หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 129: สถานการณ์เป็นตาย

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 129: สถานการณ์เป็นตาย

 

“ แฮปบี้ ระวัง .. “ – บอนเดอร์ ตะโกนออกมาอย่างดังพร้อมกับตาที่เปลี่ยนเป็นสีแดง

แต่มันก็สายเกินไปแล้ว หมาป่าตัวใหญ่สีดำซึ่งตัวใหญ่ยิ่งกว่าหมาป่าทั่วไปและโหดร้ายยิ่งได้กระโดดเข้ามา

หมาป่านั้นหนีออกจากหอกของเด็กสามคนได้ก่อนที่จะจัดการตะครุบคนหนึ่งลงกับพื้น ด้วยการกัดครั้งเดียวของมันแล้วก็ได้ทำให้เกิดแผลเหวอะที่คอเด็กคนหนึ่งแต่ก่อนที่หอกและมีดจะได้เข้าไปถึงตัวของมัน หมาป่าเจ้าเล่ห์ก็ได้โจมตีสำเร็จแล้วได้กระโดดออกไป หลังจากนั้นมันได้เผยเขี้ยวที่เปื้อนเลือดออกมาพร้อมกับขยับออกไปด้านข้างหลายก้าว  ตาของมันนั้นจ้องมาที่กลุ่มของเด็กน้อยที่ตอนนี้ต่างก็พากันหน้าซีด

ไม่นานก็ได้มีเสียงงหอนดังขึ้นมาจากอีกที่ ในเวลาเดียวกันเด็กหนุ่มอีกคนที่สวมเกราะหนังถือหอกยาวก็โดนกงเล็บของหมาป่าจัดการเข้า ทันทีที่เด็กนั่นล้มลงที่พื้นแล้วกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด มันก็ใช้เวลาไม่นานก่อนที่ลำไส้ของเขาจะไหลกองออกมาที่พื้นแล้วเขาก็ต้องกลิ้งไปมาด้วยความเจ็บปวดซึ่งทำให้ทุกคนต่างก็พากันหลอน

ฉากตรงนี้เป็นฉากนองเลือดที่โหดร้ายที่สุดที่พวกเขาเคยเห็นแต่ที่เลวร้ายกว่านั้นน่ะคือความกลัวที่กัดกินหัวใจพวกเขา --- ความกลัวที่จะตาย !

“ ไม่ ฉันไม่อยากที่จะตายที่นี่ ฉันอยากจะกลับไป ฉันอยากกลับไปที่ปราสาท  ฉันไม่อยากออกล่าหมาป่าทองอีกแล้ว... “
เมื่อเห็นเพื่อนตัวเองตายแล้วกลุ่มเด็กน้อยก็เริ่มที่จะใจสลายกัน พวกเขาเริ่มกรีดร้องออกมาพร้อมกับโยนหอกในมือทิ้งแล้ววิ่งทิ้งวงล้อมออกมามุ่งหน้าไปยังปราสาทโดยไม่หันหลังกลับมามอง

“ ไอ้พวกห่านี่ กลับมา...”
“ ปิโน่ แกจะตายนะ กลับมา...”

“ อย่าวิ่งหนี... “

เด็กที่หนีอยู่เริ่มกรีดร้องออกมาเพราะโหยหวนของเพื่อนแต่เด็กนั้นเหมือนจะไม่ได้ยินสิ่งที่เพื่อนพูด พวกนั้นต้องการที่จะออกจากที่นี่เท่านั้น

ในตอนที่อยู่ห่างกันมากว่า 20 ก้าว หมาป่าตัวใหญ่ได้หันกลับและไล่ตามเขาไป ก่อนที่เขาจะได้วิ่งหนีไปอีก 10 ก้าว หมาป่าที่ว่องไวนั้นก็ตามเขาทัน  จากนั้นเด็กคนอื่นก็ได้เห็นเพื่อนตัวเองนั้นโดนหมาป่านั่นเข้าโจมตี

หลังจากที่ทำสิ่งที่น่าขนลุกกับ ปิโน่ และเสียงเขี้ยวที่ฉีกเนื้อและกระดูกออกมา ทุกอย่างก็กลับสู่ความสงบ  หมาป่าได้หันกลับมาด้วยปากที่เลอะเลือดและเข้าโจมตีเด็กคนอื่นพร้อมกับฝูงของมัน

หมาป่าตัวใหญ่นั้นเจ้าเล่ห์กว่าสัตว์ชนิดอื่นและโหดร้ายยิ่งกว่าหมาป่าทั่วไป

วงล้อมที่เด็กพวกนี้ตั้งขึ้นมานั้นแคบลงมา พวกเขาไม่กล้าที่เข้าชิดไปอีกเพราะวงนั้นโดนหมาป่าฝ่าออกมาได้แล้วและทำให้เสียสมาชิกไปสองคนก่อนที่จะมีคนอื่นมาแทนที่ตำแหน่งนี้อีกครั้ง

ยังมีเพื่อนพวกเขาอีกคนที่นอนกลิ้งอยู่ที่พื้นพร้อมกับกรีดร้องออกมาอย่างโหยหวนแต่เสียงนั้นดูเหมือนจะเบาลงไปเรื่อยๆ

นอกจากแนวป้องกันด้านนอกที่เด็กๆตั้งขึ้นมาแล้วก็ยังมีเลือดที่สาดกระเซ็นไปทั่ว ที่กลางวงนั้นมีศพหมาป่าหนึ่งตัวโดยมันได้ตายจากหอกที่ทิ่มแทงเข้ามา แต่ที่นอนข้างๆหมาป่าเองก็มีศพของเด็กคนหนึ่งด้วย ไม่ไกลจากที่ที่ แฮปบี้ โดนฆ่านั้นยังมีเด็กคนหนึ่งที่นอนกลิ้งไปมาที่พื้นและร้องออกมาด้วยเสียงที่อ่อนแรงและ ปิโน่ ที่ซึ่งสิ้นลมหายใจไปโดยห่างออกไปอีก 30 ก้าว

หมาป่าตัวหนึ่งคร่าชีวิตคนได้เกือบสี่คน เด็กคนที่เหลือที่ตั้งแนวป้องกันสองชั้นนั้นต่างก็โดนเข้าโจมตี  บางคนมือและเท้าเริ่มสั่น ตอนนี้ความกลัวและความเกลียดชังได้กัดกินหัวใจของพวกเขาอย่างกับพิษ

ระหว่างตอนฝึกนี้ พวกเขามักจะภูมิใจในตนเองเสมอ  หลังจากที่ล่าหมาป่าทั่วไปได้สำเร็จและเหยื่อตัวอื่นๆในหุบเขาได้นั้น พวกเขาก็ลืมที่จะพากันระวังตัว ดังนั้นแล้วหลังจากที่ได้ยินข่าวเรื่องที่เมืองนั้นต้องการที่จะซื้อหญ้าคอห่านและหมาป่าทองด้วยราคาที่สูงแล้ว พวกเขาก็เริ่มคึกและไม่พอใจกับการล่าหมาป่าธรรมดาอีก

พวกเขาเองก็อยากจะลอง ในความเห็นของพวกเขาแล้วเพราะพวกเขามีคนมากกว่า 20 คนที่ร่วมมือกันอย่างดีโดยใช้หอก แม้ว่าจะเจอกับหมาป่าทองที่อยู่ในระดับ 2 พวกเขาก็น่าจะป้องกันตัวเองได้  ถ้าพวกเขาโชคดีพอ พวกเขาอาจจะจับมันเป็นๆรึเก็บหญ้าคอห่านได้บ้าง

แต่พวกเขาไม่เข้าใจถึงความอันตรายของโลกใบนี้

ด้วยความมั่นใจที่มีเต็มเปี่ยมพวกเขาจึงออกเดินทางออกมาจากปราสาทแล้วเดินหน้ามายังทุ่งหญ้าพระจันทร์เสี้ยว

หลังจากที่เดินทางมาทั้งเช้า พวกเขาได้อยู่ห่างจากปราสาทไปกว่า 20 กม.และตอนนี้ก็เห็นทุ่งหญ้าอยู่ตรงหน้าแต่ในตอนนั้นพวกเขากลับโดนฝูงหมาป่าที่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม้ข้างๆกับเนินเขานั้นโจมตีเข้า

ในตอนที่เด็กๆผ่านมา อยู่ๆก็มีหมาป่ากว่า 6 ตัวนั้นโผล่ออกมาเข้าโจมตีโดยที่พวกเขาไม่ทันได้ตั้งตัวซึ่งผลลัพธ์ก็คือมีคนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตไป  ทีมของเด็กๆแตกกระเจิงจากกันจนพวกเขาต้องพึ่งตัวเองในการเอาตัวรอด ก็อย่างที่คาดไว้ หลังจากที่สู้อย่างดุเดือดแล้วฝ่ายที่ชนะไปในครั้งนี้ก็คือพวกหมาป่า

พวกเขาไม่เคยนึกถึงกฎง่ายๆที่ครูตัวเองสอนมาที่โรงเรียนจนกระทั่งในตอนวิกฤตนี้

อย่างแรกคู่ต่อสู้และศัตรูนั้นจะไม่โผล่มาตรงหน้าหลังจากที่คุณนั้นเตรียมตัวมาอย่างดี แต่ถ้าพวกมันโผล่ออกมาหลังจากที่คุณนั้นเตรียมตัวแล้ว พวกมันอาจจะเก่งกว่ารึมีจำนวนมากกว่ามากกว่าที่คุณได้คิดเอาไว้ มากกว่านั้นคือมีโอกาสน้อยที่จะได้เจอกับหมาป่าตัวใหญ่แบบอยู่โดดๆ คุณจะเจอพวกมันมาเป็นฝูง

อย่างที่สอง สำหรับสิ่งมีชีวิตใดๆแล้วแม้แต่ต่างกันแค่เพียงระดับเดียวแต่พลังในการต่อสู้นั้นจะแตกต่างกันอย่างมาก  ดังนั้นแล้วหลังจากที่จัดการกับสัตว์ระดับ 0 ได้ การสู้กับสัตว์ระดับ 1 นั้นจะไม่ได้ง่ายเท่าเหมือนกับมีสัตว์ระดับ 0 มาเพิ่มอีก 3 เท่าตัว หลังจากที่จัดการสัตว์ระดับ 1 ได้แล้วนั้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะรับมือกับสิ่งมีชีวิตระดับ 2  ด้วยความต่างที่เพิ่มขึ้นของระดับนี้พลังในการต่อสู้เองก็จะเพิ่มขึ้นยิ่งเป็นหลายเท่าตัวสำหรับระดับที่สูงขึ้นไปเรื่อยๆ

อย่างที่สาม สำหรับการต่อสู้แล้วเวลานั้นสำคัญอย่างมาก ดังนั้น 10 วินาทีก็อาจที่จะเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้

บางครั้งมันเป็นกฎง่ายๆแต่กว่าที่จะเข้าใจมันได้อาจต้องเสียอะไรไปมากมาย ผลลัพธ์ที่น่าสังเวชของเด็กๆในวันนี้นั้นพวกเขาต้องเสียทั้งเลือดและชีวิต เพราะการโผล่มาของพวกหมาป่า พวกมันให้เวลาพวกเขาไม่ถึง 10 วินาทีในการตั้งค่ายโจมตีเลย

ถ้าพวกเขามีเวลา 10 วินาทีในการเตรียมตัว  แม้ว่าจะเจอกับหมาป่าตัวใหญ่ระดับ 1 แค่เพียง 6 ตัวแต่พวกเขาคงไม่ต้องเจอกับการตายที่น่าสยดสยองแบบนี้  เด็กๆพวกนี้คิดว่าความคิดพวกนี้นั้นมันคิดมากเกินไปที่จะเอามาใช้ในชีวิตจริงได้

หลังจากที่เข้าโจมตีกองทัพของเด็กๆอยู่หลายรอบ หมาป่าตัวที่เหลือก็ได้เพิ่มการโจมตีให้รุนแรงขึ้นอีก  พวกมันทำท่าเป็นพุ่งไปหาวงกองทัพด้านนอกเพื่อโจมตีแต่ก็ยังคงรักษาระยะห่างจากหอกไว้อยู่ พวกเด็กๆจะไม่รู้ตัวจนกระทั่งได้ใช้หอกนั้นโจมตีออกมาถึงจะได้รู้ว่าพวกมันกำลังหลอกอยู่

หมาป่าที่เจ้าเล่ห์พวกนี้ได้วิ่งวนไปเรื่อยๆทำท่าที่จะโจมตี  เพราะความเครียดนี้ทำให้พวกเด็กต้องแทงหอกออกไปทุกครั้งที่หมาป่าทำท่าว่าจะโจมตีเข้ามา

หลังจากที่ทำการโจมตีอยู่หลายรอบ ในที่สุดพวกเด็กก็รู้สึกเหนื่อยมากขึ้นเรื่อยๆ

“ ยื้อไว้และโจมตีเป็นจังหวะ หมาป่าตัวใหญ่พวกมันกำลังหลอกให้เราใช้แรง.. “ - เมื่อเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า บอนเดอร์ ก็ได้ตะโกนออกมาดังๆ

แต่คำเตือนของ บอนเดอร์ นั้นไม่ได้ผลอีกต่อไป ในวงอีกอันนั้นเพื่อนของเขาเริ่มอ่อนแรงลงและทำให้หมาป่าเข้าโจมตีเข้ามา  ก่อนที่จะหอกชุดต่อไปจะได้แทงออกมา มันก็ได้คว้าโอกาสนั้นไว้  มันก้มตัวลงและพุ่งเข้าใส่วงด้านหนึ่งและกัดเข้าที่หน้าแข้งของเด็กคนนั้น  เด็กคนนั้นได้ร้องโหยหวนออกมาพร้อมกับโดนหมาป่านั่นลากลงไปที่พื้น

“ อบู... “

เมื่อเห็นแบบนั้นเพื่อนของเขาก็เริ่มที่จะกังวลกันมากขึ้นและเริ่มแทงหอกออกไปใส่หมาป่าที่ทำการกัดเพื่อนของพวกเขาอยู่  เมื่อหมาป่าสัมผัสได้ถึงอันตรายจึงได้ปล่อยเด็กคนนั้นไป

แต่เมื่อเด็กคนอื่นเริ่มหันไปสนใจหมาป่าตัวนั้น เด็กคนหนึ่งกลับเผลอลดการป้องกันในวงออกมา หมาป่าอีกตัวได้กระโดดเข้ามากัดขาเด็กอีกคนเอาไว้ทำให้เด็กนั่นเองก็ล้มลงไปกองที่พื้นด้วย

เด็กคนอื่นๆเริ่มกลัวและเริ่มเอาหอกชี้เข้าใส่หมาป่าตัวนั้น มันก็รีบถอยกลับไปและวงป้องกัน 7 คนนี้ก็เสียสมาชิกไป 2 คนทำให้เกิดช่องว่างขนาดใหญ่ขึ้นมา ในเวลาเดียวกันหมาป่าอีกสามตัวก็ได้เข้าล้อมวงของ บอนเดอร์ เอาไว้และอยู่ๆพวกมันก็ได้ถอยกลับไปและได้พุ่งเข้าหาอีกวงเพื่อทำการโจมตีให้วงนั้นแตกออก

“ ไม่ ! “ - บอนเดอร์ กรีดร้องออกมา

เมื่อเห็นหมาป่าสามตัวนั้นพุ่งเข้าหาพวกเขา เด็กห้าคนในวงนั้นต่างก็หน้าซีด  มันจบแล้ว มันยากที่พวกเขาจะสู้หมาป่าสองตัวได้ นี่ไม่ต้องคิดถึงสามตัว...

หมาป่าห้าตัวได้เข้าโจมตีเด็กเจ็ดคน  ห้าคนที่ยืนอยู่  ส่วนอีกสองนั้นนอนอยู่ที่พื้น เพราะช่องว่างที่เปิดออกนั้น ภายในเวลาไม่กี่วินาทีก็ไม่มีใครยืนได้อีกต่อไป  หลังจากที่วงนั้นโดนทำลาย อีกวงเองก็คงใช้เวลาไม่นาน นี่คือกลยุทธ์ที่พวกหมาป่าใช้

“ เราจะสู้จนกว่าจะตาย.. “
บอนเดอร์ จับที่หอกตัวเองไว้แน่นและพุ่งเข้าใส่หมาป่าทั้งห้าตัวโดยไม่สนวงรึการป้องกันใดๆ เทียบกับคนอื่นที่โดนพวกหมาป่าฆ่าเพราะโดนหลอกแล้ว เขาเลือกที่จะสู้เองมากกว่าแม้ว่าจะเสียชีวิตเร็วกว่าก็ตาม

ทุกคนเองก็เข้าใจว่าตัวเองนั้นคงเกือบไม่มีโอกาสที่จะรอดได้

เด็กที่ชื่อ อบู ที่ซึ่งโดนโจมตีแล้วล้มลงไปนั้นพยายามที่จะหันหลังกลับก่อนที่จะทำได้แค่คุกเข่าขึ้นมา  เขาโยนหอกของตัวเองไปแต่ในตอนที่เขาจะดึงมีดออกมาจากเอวก็ได้มีหมาป่าอีกตัววิ่งมาอยู่ข้างๆเขาและเปิดปากของมันจะงับเข้าที่คอของเขา....

“ อบู ระวัง... “

เมื่อเห็นว่าหมาป่านั้นจะทำอะไร เพื่อนของ อบู ก็ได้ตะโกนออกมาแต่เขี้ยวคมๆของหมาป่านั้นก็ได้เข้าใกล้ที่คอของเขาแล้ว

แต่ในตอนที่ทุกคนคิดว่ามันคงเป็นไปไม่ได้แล้วที่ อบู จะหนีได้ในครั้งนี้ก็ได้มีเสียงตะโกนมาจากไกลๆ

“ สัตว์อสูร....”

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.