spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 125: จบความแค้น
“ นายไม่อยากให้ช่วยจริงๆเหรอ ? “ - บลู ถามด้วยท่าทีจริงยังหลังจากมาถึงที่หมาย หลังจากที่ใช้เวลาและกินเนื้อแห้งด้วยกันสองครั้ง บลู ก็เริ่มทำเหมือน จางเทีย เป็นเพื่อน
“ นี่คือความแค้นระหว่างพวกมันกับฉัน ดังนั้นฉันต้องฆ่าพวกมันด้วยตัวเอง ! “ - จางเทีย ยิ้มออกมา – “ ไม่ต้องกังวลหรอก พวกมันก็แค่ปลาสองตัวที่หนีออกจากแหไปได้ ! “
เมื่อเห็นหอกหกเล่มที่อยู่ในซอง บลู ก็ได้พยักหน้าและรู้ว่า จางเทีย น่ะฆ่าหมาป่าไป ห้าตัวก่อนหน้านี้แล้ว เขาไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก ยังไงซะคนที่กล้าจะมาอยู่ตัวคนเดียวน่ะก็ไม่ควรที่จะกลัวหมาป่าแค่สองตัวถ้าพวกเขาทนไม่ไหวคงมีชีวิตรอดอยู่ได้ไม่นานแน่
แม้แต่นักรบระดับ 1 เองก็ไม่ได้กลัวหมาป่าแค่สองตัว หลังจากที่คุยกับ จางเทีย มาเมื่อวานแล้ว บลู ก็รู้ว่าเขาน่ะเป็นนักรบระดับ 1 แล้วในตอนที่อยู่ปราสาท ตัดสินจากความแข็งแกร่งจริงๆแล้ว บลู รู้สึกว่า จางเทีย น่ะแข็งแกร่งกว่านักรบระดับ 1 ดังนั้นแล้วเขาจึงไม่ได้ถามอะไรต่ออีก แม้ว่าจะเป็นเพื่อนกันแต่พวกเขาก็ไม่ได้บอกทุกสิ่งที่คิดออกมา
“ ระวังตัวด้วยละกัน ! “
“ ได้ เราจะแยกกันตรงนี้ หวังว่าจะเจอนายอีก ! “ - จางเทีย ยิ้มให้
“ นายจะไปที่ทุ่งหญ้าหลังจากที่จัดการพวกนั้นเสร็จเลยรึเปล่า ? “
“ บางที ! “
“ ฉันเจอเด็กสี่คนจากโรงเรียนนายในพื้นที่ระหว่างหุบเขากับทุ่งหญ้า คนที่ตัวสูงน่ะดูแข็งแกร่งดี ถ้านายอยากแข่งให้ได้รับการแนะนำกับเขาล่ะก็นายต้องทำบางอย่าง ! “ - บลู เตือน จางเทีย หลังจากที่คิดมาสักพัก
ในโรงเรียนของ บลู นั้นในฐานะที่เขาเป็นนักรบระดับ 2 ที่ซึ่งเก่งเรื่องธนู บลู จึงเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดและเป็นที่รู้กันดีว่าไม่มีใครมาเทียบได้ เป็นธรรมดาที่เขาจะได้รับการแนะนำ
แต่ในโรงเรียนของ จางเทีย นั้นดูซับซ้อนกว่า ในสายตาของ บลู แล้วชายที่เขาเจอมานั้นอาจจะแข็งแกร่งยิ่งกว่าตัวเขาเอง ซึ่งหมายความว่าชายคนนั้นต้องเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวสำหรับ จางเทีย
เมื่อได้ยินคำพูดของ บลู หัวใจของ จางเทีย ได้เต้นรัวขึ้นมา เขาเกือบมั่นใจว่านั่นต้องเป็นกลุ่มของ เกรซ เขาไม่คิดว่าพวกนั้นที่หายไปเมื่อหนึ่งเดือนก่อนจะกล้าพอที่จะไปยังทุ่งหญ้าพระจันทร์เสี้ยว
เขาถามข้อมูลเกี่ยวกับกลุ่มนั้นและเมื่อได้ยินคำอธิบายของ บลู ก็ต้องทำให้เขาช็อค เนื่องจาก บลู ได้บอกว่าเห็นพวกนั้นสู้กับกิ้งก่าฟันดาบที่อยู่ในระดับ 3 และชนะกลับมา
นี่แปลว่า เกรซ เองก็พัฒนาขึ้นอย่างมากเมื่อหนึ่งเดือนที่ผ่านมางั้นเหรอ ? นี่ไม่ใช่ข่าวดีสำหรับ จางเทีย เลย เมื่อคิดถึงสายตาอันโหดร้ายของ เกรซ แล้วหัวใจเขาก็เต้นรัวขึ้นมาอีก
“ คนที่นายพูดถึงน่ะคือ เกรซ เขามีความแค้นกับฉัน ลูกน้องสามคนนั่นคือ ซูแฮร์, การ์นเนอร์, ชาร์ลอน ถ้านายเจอพวกนั้นอีก ระวังตัวด้วย พวกนั้นน่ะเห็นแก่ตัวและชั่ว ! “
“ ได้เลย ! “
หลังจากพูดกันอีกหลายคำ บลู ก็ได้นำเขาไปโดยห่างจากถ้ำกว่า 2 กม. มันเป็นเนินเขาที่มีต้นสนปกคลุม จางเทีย เองก็เห็นที่นี่จากที่ไกลๆเมื่อวานนี้แต่เขาไม่คิดว่าหมาป่าสองตัวนั้นจะมาอยู่ที่นี่ เนินเขานั้นห่างจากปราสาทไปกว่า 13 กม. ใกล้กับถ้ำที่เขาใช้หลบฝนเมื่อคืนนี้ วันนั้น บลู ได้เห็นหมาป่าสองตัวเดินไปที่หลังเนินเขาแล้วหายไป ดังนั้นเขาจึงเดาว่าหมาป่าสองตัวนั้นอาศัยอยู่ที่นี่
จางเทีย จับหอกขึ้นมาและเริ่มค้นหาตามเนินเขา
เพราะฝนที่ตกหนักเมื่อวานนี้ทำให้ดินใกล้ๆเนินเขานั้นเป็นโคลน ทุกอย่างตอนนี้ดูสดชื่นขึ้นมา ต้นไม้เองก็เบ่งบานและอากาศเองก็สดชื่นอย่างที่ไม่คาดคิด
ในตอนที่ จางเทีย มาถึงที่นี่ในตอนช้า ฝนที่ตกมาเมื่อคืนนั้นยังไม่แห้ง เขาใช้หอกของเขานั้นเคลียร์ทางพร้อมกับมองหาถ้ำที่พวกหมาป่าใช้เป็นรังในเนินเขานั้น ไม่ถึง 10 นาทีกางเกงของ จางเทีย ก็เปียกชุ่มไปด้วยน้ำฝนค้างจากพวกต้นไม้ต่างๆ
เขารู้สึกว่าหมาป่าสองตัวนั้นอยู่ตรงนี้และแน่นอนว่าเขาต้องหามันได้ในวันนี้แน่ นอกจากนี้จากสายตาของหมาป่าสองตัวแล้วเขาเชื่อว่าหมาป่านั่นก็มองหาเขาเช่นกัน
ที่นี่ไม่ใช่เนินเขาที่ใหญ่อะไรนัก หลังจากใช้เวลาไปไม่ถึง 20 นาทีอยู่ๆ จางเทีย ก็ได้กลิ่นเน่าของเนื้อซึ่งแตกต่างจากอากาศสดชื่นรอบๆ กลิ่นนี้ทำให้เขาเกือบอ้วก เขาสงสัยจึงเดินไปตากลิ่นว่ามันมาจากไหน เขาเดินไปมากกว่าสิบก้าวและพบกับต้นตอของกลิ่น --- ถ้ำด้านหลังที่อยู่ห่างเขาไปไม่ถึง 30 ม.
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเสียงเท้าของเขารึเหตุผลอย่างอื่น ในตอนที่ จางเทีย ได้เห็นถ้ำ หมาป่าตัวที่มีวงสีแดงและหูแหว่งก็ได้เดินออกมาจากถ้ำ มันมองมายังทางของ จางเทีย ไม่นานตาของมันก็เปลี่ยนเป็นสีแดงด้วยความแค้น
มันส่งเสียงน่ากลัวออกมาจากลำคอ หมาป่านั้นก้มตัวลงเผยให้เห็นเขี้ยวคมๆ ในตอนที่มันร้องคำรามออกมานั้นหมาป่าอีกตัวก็ได้วิ่งออกมาจากถ้ำ หลังจากมองไปรอบๆแล้วพบว่าไม่มีใครอื่นนอกจาก จางเทีย ในเสี้ยววินาทีพวกมันก็จ้องมาที่เขาด้วยสายตาที่ไม่แค้นเคือง
‘ เหี้ย ‘ จางเทีย ด่าในใจ
เขายังงงว่าทำไมพวกมันถึงได้มองเขาแบบนี้ เขาไม่รู้เลยว่าเขาไปทำอะไรให้พวกมันโกรธ เขาเริ่มสงสัยขึ้นมาว่าหมาป่าพวกนี้มันเป็นบ้า มีหมาป่าบ้าด้วยเหรอ ? จางเทีย ไม่รู้ว่ามันจริงรึเปล่าแต่เขารู้ว่าหมาป่าสองตัวนี้ต้องตายในวันนี้
“ พ่อแกคนนี้เป็นเหยื่อ ไม่รู้รึไงวะ... “ - จางเทีย ตะโกนออกมา ก่อนที่หมาป่าสองตัวจะพุ่งเข้าหาเขา เขาก็ได้พุ่งเข้าหามันแทนแล้ว
ความต่างระหว่าง จางเทีย ที่เป็นนักรบระดับ 2 กับหมาป่าสองที่ยังไม่อยู่ระดับ 1 นั้นทำให้การต่อสู้เอาเป็นเอาตายนี้จบลงในระยะเวลาอันสั้นไม่ว่าพวกมันจะโกรธแค้นเพียงใด
เมื่อเห็น จางเทีย พุ่งเข้ามา หมาป่าสองตัวเองก็พุ่งเข้าหา แต่ในตอนที่ จางเทีย ปาหอกออกไป ผลก็คือหอกที่เร็วราวกับสายฟั้นแทงเข้าที่หมาป่าตัวที่สองพร้อมกับปักมันลงกับพื้นโดยที่หัวหอกนั้นฝังเข้ากับพื้นกว่าครึ่งฟุต
หมาป่าตัวหน้าซึ่งมีหูแหว่งนั้นได้หยุดเพราะเพื่อนของมันตาย มันไม่ได้หนีแต่มันกลับวิ่งเข้าใส่ จางเทีย โดยไม่ลังล มันกระโดดขึ้นจากพื้นแล้วใช้กงเล็บของมันนั้นยื่นเข้าใส่อกของ จางเทีย พร้อมกับใช้เคี้ยวนั้นเล็งมากัดที่คอของเขา หมาป่านั้นพยายามที่จะทำอันตรายให้กับ จางเทีย ให้มากที่สุดเท่าที่ทำได้
จางเทีย เองก็ไม่ได้หลบ เขาเอื้อมมือออกมาและจับเข้าที่กงเล็บของหมาป่าเอาไว้ก่อนที่จะหักกงเล็บมันจนทำให้มันร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด หลังจากที่หักกงเล็บมันแล้ว จางเทีย ได้ต่อยเข้าที่กรามของมันจนทำให้มันคอหักไป
เขาเคลื่อนที่ได้อย่างรวดเร็วโดยที่ไม่มีข้อผิดพลาด ถ้า กัปตันเคอร์ลิน มาเห็นเข้า ไอ้โหดนั้นคงต้องยกนิ้วชมเขาแน่
จางเทีย ทำแบบนี้ได้สำเร็จเพราะเขาได้กับหมาป่าสามตัวมานับครั้งไม่ถ้วนใน Trouble-Reappearance Fruit ความตายและบาดเจ็บนับไม่ถ้วนนั้นทำให้ทักษะในการต่อสู้ของเขานั้นดูดุดัน
เขาคลายมือออกและหมาป่าตัวสุดท้ายที่ตายก็ตกลงไปที่พื้น
เวลาที่ใช้ทั้งหมดนั้นไม่ถึง 4 วินาที
หลังจากที่ฆ่าหมาป่าตัวสุดท้ายไปแล้ว จางเทีย รู้สึกว่าหินที่แบกไว้ในใจของเขานั้นได้หายไป เขาผ่อนคลายได้เต็มที่และไม่ต้องกังวลเรื่องการที่หมาป่าสองตัวนี้จะมาสร้างปัญหาให้เขากับคนของเขาอีกต่อไป
หลังจากทำแบบนั้นเสร็จ จางเทีย ก็ตั้งใจที่จะกลับไปแต่กลิ่นที่มาจากในถ้ำนั้นก็ทำให้เขาสงสัยขึ้นมาอีกครั้ง เขาสับสนว่าทำไมหมาป่าสองตัวนั้นถึงได้มาอาศัยอยู่ที่นี่
หลังจากคิดสักพัก จางเทีย ได้เอามือปิดปากกับจมูกแล้วดึงหอกที่ฝังกับพื้นออกมา ด้วยหอกในมือเขาได้เดินเข้าไปในถ้ำด้วยความกล้าหาญโดยคิดจะไปเช็คดูว่ามีอะไรเกิดขึ้นด้านใน
ข้างในนั้นเต็มไปด้วยศพหมาป่าทั้งใหญ่และเล็ก ศพนั้นเน่าเรียบร้อยแล้วและเต็มไปด้วยหนอน หลังจากที่มองไปแล้ว จางเทีย ได้ตัดสินว่ามันโดนฆ่าด้วยฝีมือคน ที่หัวของลูกหมาป่านั้นมีรอยกระทืบด้วยซ้ำ หลังจากที่ตรวจสอบดูแล้ว จางเทีย ก็พบกับรอยท้าซึ่งหนาครึ่งนิ้วที่พื้น มันใหญ่ เทียบกับรอยเท้าตัวเองแล้วรอยเท้านนั่นใหญ่กว่าเขาสามไซต์ได้
ข้างในถ้ำนั้นน่ารังเกียจอย่างมาก หลังจากที่มองทั่วๆแล้ว จางเทีย ก็ตั้งใจที่จะกลับออกมาแต่ก่อนที่เขาจะได้กลับออกมานั้นเขาก็เห็นบางอย่าง เขาก้มตัวลงไปเก็บเศษผ้าแล้วถือมันขึ้นมาก่อนที่จะเดินออกจากถ้ำ
หลังจากที่ไกลพอจากกลิ่นในถ้ำนั้น จางเทีย ก็สูดลมหายใจเข้าลึกๆแต่ตาของเขายังคงมองไปที่เศษผ้าพร้อมกับสีหน้าที่เปลี่ยนไปเคร่งขรึม....