆในที่สุดก็เข้าใจว่าอะไรที่ทำให้หมาป่าตัวสุดท้ายนั่นตายเมื่อ จางเทีย ทำแผลให้กับ บิลลี่  หลังจากนั้นพวกเขาก็เริ่มสวดให้กับเพื่อน   ผู้โดดเดี่ยวคนที่ได้ช่วยชีวิตทุกคนไว้นั้นยิ่งใหญ่จริงๆโดยเฉพาะทักษะหอกซึ่งทำให้ทุกคนอึ้ง

“ เพื่อน นายบอกชื่อนายได้มั้ย ? “ - บอนเดอร์ ถามขึ้น  เมื่อเห็น จางเทีย รับหอกกลับคืนไป – “ ถ้าไม่มีนาย เราทุกคนคงโดนฆ่าแล้ว ! “

“ ฉัน จางเทีย ! “

“ นายคือ จางเทีย คนนั้น ! “ – เด็กหลายคนดูเหมือนจะเคยได้ยินชื่อเขามาก่อน  พวกนั้นต่างก็พากันเริ่มแปลกใจ – “ นายคือ จางเทีย คนที่เปิดเผยว่า สมิหลา เป็นสายลับ ! “

จางเทีย พยักหน้าก่อนที่จะมองไปที่คนอื่นๆ – “ พวกนายมีแผนอะไรต่อ พวกนายต้องการที่จะอยู่ในทุ่งหญ้านี้ต่อมั้ย ? “

“ ไม่มีทาง เราตัดสินใจแล้วว่าจะกลับ .. “ - บอนเดอร์ ดูสลด –“  เราเรียนรู้ความผิดพลาดแล้ว ! “

“ ถ้าพวกนายอยากกลับ ฉันพาพวกนายไปส่งได้เผื่อว่ามีอุบัติเหตุ ! “

“ ขอบคุณ ! “

……

แม้ว่าจะตัดสินใจแล้วว่าจะกลับไปแต่ทุกคนก็ยังคงหากิ่งไม้แล้วทำแคร่แบบลวกๆขึ้นมา รวมถึง จางเทีย ด้วย  พวกเขาเอาศพเด็กพวกนั้นใส่บนแคร่และเตรียมที่จะแบกกลับไปที่ปราสาท  เด็กสองคนที่ได้รับบาดเจ็บนั้นก็จัดการกับแผลตัวเองและทำไม้เท้าขึ้นมาโดยใช้กิ่งไม้แล้วเดินตามคนอื่นๆไป

ตอนนี้มีเด็กทั้งหมด 14 คนที่สามารถเคลื่อนที่ได้อย่างอิสระ พวกเขาสามารถแบกศพของเพื่อนสี่คนและหมาป่าหกตัวได้

ตามกฎแล้ว จางเทีย มีสิทธิที่จะจัดการกับหมาป่าห้าตัว ไม่มีใครมีความเห็นที่ต่างจากนี้ ที่มากกว่านั้นคือ จางเทีย น่ะช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้  หลังจากคิดสักพักแล้วเขาก็ให้พวกนั้นเอาหมาป่าพวกนี้กลับไปที่ปราสาท  หนึ่งตัวให้กับเพื่อนที่ฐานต้นไม้,หนึ่งตัวให้กับปีเตอร์, หนึ่งกับ อลิซ, แพนโดร่า, และ เบเวอร์รี่ และอีกสองตัวน่ะให้กับ บอนเดอร์ กับเพื่อน

หมาป่าตัวใหญ่นั้นมีค่ามากกว่าหมาป่าทั่วไป พวกมันมีตัวสีดำสนิทยกเว้นแค่วงสีขาวที่อยู่ตรงคอซึ่งมีค่ากว่ามาก เนื้อของพวกมันนั้นสดและอร่อยกว่าไม่เหม็นสาบเท่าหมาป่าทั่วไป

เพราะเป็นหนึ่งในเนื้อที่ดีที่สุดในปราสาทแล้วเนื้อของหมาป่าตัวโตพวกนี้จึงแพงยิ่งกว่าหมูป่าซะอีก มีคำพูดว่าเนื้อหมาป่าตัวโตนั้นส่งผลดีกับร่างกายคนเราอย่างมากรวมถึงพลังคีและเลือดด้วย ดังนั้นแล้วมันจึงถือว่าเป็นอาหารชั้นหรูและเป็นจานโปรดของพวกคนรวย

ของขวัญที่ จางเทีย ให้มานั้นมีค่าอย่างมากในปราสาทแต่พวก บอนเดอร์ ก็ยังคงยืนกรานที่จะไม่รับของขวัญอันนี้เอาไว้

จางเทีย พากลุ่ม บอนเดอร์ เดินทางไปจนกระทั่งห่างจากปราสาท 10 กม. และได้เจอกับทีมอีกทีม เมื่อเห็นสถานการณ์ของกลุ่ม บอนเดอร์ แล้วอีกทีมก็เข้ามาหาและถามว่าเกิดอะไรขึ้น  ทีมที่มีคนไม่ถึง 30 คนนั้นได้วางแผนว่าจะไปที่ทุ่งหญ้าแต่หลังจากที่ได้พบกับ บอนเดอร์ แล้วและรู้สิ่งที่เกิดขึ้น พวกเขาก็ยกเลิกแผนกันทันที

“ เพื่อน นายอยากฝากบอกอะไรเพื่อนมั้ย ? “

“ บอกพวกนั้นว่าฉันสบายดี  ถ้าฉันได้เนื้อมาอีก ฉันจะเอากลับมาให้ หอกของพวกนั้นมีประโยชน์อย่างมากและบอก แพนโดร่า, เบเวอร์รี่ และ อลิซ ด้วยว่าฉันสบายดีและฉันคิดถึงพวกเธอมาก ! “ - จางเทีย บอกคำพูดทั้งหมดที่เขารู้สึกออกมา

“ ได้ ฉันจัดการเอง ! “

“ งั้นพวกนายก็ดูแลกตัวเองต่อละกัน ! “

“ นายก็ด้วย ฉันจะไม่ลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เลย ! “ - บอนเดอร์ พูดด้วยท่าทีเคร่งขรึมพร้อมกับคนอื่นๆเองก็พยักหน้าและมองมาที่เขาด้วยท่าทีเคารพ  เมื่อไม่เคยเจอกับสถานการณ์เอาเป็นเอาตายแบบนี้พวกเขาจะไม่รู้เลยว่ารสชาติของการมีชีวิตมันดีแค่ไหน

จางเทีย ยิ้มออกมาพร้อมกับโบกมือให้ก่อนที่จะเดินออกมา

ในตอนเย็นกลุ่มของ บอนเดอร์ ได้กลับมายังปราสาท จากนั้นทั้งปราสาทก็วุ่นวายขึ้นมา  แม้ว่าคนตายสี่คนนั้นจะทำให้ผู้คนเสียใจและตื่นตัวแต่เทียบกับสิ่งที่ จางเทีย ทำแล้วมันทำให้ผู้คนตะลึงมากกว่า  ความสามารถที่ฆ่าหมาป่า 5 ตัวได้ง่ายๆและช่วยคนมากกว่า 10 คนนั้น เขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนกันเชียว ? ทักษะหอกอันสุดยอดของ จางเทีย น่ะทำให้กลุ่มของ บอนเดอร์ ต้องอึ้ง

เมื่อได้รับหมาป่ามาแล้ว แบร์ลี่ และคนอื่นๆในองค์กรนั้นไม่ได้ตะลึงกับมันเท่าไหร่ พวกเขาแค่ฝึกทักษะต่อสู้ของตัวเองให้หนักขึ้นเท่านั้น

ในทางกลับกันเมื่อได้รับหมาป่ามา ปีเตอร์ และช่างคนอื่นๆได้หอนออกมาอยูสักพักเพราะตื่นเต้นที่จะได้กินเนื้อติดต่อกันสองวันติด พวกเขาล้วนแต่บอกว่าจะใช้ความพยายามทั้งหมดทำหอกขึ้นมาให้ จางเทีย อีก

หลังจากได้รับของขวัญที่ จางเทีย ฝากมาแล้ว แพนโดร่า, อลิซ และ เบเวอร์รี่ ต่างก็กลายเป็นที่ชื่นชมของสาวๆคนอื่นๆ

บางทีแม้แต่ จางเทีย เองก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นถึงขนาดนี้ไปได้  ชื่อของเขานั้นดังขึ้นมา  เขาเริ่มที่จะเทียบเท่ากับ บลู และ เกรซ ได้ที่ซึ่งสองคนนี้น่ะคือคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาเด็กที่เข้าร่วมการฝึกนี้

แต่สองวันก่อนที่ จางเทีย จะได้เป็นที่รู้จักกันนั้น เกรซ ได้กลับมาพร้อมกับหมาป่าทองระดับ 2  นี่เป็นวันแรกหลังจากที่การลงโทษของ มิสกิลิ สิ้นสุดลง  การกลับมาของเขานั้นทำให้หลายคนช็อค ต้นเดือนของเดือนที่สองในการฝึกนั้น เกรซ ได้แสดงความแข็งแกร่งของนักรบระดับ 3 ออกมาและกลายเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาหมู่นักเรียน

“ ฆ่าหมาป่าตัวโตมันไร้สาระ ถ้า จางเทีย กล้าที่จะสู้กับ เกรซ  แน่นอนว่า เกรซ น่ะต้องอัดเขายับในหนึ่งนาทีได้แน่และเขาคงทำได้แค่มองหาฟันตัวเองที่หล่นตามพื้น.. “ – ชาร์ลอน หนึ่งในลูกน้องได้อวดขึ้นมา

ด้วยการเป็นผู้โดดเดี่ยว จางเทีย จึงไม่ได้ยินคำพูดนั้น  แม้ว่าเขาจะไม่ได้ยินแต่ จางเทีย ไม่ได้สนใจคำพูดพวกนั้นอยู่แล้ว แม้ว่าระดับ 3 นั้นจะดูเป็นระดับที่สูงเกินเอื้อมของเด็กคนอื่นแต่ในสายตาของ จางเทีย แล้ว เกรซ น่ะก็แค่กำแพงที่ไม่นานเขาจะก้าวข้ามได้อยู่แล้ว........

สี่วันก่อนหลังจากที่กิน Leakless Fruit เข้าไป จางเทีย ได้ทำให้แสงที่หลังของเขานั้นเปลี่ยนเป็นสีฟ้า  สามวันต่อมาถ้าหลังจากที่กิน Leakless Fruit อีกผลเขาก็จะกลายมาเป็นนักรบระดับ 3

ในอาทิตย์ก่อนหลังจากที่ฆ่าหมาป่าเกือบ 15 ตัว ตอนนี้ จางเทีย ได้มีความแข็งแกร่งของเลือดและความแข็งแกร่งของเส้นเลือดใน Wild Wolf Seven-Strength Fruit ทำให้ Wild Wolf Seven-Strength Fruit ตอนนี้สุกได้ 3 ใน  7 แล้ว !

การเป็นผู้โดดเดี่ยวนั้น จางเทีย จึงไม่รู้เลยว่า เกรซ นั้นได้กลายเป็นนักรบระดับ 3 แล้ว หลังจากที่เป็นผู้โดดเดี่ยวมาได้ 1 อาทิตย์ตอนนี้เขาได้ทำราวกับตัวเองเป็นสายลมที่พัดไปไหนก็ได้อย่างอิสระ....
 

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.