หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 109: ทักษะการอวยพร

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 109: ทักษะการอวยพร

 

ในตอนที่ จางเทีย พาทุกคนเข้าไปในอุโมงค์และมาถึงพื้นที่ด้านล่างของที่ขุดเหมือง เขารู้ว่าคนที่ตามเข้ามานั่นมั่นใจว่าเขาจะแชร์ความลับอันยิ่งใหญ่ให้พวกนั้น

สิ่งนี้นั้นแสดงออกผ่านทางสายตาของทุกคนและความคิดที่มีต่อเขา

แน่นอนว่าความลึกลับอันยิ่งใหญ่นั้นมัน ฮี่ฮี่ฮี่....

ในที่มืดมิดนี้มีคบไฟเพียงสองอันที่ลุกไหม้อยู่ เสียงทึบๆของพลั่วที่กระทบเข้ากับพื้นนั้นดังก้องในพื้นที่ตรงนี้  ในบรรดาคนที่ติดตามเขามานั้นมีบางคนเชื่อว่า จางเทีย น่ะมีความลับการบ่มเพาะที่ยิ่งใหญ่ซึ่งเกี่ยวข้องกับการขุดเหมือง ส่วนคนอื่นนั้นไม่เชื่อแต่ก็ยังคงทำงานต่อไป

สำหรับคนที่ทำงานอยู่ข้างในนั้น จางเทีย คงได้แต่ขอโทษ --- ตอนนี้มันได้กลายมาเป็นความรู้ลึกลับที่ยิ่งใหญ่แล้วซึ่งคนที่ไม่เกี่ยวข้องจะไม่มีโอกาสได้เข้ามารู้ ไม่อย่างนั้นแล้วมันคงไม่เรียกว่าความรู้ลึกลับหรอก

เมื่อมาถึงที่ทำงาน ทุกคนรวมถึงนักขุดแร่เก่าก็เดินหน้าต่อไปพร้อมกับแสดงสายตาที่เหมือนต้องการบางอย่างมองมาที่ จางเทีย

ตอนนั้นเองสีหน้าของ จางเทีย ได้แสดงท่าทีจริงจังสุดๆออกมา

“ คนที่มีอาหาร เดินหน้าต่ออีกก้าว ...”

เมื่อได้ยินคำสั่งของ จางเทีย  คนกว่า 30 คนก็เดินหน้า  แม้ว่าจะไม่มีใครรู้ว่าคำสั่งต่อไปจะเป็นอะไรแต่ก็ไม่มีใครถาม

“ ถ้าฉันต้องการให้นายเอาอาหารครึ่งหนึ่งออกมา นายจะยอมมั้ย ? “

“ ฉันยอม ! “ - หลังจากที่มองหน้ากัน ทุกคนก็ตะโกนออกมาเป็นเสียงเดียวกัน

จางเทีย อยากเอาอาหารไปเป็นค่าสอนเหรอ ? เด็กบางคนเริ่มสงสัย  เมื่อเจอสายตาที่สงสัยของพวกนั้น จางเทีย ก็ฮึดฮัดในใจ – ‘ พ่อคนนี้น่ะไม่ได้สนใจเนื้อที่เอาให้ แพนโดร่า เลยด้วยซ้ำ  แล้วใครจะมาสนอาหารแห้งของพวกแกกัน ? ถ้าแกสามารถเรียนรู้ความรู้ลึกลับนี้แค่กับการแลกเปลี่ยนอาหารแห้งแค่นิดหน่อย งั้นความรู้ลึกลับก็ไม่มีค่าสิวะ ‘

ตอนนั้นเมื่อได้ยินเสียงเท้าและไฟ คนที่เพิ่งมาเหมืองนี่ก็เดินเข้ามาหาพวกเขาด้วยความสงสัย

จางเทีย โบกมือเรียกพวกนั้นเข้ามาหาแล้วถามออกมา

“ นายชื่ออะไร ? “

“ ฉัน พอตเตอร์ ! “ – ชายคนนั้นตอบพร้อมกับเครียดนิดๆ

“ โอเค พอตเตอร์  ฉันมีภารกิจให้นาย เอาเพื่อนไปกับนายด้วยและแบ่งอาหารแห้งให้กับคนที่เพิ่งมาขุดเหมืองที่นี่  บอกพวกนั้นว่าให้ใช้แรงได้ทั้งวันและอาหารแห้งนั่นจะถือว่าเป็นค่าตอบแทน ! “ - จางเทีย พูดเสียงดังขึ้นนิดๆเพื่อให้คนอื่นๆได้ยิน – “ นี่คือจุดประสงค์ของพระเจ้า เพราะพวกเขาน่ะไม่ได้รอฉันด้านนอกเหมือนที่พวกนายทำ พวกเขาน่ะได้เสียโอกาสที่จะเข้าร่วมในขั้นต่อไปแล้ว งั้นก็ทิ้งพวกเขาไว้ที่นี่ก่อน ! “

แค่คำพูดง่ายๆสองประโยค – คนที่คิดว่า จางเทีย จะเอาอาหารของเขาไปเป็นค่าสอนนั้นก็รู้สึกอายขึ้นมา ส่วนนคนอื่นๆโดยเฉพาะนักขุดแร่ที่ซึ่งได้นำทางคนอื่นเข้ามานั้นก็เริ่มรู้สึกคึกขึ้นมาทันที

“ แล้วถ้า...ถ้า...ถ้ามีบางคนไม่อยากออกไปล่ะ ? “ - ในตอนที่ พอตเตอร์ อ้าปากพูด  จางเทีย ก็ตระหนักได้ว่าชายคนนี้มักจะถูกรังแกบ่อยๆ

“ ไม่อยากออกไปเหรอ  ? “ - จางเทีย ยิ้มและหันหน้าไปหา วู๊ด

วู๊ด ยืดดอกขึ้น – “ เชื่อใจฉันได้ พวกนั้นจะออกไปหลังจากที่ได้รับอาหาร ! “

หลังจากที่ทำสัญญากันแล้ว วู๊ด ได้พูดกับทุกคน – “ เพื่อนคนไหนที่อยากไปกับฉันเพื่อไปไล่คนอื่นบ้าง ?  ! “

ทันใดนั้นก็มีเด็ก 5-6 คนเดินออกมา

ไม่กี่นาทีต่อมาพวกคนขุดเหมืองก็ออกไปพร้อมกับอาหาร บางคนดีใจที่ได้รับอาหารมาโดยไม่ต้องทำงาน ส่วนคนอื่นนั้นรู้สึกกระอักกระอ่วนเพราะอยากจะอยู่ต่อ  แน่นอนว่ามันเป็นไปไม่ได้แล้วที่พวกเขาจะอยู่ต่อได้  หลังจากที่ วู๊ด และเด็กคนอื่นได้ไปไล่พวกนั้นให้ออกไป  คนที่ติดตาม จางเทีย ต่างก็รู้สึกว่านี่คือเรื่องที่ล้ำค่าแน่ๆ

จางเทีย ให้พวกเขาเทียบตัวเองกับคืนอื่นแล้วให้ความรู้สึกยอดเยี่ยมและมีตัวตนของตัวเองนั้นแสดงออกมา

ในตอนที่ พอตเตอร์ และ วู๊ด นั้นใช้อาหารเป็นหมัดที่ต่อยออกไป   จางเทีย ก็ให้นักขุดแร่คนอื่นๆนั้นลงมือแนะนำเด็กคนอื่นในการหาพื้นที่ที่ง่ายต่อการซ่อนเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีใครซ่อนตัวอยู่แถวนี้

ตอนนั้นยิ่ง จางเทีย ทำท่าทีจริงจังมากแค่ไหน พวกเขายิ่งเต็มใจทำงานมากเท่านั้น

10 นาทีต่อมาทั้งเหมืองก็ว่างเปล่า ทุกคนได้ไปรวมตัวกันตรงหน้า จางเทีย พร้อมกับแสดงสายตาแห่งความต้องการออกมา

จางเทีย ชี้ไปที่ปากถ้ำซึ่งอยู่ไกลออกไปและมองไปยังเด็กพวกนั้น – “ หลังจากนี้สักพักตอนที่พิธีสืบทอดเริ่ม ห้ามให้ใครมารบกวน ดังนั้นพวกนายสี่คนต้องไปป้องกันพื้นที่ตรงนั้นไว้และห้ามไม่ให้ใครเข้ามา  โชคร้ายที่สี่คนนั้นไม่อาจเข้าร่วมพิธีสืบทอดได้และเนื่องจากพิธีสืบทอดนั้นจะไม่จัดเป็นครั้งที่สองในตอนที่ฝึก  มันคงไม่แฟร์ถ้าใครได้ไปเฝ้าตรงหน้าทางเข้าไว้  ดังนั้นคนที่จะไปเฝ้าต้องทำโดยสมัครใจ  สี่คนต้องเสียสละโอกาสของตัวเองให้คนอื่น ! “

เมื่อได้ยินคำพูดของ จางเทีย  หน้าของทุกคนก็ซีด  ทุกคนต่างก็มองไปที่ทางเข้าและจากนั้นก็มองมาที่ จางเทีย ที่ซึ่งแสดงรอยยิ้มลึกลับออกมา  พวกเขาไม่อยากพลาดโอกาสนี้ไป ตอนนี้พวกเขาต่างก็เริ่มพากันกังวลขึ้นมาแล้ว

“ งั้นสี่คนที่ออกมาจะมีโอกาสได้รับพิธีสิบทอดอีกมั้ย ? “ – บางคนได้รวบรวมความกล้าและถามออกมา

“ บางทีมี บางทีอาจจะไม่มี นั่นแหละคือความหมายของการเสียสละ ! “ - จางเทีย กวาดตามองไปรอบๆ  เมื่อได้ยินคำตอบของ จางเทีย ทุกคนก็รู้สึกว่านี่มันศักดิ์สิทธิ์และรู้สึกเชื่อมั่นในพื้นที่แห่งนี้

“ แล้วถ้า...ถ้าไม่มีใครเฝ้าตรงทางเข้าไว้ล่ะ ?”

“ ถ้าหาคนไปเฝ้าไม่ได้ งั้นที่ฉันต้องพูดคือพวกนายน่ะคือคนเห็นแก่ตัวที่ไม่มีสิทธิที่จะได้รับความรู้ลึกลับอันยิ่งใหญ่อย่างทักษะการอวยพรได้ ! “ - จางเทีย พูดขึ้นอย่างเย็นชา

ทักษะการอวยพร !

เมื่อได้ยินคำพูดนั้นเด็กทุกคนต่างก็ช็อค ตัดสินจากชื่อแล้วมันมีค่าอย่างมาก  ชื่อที่ออกมาจากปาก จางเทีย นี้ทำให้ทุกคนหัวใจเต้นรัว

ตอนนั้นอยู่ก็มีบางคนคิดบางอย่างออกและอุทานออกมา – “ ครั้งสุดท้ายที่นายโดนหมาป่าไล่มาและได้เลือกที่จะกระโดดลงในหลุมลึก 200 ม.เพื่อที่จะรอดนั้น นายยังใช้ชีวิตแบบมีชีวิตชีวาอยู่ได้  นั่นเป็นผลของทักษะนี้รึเปล่า ....”

แม้ว่า จางเทีย หัวเราะในใจอยู่นานแล้วแต่เขาก็ยังคงเงียบอยู่....

ทันใดนั้นทุกคนก็รู้สึกว่ามันยากที่จะหายใจ  กับการที่ จางเทีย ได้รับประโยชน์มากจากทักษะการอวยพรที่ยืนอยู่ต่อหน้าพวกเขาตอนนี้แล้ว ไม่มีใครสงสัยความรู้ลึกลับนี้อีกต่อไป

นี่คือตอนที่เป็นการทดสอบที่แท้จริงของใจคน  คนที่ยอมสละโอกาสของตัวเองในการเรียนรู้ทักษะอวยพรเพื่อกันทางเข้า  คนพวกนี้จะเสียโอกาสไปตลอดชีวิต  มันคือทักษะการอวยพรเลยเชียวนะ  ความรู้ลึกลับที่สามารถทำให้คนกระโดดลงไปในหลุม 200 ม.เพื่อที่จะรอดได้ ! มันอาจจะมีผลอย่างอื่น ใครจะไปยอมสละโอกาสนี้กัน ?

ทุกคนต่างก็แสดงสีหน้าต่างกันออกไปเหมือนกับกำลังต่อสู้กับจิตใจตัวเองอยู่  พวกเขาได้ตระหนักได้ว่าถ้าไม่มีใครยอมเสียสละ งั้นทุกคนก็จะเสียโอกาสไป แต่ถ้ามีใครตัดสินใจเสียสละแล้ว งั้นมันก็หมายความว่าพวกนั้นจะไม่มีโอกาสอีกเลยในชีวิต

“ ฉันจะเสียสละเอง ! “ – พอตเตอร์ เดินออกมา  เขาเม้มปากและดูกังวลแต่หน้าของเขานั้นดูเหมือนกับเชื่อมั่น เมื่อไฟจากคบไฟนั้นส่องมาถึงตรงหน้าซึ่งนี่มันทำให้ จางเทีย ซึ้งขึ้นมา  เขามองไปที่สีหน้าจริงจังของ พอตเตอร์ และสายตาที่แสดงความเชื่อมั่นนั้น  อยู่ๆ จางเทีย ก็ตระหนักบางอย่างได้หลังจากที่เริ่มใช้ชีวิตแบบคนเถื่อนนี้ เขาทำเกินไปแล้ว  จางเทีย กลืนน้ำลายตัวเอง เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องดำเนินแผนการต่อไป  เขาทำท่าจริงจังต่อเพื่อไม่ให้คนอื่นผิดหวังในตัวเขา

“ พอตเตอร์ ในฐานะผู้ถือคบไฟแล้วนายไม่มีสิทธิที่จะเสียสละให้คนอื่น ! “ - จางเทีย พูดด้วยท่าทีเคร่งขรึม

เมื่อเห็น พอตเตอร์ นั้นสับสน  จางเทีย จึงตัดสินใจที่จะกล่อมต่อไปอีก

“ พอตเตอร์ นายคิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้เป็นเรื่องบังเอิญเหรอ ? “- จางเทีย เอามือข้างหนึ่งไปวางไว้ที่ไหล่ของอีกฝ่าย – “ นายคิดว่ามันบังเอิญรึไงที่นายกับฉันมารวมตัวกันที่นี่วันนี้ ? นายคิดว่ามันบังเอิญรึไงที่ฉันโดดลงไปในหลุมลึกกว่า 200 ม. ? นายคิดว่ามันบังเอิญเหรอที่ฉันสู้กับพวกทหารของกลุ่มสมิหลาเมื่อวานนี้ ? นายคิดว่ามันบังเอิญรึไงที่ฉันเปิดโปง สมิหลา ? นายคิด่ว่ามันบังเอิญรึไงที่ฉันให้นายเป็นคนถือคบเพลิงนำทางให้เรา ? นายคิดว่ามันบังเอิญรึไงที่นายได้เป็นคนถือคบเพลิง ? ไม่ ทุกอย่างน่ะพระเจ้าได้จัดสรรไว้แล้ว... “

“ คนถือคบเพลิง ! “ - พอตเตอร์ พึมพำคำนี้อยู่นานพร้อมกับตาที่เป็นประกายแต่แตกต่างจากเดิม

“ ใช่ คนถือคบเพลิง  นี่เองก็เป็นส่วนหนึ่งของพิธีในวันนี้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้พระเจ้าได้ลิขิตไว้แล้ว  ถ้าไม่มีนายเป็นคนถือคบเพลิงงั้นพิธีก็คงเริ่มไม่ได้... “ - จางเทีย ทำท่าจริงจังยิ่งกว่าเดิมและมองไปรอบๆก่อนจะเริ่มฮัมเพลงเหมือนกับนักบวช – “ คนที่เดินในความมืดมิด...ใบหน้าของเจ้าเปื้อนฝวุ่น  เสียงเท้าของเจ้าตะกุกตะกัก มือของเจ้ามีมลทินและเจ้าได้เดินไปยังที่แปดเปื้อนแต่แสงนั้นยังคงอยู่ภายในจิตใจเจ้าและไม่มีวันดับมอด วันหนึ่งแสงเหล่านั้นได้ลุกไหม้เปิดเส้นทางให้เจ้าทำให้เจ้าเห็นถึงปัญหาและความยากลำบากกับเส้นทางตรงหน้า  สำหรับคนที่รับหน้าที่ในการเสียสละโอกาสตัวเองไปที่ซึ่งมีคบไฟอยู่ในมือจะได้รับการอวยพรที่ดีที่สุดในโลก  นี่คือการอวยพรจากแสงซึ่งแสงได้ส่องสว่างเส้นทางที่นำไปสู่ประตูศักดิ์สิทธิ์ ! “

เมื่อได้ยินคำพูดสุดวิเศษของ จางเทีย ที่มาจากหนังสือศาสนาและไบเบิลที่เขาอ่านมาแล้วก็ได้ทำให้พวกนักขุดเหมืองและคนอื่นๆเริ่มร้องไห้ออกมา  ตั้งแต่ที่พวกเขาเกิด พวกเขาไม่เคยคิดว่าร่างกายของพวกเขานั้นวิเศษเลยสักครั้ง

...

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.