spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 103: การเก็บเกี่ยวครั้งใหญ่
ตูม ! ลานปราสาทเริ่มปั่นป่วน สำหรับเด็กผู้ชายแล้ววพวกเขาได้ใช้เวลาในการเก็บของกลับฐานตัวเองซึ่งอยู่ใกล้ๆปราสาท ส่วนสาวๆนั้นก็ไม่ต่างจากมดที่เอาของขนกลับเข้าไปข้างในปราสาทก่อนที่จะวิ่งออกมาเอาเพิ่ม
“ พี่สาว มานี่สิ ! นี่คือของรางวัลของพวกเรา... “- เด็กสาวเริ่มสั่งการอยู่ด้านนอกปราสาทพร้อมกับเอามือเท้าสะเอว – “ ถ้าไอ้บัดซบคนไหนกล้าที่จะมาแย่งของเรา งั้นเราก็จะอัดมันจนตาย ! “ – เมื่อเห็นว่าสถานการณ์ด้านนอกนั้นวุ่นวาย เซรอม ก็ยิ้มออกมา – “ เด็กที่ชื่อ จางเทีย นี่ฉลาดจริงๆ เขาเข้าใจความคิดของฉันด้วย อย่างน้อยคนเป็นพันๆก็เอาของของพวกกลุ่มการค้าพวกนี้มาก็หมายความว่าอย่างน้อยหนึ่งพันคนก็เชื่อว่า สมิหลา น่ะคือสายลับของอาณาจักรนอแมน ครั้งนี้ สมิหลา แน่นอนว่าคงไม่อธิบายเรื่องนี้ได้ แม้ว่า สมิหลา จะมีคนหนุนหลังที่ดีแต่คิดจากชื่อเสียงที่เสียหายไปแล้วใครจะมายอมเกี่ยวข้องกับคนแบบนี้ ... “
ตอนนี้ สมิหลา และลูกจ้างน่ะได้ถูกจับขัง เมื่อเห็นนักเรียนที่ทำหน้าที่เฝ้าเขา เซรอม ก็ยิ้มออกมา – “ ไปเร็วเข้า ฉันได้สัญญาว่าพวกนายจะได้พัก เรียกเพื่อนมาเอาของด้วย “
เมื่อได้ยินคำพูดของ เซรอม นักเรียนที่ทำหน้าที่ทุกคนต่างก็คึกและพากันหายไปตรงหน้าเขา
หลังจากที่นักเรียนเหล่านั้นออกไป กัปตันเคอร์ลิน เดินไปหา เซรอม พร้อมกับถูคาง เขายืนด้วยกันกับ เซรอม อยู่ที่กำแพงด้านนอกปราสาทและจ้องไปยังกลุ่มเด็กที่ทำการปล้นของอยู่
“ นายส่งคนไปบอกกลุ่มสิงโตงี่เง่านั่นมั้ยเกี่ยวกับเรื่อง สมิหลา ? “ – เซรอม ยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา – “ ฉันไม่รู้ว่าพวกนั้นจะรู้สึกยังไงเมื่อรู้ว่าคนที่พวกมันสัญญาด้วยนั้นร่วมมือกับสายลับของอาณาจักรนอแมน หลังจากที่พวกนั้นออกไปแล้ว เรื่องนี้ค่อยเปิดเผย ครั้งนี้สีหน้าของไอ้ที่ชื่อ เบอร์วิค แน่นอนว่าต้องอึ้งอย่างแน่นอน ! “
“ ฉันส่งคนที่เร็วที่สุดไปบอกข้อมูลพวกนั้นแล้ว พวกนั้นน่าจะยังไปไม่ไกล ฉันล่ะหวังจริงๆว่าพวกงี่เง่าพวกนี้จะเลือดขึ้นหน้าและยอมแพ้ให้กับความคิดที่จะไปจับหมาป่าทอง ด้วยวิธีนี้จะได้มีคนตายน้อยกว่า ! “ - กัปตันเคอร์ลิน ถอนหายใจเบาๆ – “ เบอร์วิค น่ะทำให้ฉันผิดหวังจริงๆ ฉันน่ะไม่คิดว่าเขาจะไปร่วมมือกับ สมิหลา และพากลุ่มสิงโตไปที่ทุ่งหญ้าพระจันทร์เสี้ยวเพื่อทำเรื่องเพ้อฝันของเขาให้เป็นจริงโดยการเอาชีวิตทุกคนไปเสี่ยง ! “
“ แม้ว่า เบอร์วิค จะฉลาดแต่เขาน่ะเห็นแก่ตัวเกินไป คนแบบนั้นน่ะอันตรายอย่างมาก เพราะเขาไม่คิดลังเลที่จะเสียสละชีวิตคนอื่นเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ในทางกลับกัน ฉันรู้สึกว่า จางเทีย น่ะดีกว่าเยอะและสามารถทำให้ฉันแปลกใจได้ตลอด โอ้ เกือบลืมแน่ะ นายได้ยินเรื่องที่เขาสู้กับทหารของกลุ่มการค้าสมิหลามั้ย ? ไอ้เด็กนั่นน่ะมีทักษะการต่อสู้ที่ดีอย่างมาก ! “
“ ฉันได้ยินแล้วแต่ฉันก็ยังไม่เชื่อ ไม่ว่าทหารระดับ 3 นั่นจะประมาทแค่ไหนแต่เขาก็ไม่น่าที่จะโดนอัดจนกระเด็นภายในแค่ครั้งเดียว ! “ - กัปตันเคอร์ลิน เอามือถูหนวตัวเองพร้อมกับบ่นออกมา – “ ฉันไม่เคยเห็นเขาทำได้ดีเลยในโรงเรียน เป็นไปได้มั้ยว่าที่เด็กคนอื่นพูดน่ะจริง ? สำหรับเขาแล้วการขุดเหมืองนั้นคือวิธีลึกลับในการบ่มเพาะ ? “
“ บางทีนะ ! “ - เซรอม ยักไหล่และตอบแบบสบายๆ – “ สมาคมจีนน่ะลึกลับที่สุดและแข็งแกร่งที่สุดในทวีปคุนแองด้วยและมีระบบการบ่มเพาะที่ลึกลับ ฉันเคยได้ยินมาว่าแม้แต่ภัยพิบัติเองก็ไม่อาจหยุดยั้งระบบบ่มเพาะของพวกเขาไว้ได้ แค่ความจริงที่ว่าสมาคมจีนน่ะได้มีคนที่โดดเนมากมายในโลกใต้ดิน ดังนั้นทำให้ได้ความรู้ลึกลับมากมาย ผู้คนที่ไม่ได้มาจากทวีปเอเชียนั้นไม่ได้แข็งแกร่งอย่างแท้จริง บางทีสักวันฉันอาจจะไปทวีปเอเชียดู ฉันได้ยินมาว่าที่นั่นเต็มไปด้วยผู้คนทรงพลังมากมายและสาวสวยนับไม่ถ้วน.... “
เซรอม แสดงสีหน้าโหยหาออกมา
“ หยุดพูดเรื่องอนาคตได้แล้ว เราควรทำยังไงดีตอนนี้ ? มันดีจริงๆเหรอที่เราปฏิบัติต่อ สมิหลา แบบนี้ ? “ - กัปตันเคอร์ลิน ชี้ไปที่ลานด้านล่าง
“ นี่แค่เรื่องวุ่นวายเล็กๆที่ สมิหลา ทำเท่านั้น สายลับของอาณาจักรนอแมนและไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเราเลย ! “ - เซรอม หาวออกมาเหมือนกับว่านี่ไม่ใช่เรื่องของเขา เขาพูดขึ้นมาอีก – “ แม้ว่ามันจะดูเหมือนว่ามีของจำนวนมากแต่ในสายตาของคนมีอำนาจแล้ว ใครจะมาโทษเราที่ทำตัวแบบนี้กับกบฏโดยเฉพาะคนที่พยายามป้ายความผิดให้เด็กในช่วงเหตุการณ์แบบนี้และยุยงคนให้โกรธกันอีก ? ไม่ใช่ว่าพวกเขากลัวจะโดนว่าเป็นกบฏเหมือนกันเหรอ ? “ - เซรอม ยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา – “ เราแค่ทำเหมือนกับของพวกนี้คือของขวัญให้เหล่าเด็กน้อยในงานรอบกองไฟยังไงล่ะ “
“ แม้ว่าฉันจะไม่ได้สนใจรึแค้นอะไรเขา ใครจะคิดว่า สมิหลา มันทำอะไรลงไปบ้าง ? ทำไมต้องจัดฉาก จางเทีย ? ฉันะคิดไม่ออกเลยจริงๆ ! “ - กัปตันเคอร์ลิน ถอนหายใจออกมา
“ ฮาฮา หยุดคิดเรื่องนั้นเถอะเพื่อน ถ้า สมิหลา มันยอมบอกทุกอย่าง งั้นให้มันอธิบายเรื่องนี้กับเจ้าหน้าที่กองทัพที่คอยตรวจสอบทุกอย่างดีกว่า... “ - ในตอนที่เขาพูดจบ เซรอม ได้หันซ้ายหันขวาแล้วไปพูดกับ กัปตันเคอร์ลิน ด้วยการกระซิบ – “ ฉันได้ยินมาว่า จางเทีย ได้รับการลงโทษแปลกๆจาก มิสกิลิ เขาไม่น่าจะรู้ว่าในสายตาของสาวๆแล้วเขาน่ะคือฮีโร่.. “
“ การลงโทษอะไร ? “ - ท่าทีแปลกๆของ เซรอม ทำให้ กัปตันเคอร์ลิน ผงะไปโดยไม่รู้ตัว
“ ฉันได้ยินมาว่าสาวๆทุกวันนี้น่ะโตเร็วและเลือกผู้ชายเก่ง ฮี่ฮี่..นายไม่คิดเหรอว่าการฝึกนี่น่าสนใจขึ้นเรื่อยๆน่ะ ? “
“ ใช่ การฝึกนี้น่ะน่าสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ “ - กัปตันเคอร์ลิน จำเด็กที่เข้ามาบอกเรื่องการต่อสู้ของ จางเทีย กับทหารของกลุ่มการค้าได้ จากคำอธิบายแล้วและภาพที่เด็กอธิบายออกมา กัปตันเคอร์ลิน ตระหนักได้ว่าทักษะที่ จางเทีย ได้ใช้โจมตีทหารนั้นเหมือนกับท่าหมัดค้อนที่เป็นหนึ่งในท่าของทักษะหมัดเหล็กโลหิตซึ่งทำให้ กัปตันเคอร์ลิน ทึ่ง ภายในระยะเวลาสั้นๆไอ้เด็กนี่น่ะกลับใช้ท่านี้ในการต่อสู้ได้แล้วเหรอ ? นี่มันก้าวหน้าอย่างมาก กัปตันเคอร์ลิน รู้ว่าแม้มันจะเป็นท่าง่ายๆ เพื่อที่จะก้าวข้ามช่องว่างนี้ไปคุณต้องสู้กับคนอื่นในการต่อสู้แบบใช้มีดและหอก คุณต้องเลือดไหลและเหงื่อออกก่อนจะมีสัญชาตญาณในการต่อสู้ในท่านี้และเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วแม้ว่าในตอนวิกฤต ด้วยวิธีที่ว่านี้มันไม่มีวิธีอื่นอีกที่สามารถใช้งานได้ แต่เด็กนั่นได้รับหนังสือทักษะไปไม่ถึงอาทิตย์ซึ่งตามคำอธิบายที่เด็กคนอื่นเล่าให้ฟังแล้ว เขาได้ใช้เวลาครึ่งวันในการขุดเหมือง หมายความว่าเขามีเวลาในการบ่มเพาะน้อยลง – “ นั่นไม่น่าจะเป็นแบบนั้นไปได้ เป็นไปได้มั้ยว่าการขุดเหมืองนั้นคือวิธีลึกลับในการบ่มเพาะของพวกคนจีน ? ฉันควรลองด้วยดีมั้ย ?” - กัปตันเคอร์ลิน พึมพำในใจ
เขาเองก็ยังตกใจกับความคิดที่ตัวเองจะไปขุดเหมืองเลยด้วย....
……
สองชั่วโมงต่อมา สินค้าของกลุ่มการค้าสมิหลาทุกชิ้นก็ถูกเอาไปหมดโดยพวกเด็กนักเรียนรวมถึงของที่เด็กเหล่านั้นเอามาแลกด้วยไม่เหลืออะไรเลยสักชิ้น มันราวกับว่ามีฝูงหมาป่าเข้ามาขโมยมันไปหมด ในตอนที่เด็กๆยังคงกังวลกับการขโมยของของ สมิหลา พวกเขาก็ได้ยินเสียงของ สมิหลา นั้นพยายามที่จะก่อเรื่องโดยจัดฉากนักเรียนที่ขโมยมันไป พวกเขาเริ่มวางใจและหงุดหงิดขึ้นมาทันที ทุกคนบอกว่าผู้ชายอย่าง สมิหลา เป็นคนใช้วิธีสกปรกเพื่อก่อเรื่องในระหว่างการฝึกและคิดว่าชายคนนี้น่ะคือกบฎที่ซึ่งทำลายเมืองของพวกเขา แน่นอนว่ามีเหตุผลที่สนับสนุนพฤติกรรมอันน่ารังเกียจของเขา
……
ในตอนที่เรื่องวุ่นวายที่ลานจบลง จางเทีย และคนอื่นๆในองค์กรนั้นก็มาถึงที่ฐานของพวกเขาด้วยตัวที่ชุ่มไปด้วยเหงื่อ แม้ว่าพวกเขาจะเดินอย่างช้าๆอย่างกับหอยทากแต่พวกเขาก็ได้ชนะกมส์นี้แล้วเพราะได้เอาของกลับมามากมาย ปกติแล้วพวกเขาคงยืนกันไม่ไหวแล้วในการแบกของขนาดนี้แต่สำหรับพวกเขาที่ใช้วิธีที่ถูกต้องเพื่อกลายมาเป็นคนรวยผ่านทางการปล้นนี้ พวกเขาได้รับของมากมายด้วยการปล้นเพียงแค่ครั้งเดียว ทุกคนน่ะต่างก็เต็มใจที่จะใช้แรงทั้งหมดในการลงมือครั้งนี้
ในบรรดาพวกเขาแล้ว น้ำหนักของที่พวกเขาแบกมานั้น ชอร์วิน แบกมาเบาที่สุด รวมถึงของในมือแล้วมันหนักราวๆ 50 กก. กลับกันกับ จางเทีย ที่ซึ่งแบกมากกว่า 100 กก. สำหรับคนอื่น แบร์ลี่, ลิซ, ฮิสต้า, ดั๊ก และ แบกแดด แต่ละคนแบกกมา 50-80 กก. แบกแดด แบกถุงขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยเนื้อแห้งที่หนักอย่างน้อย 60 กก.และมือไม่ได้ว่างเปล่าเลยด้วย แม้ว่าถุงนั่นจะเล็กกว่าตะกร้าของ จางเทีย ก็ตาม เมื่อรวมน้ำหนักที่ แบกแดด ถือมาก็หนักมากกว่า 80 กก.
การแบกของพวกนี้มาแน่นอนว่าทุกคนต้องตื่นเต้น พวกเขาพักแค่ไม่กี่ครั้งในการเดินทางกลับและใช้แรงทั้งหมดที่มีเพื่อเอาของพวกนี้กลับมาที่ฐานของพวกเขา
เมื่อเห็น จางเทีย กลับมา แพนโดร่า ได้วิ่งมาหาด้วยดวงตาที่แดงกล่ำ เธอกอด จางเทีย เอาไว้แน่นและร้องไห้ออกมา – “ เป็นความผิดฉันเอง เพราะฉัน นายต้องซวย... “
เมื่อเห็นสายตาหื่นของเพื่อน จางเทีย ก็อายเล็กน้อยและขยับตัวออก ตั้งแต่ที่เขาเป็นเด็ก นี่เป็นครั้งแรกที่สาวมากอดเขาพร้อมกับร้องไห้ จางเทีย ไม่รู้ว่าจะต้องพูดอะไรดีให้สถานการณ์มันดีขึ้น แพนโดร่านี่....ไม่ว่าเจอคนอื่นเจอโชคร้าย เธอมักจะเป็นคนคิดว่าตัวเองน่ะพาโชคร้ายมาสู่คนพวกนั้น
“ อย่าร้อง....ดูสิ ฉันสบายดีไม่ใช่รึไง ? วันนี้ ฉันได้ของมาเยอะเลยทีเดียวและฉันยังเอาของขวัญมาให้เธอด้วย ! “