spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 120: ยิงปืนนัดเดียวได้นกสามตัว
มีหลายคนที่ดูอยู่เงียบๆตรงหน้าพวกเขา ในตอนที่ คริสติน และเด็กหนุ่มนั่นเดินเข้าไป คนพวกนั้นต่างก็ชี้เข้าไปที่ปากตัวเองบอกให้เงียบๆ เขาเบาเสียงลงและพูดขึ้นมา – “ เงียบๆ อย่าเพิ่งกวนเขา เขาน่ะกำลังจีบสาวสามคนพร้อมกัน เขาไม่ใช่คนแล้วเทพชัดๆ อย่ารบกวนเราด้วย เรากำลังเรียนรู้สกิลการจีบนี่อยู่... “
จีบสาวสามคนพร้อมกัน ? ไม่ใช่แค่เด็กชายนั่นเท่านั้น แม้แต่ คริสติน เองก็ช็อค สองคนนี้คิดได้แค่คำเดียวคือ ‘ ไม่มีทาง ‘ หลังจากที่มองหน้ากันแล้ว ทั้งคู่ที่เพิ่งเห็นด้วยกันในอย่างหนึ่ง ดังนั้นทั้งคู่จึงเริ่มเดินเข้าไปดูบ้าง
จากนั้นทั้งคู่ก็ได้ยินคำพูดน่าไม่อายจาก จางเทีย ที่พูดกับสามสาว – “ จริงๆ พวกเธอคือสิ่งที่ดีที่สุดในสายตาฉัน.. “
……
มีบางเหตุผลที่ทำให้สามสาวร้องไห้หนักกว่าเดิม ตอนที่เขากอดสาวๆอยู่นั้นเขาก็จูบน้ำตาเธอออก ตอนนั้น จางเทีย สาบานในใจเลยว่าเขาน่ะชอบพวกเธอจริงๆ
ในตอนที่เขาจูบที่น้ำตาของพวกเธอ เขาก็รู้สึกได้ว่าเขากำลังจูบกับดอกไม้ที่เบ่งบาน ดอกไม้เหล่านั้นสวยและน่ารัก เหมือนกับคนสวนที่รักดอกไม้มากซะจนคลั่งไคล้ในพวกมัน จางเทีย เองก็มีความรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน
รสเค็มและความอุ่นจากน้ำตานั้นเหมือนกับปลาตัวเล็กๆที่เริ่มแหวกว่ายในปากเขา ตอนนั้น เบเวอร์รี่ ได้จูบ จางเทีย เธอแลบลิ้นเข้ามาในปากของ จางเทีย ซึ่งทำให้เขาช็อคอย่างมากและทำให้เขาตัวแข็งทื่อ เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากต้องดูดลิ้นของเธอ ตอนนั้น จางเทีย รู้สึกได้ว่ามือขวาของเขานั้นอ่อนแรงและรู้สึกร้อนขึ้นมาที่หน้า
รสชาติที่รู้สึกได้นั้นทำให้ จางเทีย ต้องหลับตาลง คิ้วของ เบเวอร์รี่ นั้นถูเข้ากับหน้าของ จางเทีย ทำให้เขารู้สึกคันๆและหลงในเสน่ห์ในตัวเธอ
“ ฉันเองก็อยากทำบ้าง... “ – อลิซ ที่อยู่ข้างๆนั้นแสดงความไม่พอใจออกมาโดยการพึมพำ เธอทำตามบ้างแต่นี่มันแตกต่างจากตะกี้ ลิ้นของ อลิซ นั้นทำให้เขาชาไปทั่วทั้งตัวเหมือนโดนฟ้าช็อต จากนั้น จางเทีย ก็เอาลิ้นของเขาไปพันกับของเธอด้วย ผลก็คือลิ้นของสองสาวนั้นแหวกว่ายอยู่ในปากอของเขา
ลิ้นของ เบเวอร์รี่และริมฝีปากอุ่นๆนั้นเปลี่ยนมาอยู่ที่คอของเขาและเล่นกับหูเขา ลมหายใจของเธอนั้นรดมาที่หน้าของเขา ทันใดนั้น จางเทีย ก็รู้สึกว่าเขากำลังจะระเบิดและมือที่กอด เบเวอร์รี่ อยู่นั้นก็เลื่อนมาที่ก้นของเธอเริ่มบีบมัน
ไอ้จ้อนของเขาแหย่เข้าที่ท้องของ แพนโดร่า เหมือนกับมันหงุดหงิดขึ้นมาในตอนที่ เบเวอร์รี่ จูบเขา หลังจากที่รู้ว่าไอ้นั่นไม่ใช่มีดของ จางเทีย แพนโดร่า ก็เริ่มจับมันเบาๆ เธอตัวติดอยู่กับหน้าอกของ จางเทีย และเริ่มสั่นและตัวร้อนขึ้นมานิดๆ
เด็กหนุ่มและเด็กสาวคงอึ้งกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า พวกนี้ต่างก็ลืมว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ตอนนี้พวกเขาได้สร้างโลกแยกออกไปจากคนอื่นแล้ว
อย่างน้อย จางเทีย ก็ชอบแบบนี้ ตอนนั้นเขาลืมว่าเขาอยู่ในลานปราสาท แม้ว่ามันจะมืดแล้วแต่ก็ยังมีคนมุงดูพวกเขาอยู่
ตอนนั้นเด็กหลายคนที่มาดู จางเทีย คิดว่าเขาเป็นเทพ พวกเขามองว่าเขาเป็นสิ่งมีชีวีตที่ยิ่งใหญ่ พวกเขาไม่เคยเห็นคนสุดยอดแบบนี้มาก่อนเลย
รอบๆข้างนั้นเงียบสนิท !
มันรู้สึกดีจริงๆที่จูบพวกเธอ !
จางเทีย แทบจะลืมเลือนเวลาไปเลย !
“ พวกเธอทำอะไรน่ะ ? “
มีแค่เสียงตะโกนโกรธๆดังก้องขึ้นมาในหูทำให้ทั้งสี่ตื่นจากภวังค์ หน้าของทุกคนแดงกล่ำ เมื่อได้ยินเสียงนั้น จางเทีย ก็อึ้ง เขาหันกลับมาและพบ มิสกิลิ กำลังมองมาที่เขาด้วยตาที่เบิกกว้าง
ถ้าเป็นคนอื่น จางเทีย อาจจะรู้สึกอายแต่เมื่อเห็นว่าเป็นผู้หญิงคนนี้ จางเทีย ก็รำคาญขึ้นมาทันที
“ มิสกิลิ เรากำลังจูบกันอยู่ ไม่เห็นเหรอ มันก็ชัดอยู่แล้วนิ.... “ – ในตอนที่ทั้งสามสาวกลัวและอยากจะเดินหนี พวกเธอก็โดน จางเทีย กอดเอาไว้แน่น เขาเงยหน้าขึ้นมามอง มิสกิลิ ด้วยความไม่พอใจ - “ คุณเป็นครู ไม่ใช่ราชินี ถ้าอยากลงโทษ คุณก็ต้องมีเหตุผลที่สมควร ผมไม่เห็นว่ามีกฎไหนของเมืองรึโรงเรียนรึกฎสงครามที่ห้ามไม่ให้จูบ ! “
หลังจากพูดจบ จางเทีย ก็ไม่สนใจเธอและหันไปหาสามสาว – “ ไปเถอะ ที่รัก ทำต่อ ให้เขาดูกันว่าใครเป็นใคร ... “
เมื่อเจอหน้าแดงกล่ำของพวกเธอ อลิซ นั้นไม่ได้กล้าเท่า จางเทีย เมื่อเห็น มิสกิลิ มองมาที่เขา เธอก็หยิกที่เอวของ จางเทีย เบเวอร์รี่ เองก็รีบกระทืบเท้าก่อนที่จะเอามือเขาออกจากก้นเธอ
จางเทีย ไม่ได้หมายความว่าจะจูบต่อ เขาแค่อยากทำให้ มิสกิลิ โกรธ
ไม่คาดคิดเลยว่า แพนโดร่า กลับกล้ากว่าเขา ในตอนที่เขาทำปากจู๋ตรงหน้าเธอ เธอก็จูบเขาจริงๆ เธอเอามือกอดเขาไว้แน่นแล้วเหยียดตัวขึ้นมา ผลก็คือมีลิ้นสอดเข้ามาในปากของเขาโดยไม่ลังเลพร้อมกับน้ำลายที่ไหลออกมาตรงมุมปากของเธอ
ทั้งสองคนจูบกันพร้อมมีเสียงดังขึ้นตามจังหวะ ฉากนี้ทำให้ อลิซ กับ เบเวอร์รี่ อึ้ง
คนที่มุงดูอยู่เองก็ด้วย
จางเทีย เองก็ช็อค ‘ นี่ใช่ แพนโดร่า ขี้อายรึเปล่า ? ทำไมเธอถึงกล้าแบบนี้ กล้ายิ่งกว่า อลิซ กับ เบเวอร์รี่ อีก ‘
“ แพนโดร่า ? “ - มิสกิลิ เสียงสูงขึ้นมา
แม้ว่าจะได้ยินแต่ลิ้นของเธอก็ยังไม่อยากเอาออกจากปาก จางเทีย ในที่สุดเมื่ออยู่ต่อหน้าคนอื่น เธอก็เช็ดน้ำลายออกจากปากโดยใช้ลิ้นตัวเอง หลังจากนั้นเธอก็ยิ้มให้กับเขาก่อนที่จะใช้แขนเสื้อเช็ดที่มุมปากของเขาด้วยและจูบเข้าที่แก้มเขา หลังจากนั้นเธอก็หันหลังกลับมาหาผู้หญิงที่แทบจะเป็นบ้า เธอทักทายอย่างสุภาพออกมา – “ มิสกิลิ ! “
“ เธอทำอะไรเนี้ย ? “ – มิสกิลิ พูดขึ้นแบบโกรธๆ
“ หนูแค่จูบคนที่หนูรัก มันไม่ใช่เป้าหมายของสาวๆหรอกเหรอที่จะหาคนรักในการฝึกนี้ ? “ – เธอตอบอย่างใจเย็น
“ เขา ? “ - มิสกิลิ ชี้ไปที่ จางเทีย และพูดขึ้นแบบโกรธๆ – “ เขามันคนหน้าด้าน หน้าไม่อาย ! “
“ มิสกิลิ คุณคิดผิดแล้ว ในใจหนูน่ะเขาคือคนที่แข็งแกร่งจริงๆ เขาคือคนใจดี,มีความรับผิดชอบ,กล้าหาญ,จริงใจและไม่หลอกลวง เพื่อช่วยชีวิตหนูแล้วเขาถึงกับยอมสละชีวิตตัวเอง หนูรู้สึกมีความสุขมากเมื่ออยู่กับเขา หนู แพนโดร่า ไม่เคยรู้สึกมีความสุขแบบนี้มาก่อน ! หนูยอมทำทุกอย่างให้เขาได้ ! “
“ พวกเธอนี่บ้าไปแล้ว เขาน่ะแค่ปั่นหัวพวกเธอ ดูผู้หญิงคนอื่นสิ เธอไม่ควรโดนเขาหลอก ! “
มิสกิลิ จ้องไปที่ แพนโดร่า เหมือนกับลูกตัวเองจะหายไป
แพนโดร่า ยิ้มออกมา – “ แล้วถ้าคุณพูดถูกล่ะ ? “
“ แม้ว่าเขาจะมีผู้หญิงเป็นร้อยเป็นพัน หนูก็ยังยอมอยู่กับเขาและทำให้เขาพอใจ เขาคือคนรักของหนู ถ้าเขามีความสุข หนูก็มีความสุขด้วย ! อลิซ , เบเวอร์รี่ พวกเธอเห็นด้วยมั้ย ?”
หลังจากที่มองหน้ากันแล้ว อลิซ กับ เบเวอร์รี่ ก็เข้ามาหา จางเทีย และเริ่มจูบเขาอีก ในตอนที่เธอดึงปากกลับไปก็มีสายน้ำลายถึงกับยืดตามออกมาด้วย
จากนั้นก็เหมือนกับที่ แพนโดร่า ทำ อลิซ เองก็ใช้ลิ้นปาดน้ำลายตรงมุมปากของ จางเทีย เบเวอร์รี่ เองนั้นแตกต่างนิดหน่อย เธอใช้ปลายจมูกเช็ดให้เขา
เมื่อได้ยินคำพูดของ แพนโดดร่า จางเทีย ก็เริ่มจะร้องไห้ออกมา ความกล้าของ อลิซ กับ เบเวอร์รี่ เองก็ด้วยที่ทำให้น้ำตาของเขานั้นไหลออกมา เขาไม่สนใจ มิสกิลิ และก้มลงไปที่ตัวของ แพนโดร่า ที่กอดอยู่และจูบแก้มเธอแล้วหัวเราะออกมาดังๆ ฉากนี้เองยังเกิดกับอีกสองสาวด้วย
มิสกิลิ ที่แทบคลั่งหันหลังกลับและเดินหนีไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
“ เราอยู่ข้างนาย นายพอใจรึยัง ? “
เบเวอร์รี่ น่ะเป็นคนมีเสน่ห์ที่ซึ่งเป็นคนผ่อนคลาย
“ ไปกันเถอะ สะโพกฉันแทบหักแล้ว ! “
อลิซ กรอกตาใส่
จางเทีย หัวเราะออกมาดังๆและปล่อยมือเขาออก – “ อย่างมากหนึ่งเดือน รอฉันจนกว่าจะถึงตอนนั้น ครั้งหน้าที่เจอกัน ฉันจะทำให้เธออึ้ง เชื่อฉันได้ ผู้ชายของเธอไม่มีทางทำให้เธอผิดหวัง ! “
หลังจากพูดจบ จางเทีย ก็ไม่สนใจเสียงซุบซิบรอบข้างและเอาห่อของที่ห่อด้วยกระดาษน้ำมันให้ทั้งสามสาว พวกมันหนักซะจนสามสาวนั้นแทบถือไม่ไหวจนต้องใช้สองมือ
“ นี่อะไร ? “ – อลิซ ถามออกมา
“ อาหาร ฉันเตรียมไว้ให้พวกเธอ มันพอสำหรับหนึ่งเดือน แม้ว่าฉันจะไม่อยู่ที่นี่แต่ฉันจะไม่ปล่อยให้เธอหิวหรอก ! “
“ เพราะพวกมันเป็นของเรา ทำไมนายไม่ให้เราตอนที่อยู่ฐานล่ะ นายไม่จำเป็นต้องแบกของหนักๆแบบนี้คนเดียวนิ ! “ – เบเวอร์รี่ พูดขึ้นมา
“ มันหนักเกินไป ฉันน่ะเตรียมอาหาร 20-30 กก.ให้พวกเธอแต่ละคน เธอจะไปทนแบกของแบบนั้นมาได้ยังไง ? แน่นอนว่าฉันต้องถือมันให้เอง... “
“ บ้า ! “
เมื่อคิดถึงภาพตอน จางเทีย ตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อ ตาของ อลิซ ก็เริ่มมีน้ำตาอีกครั้ง ชายคนนี้แบกของหนักกว่า 80-90 กก.เดินมาไกลกว่า 5 กม.เพื่อที่จะเอาอาหารมาส่งพวกเธอแต่พวกเธอกลับคิดว่าของเหล่านี้คือของที่เขาจะเอาไปใช้ในการฝึกโดยแยกตัวออกไปอยู่คนเดียวและจำเป็นต้องมาเริ่มจากที่ปราสาท
“ เออใช่ และนี่ ... “
เมื่อพูดแบบนั้น จางเทีย ก็ได้ดึงเขี้ยวหมาป่าสามอันออกมา
“ คนจีนเชื่อกันว่าเขี้ยวหมาป่าที่ถูกคนฆ่าโดยใช้มือและสวมบนคอของผู้หญิงน่ะจะกันปิศาจ ฉันเตรียมมันไว้ให้พวกเธอ ฉันฆ่าหมาป่านั่นวันนี้โดยใช้มือตัวเองเพื่อเอาเขี้ยวมาให้พวกเธอ.. “
เมื่อจำได้ถึงฉากที่เสี่ยงตายที่ซึ่ง จางเทีย ได้ฆ่าหมาป่าโดยใช้แค่มือในตอนบ่ายเพื่อเตรียมเขี้ยวให้พวกเธอ ทั้งสามสาวก็ซึ้งสุดๆ
หลังจากที่ส่งเขี้ยวให้พวกเธอแล้ว พวกเธอก็กอดและจูบเขาอีกครั้ง
“ งั้น มันจะสายแล้ว ฉันจะพาพวกเธอไปส่ง ! “ - จางเทีย ตบไหล่ทั้งสามสาวพร้อมกับพาพวกเธอไปยังด้านนอกปราสาท เขายืนอยู่หน้าประตู เขาลาพวกเธอก่อนจะมองดูพวกเธอเดินเข้าไปข้างในพร้อมกับของที่เขาจัดเตรียมไว้ให้
เมื่อเห็นร่างบางๆของ แพนโดร่า ที่หายไปเป็นคนสุดท้าย จางเทีย ก็จำบางอย่างขึ้นมาได้และตะโกนออกมาดังๆ – “ แพนโดร่า ... “
เธอหันกลับมามองที่เขา
จางเทีย แค่เปิดปากแต่ยังไม่ได้พูดอะไรออกมา --- กินให้เยอะกว่านี้ รอฉันกลับมานะ !
แพนโดร่า เหมือนจะเข้าใจ เธอขยับปากไปมาตอบกลับแบบไม่มีเสียง – ไอ้บ้า !
สาวๆนั้นคือแหล่งแห่งความสุขจริงๆ !
จางเทีย ตื่นเต้นอย่างมาก เขาฮัมเพลงไปเรื่อยพร้อมกับเดินออกจากปราสาท ในตอนที่เขาเดินออกมาจากด้านนอกปราสาทคิดจะไปหาพวก แบร์ลี่และคนอื่นๆ อยู่ๆเขาก็พบว่าตัวเองนั้นโดนเด็กผู้ชายล้อมเข้าให้ ตาของพวกนั้นเป็นประกายและแสดงความตื่นเต้น เด็กพวกนี้จ้องเขาจนทำให้เขาตกใจ
‘ เกิดอะไรขึ้น พวกนี้อยากอัดฉันรึไง ? ‘ จางเทีย สงสัยในใจ
“ พวกนายต้องการอะไร ? “ - จางเทีย ถามขึ้นมา
“ อาจารย์ สอนผมหน่อย ... “ – เด็กพวกนั้นพุ่งเข้ามาพร้อมกับร้องและกอดขา จางเทีย เอาไว้ เขาเงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลอาบลงมา – “ ผมน่ะไม่มีโอกาสได้จับมือผู้หญิงเลยตั้งแต่ที่ฝึกมา ให้คำแนะนำผมสักอย่างสิ ผมไม่อยากอยู่คนเดียว.... “
จางเทีย เกาหัว – “ นายอยากรู้สินะว่าทำไมสาวๆทั้งสามถึงได้รักฉันพร้อมกันได้ ? “
ทุกคนต่างก็รีบพยักหน้า
“ ในฐานผู้ชายแล้วเราไม่ควรถามว่าทำไมผู้หญิงถึงไม่รักเรา เราควรถามตัวเองว่าเราคู่ควรกับความรักนั่นมั้ย “
เมื่อพูดจบ จางเทีย ก็รู้สึกว่าเขากำลังแสดงท่าทีเหมือน เบอร์วิค อยู่
เขาไม่ได้คิดประโยคนี้ขึ้นมาเอง เขาฟังมาจาก ดอนเดอร์ จางเทีย รู้สึกว่ามันเหมาะที่จะใช้ในตอนนี้ เขาอธิบายไม่ได้ว่าทำไม เขาแค่จำได้ว่าเขาเสียจูบแรกเขาไปในคืนนี้ จนกระทั่งตอนนี้แล้วเขาก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมความสัมพันธ์ของเขาถึงได้พัฒนามาอยู่จุดนี้ได้