spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 102: ลานที่วุ่นวาย
“ สมิหลา เป็นสายลับให้อาณาจักรนอแมน ! เด็กทุกคนฟัง ! หยิบอาวุธขึ้นมา ! ร่วมมือกับกรรมการ เราจะปลดอาวุธทุกคนที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มการค้าสมิหลา อย่าให้ใครหนีไปได้.... “
นั่นคือเสียงตะโกนของ แบกแดด เสียงตะโกนนี้ได้ยินเกือบทั่วทั้งปราสาท
ด้วยเหตุการณ์ที่พัฒนาขึ้นมาถึงระดับนี้ จางเทีย รู้สึกว่าเขาคงเสียเวลากับการมายืนเฉยๆ กรรมการเองก็มองมาที่ จางเทีย ด้วยความตกใจราวกับว่ามองมาที่สัตว์ดุร้าย เจ้าหน้าที่ต่างก็วุ่นวายกันไปหมด ในตอนที่ จางเทีย ก้มตัวลงและคิดจะแอบหนีออกไป เซรอม ก็มาคว้าแขนเขาเอาไว้
“ จางเทีย เพราะนายคือคนที่ทำให้เกิดเรื่อง ตามฉันไปปลดอาวุธทุกคนด้วย ก่อนที่พวกนั้นจะหนีไปได้ นายควรต้องระหวังไว้ดีๆและดูว่าพวกนั้นพยายามก่อเรื่องให้นายอีก “ - เขาพูดด้วยท่าทีเหมือนคนถูกและขยิบตาให้กับ จางเทีย
แม้ว่า จางเทีย จะไม่รู้ว่า เซรอม มีแผนอะไรแต่เขารู้ว่ามันคือเวลาที่ควรที่จะออกไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงรีบพยักหน้า
……
ด้วยอาวุธในมือ เซรอมได้มาเด็กจำนวนมากที่เข้าร่วมการฝึกนี้วิ่งออกมาข้างนอกปราสาท ก่อนที่ทหารพวกนั้นจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกนั้นก็โดนนักเรียนล้อมเข้าให้แล้วพร้อมกับชี้อาวุธมาที่พวกเขา ถ้าพวกเขาเคลื่อนไหวงั้นพวกเขาอาจโดนหอกพวกนี้แทงเอาก็ได้ ตอนนี้คนของกลุ่มการค้าสมิหลาล้วนแต่เปลี่ยนไปเพราะไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น การเจอกับหอกมากมาขนาดนี้แม้แต่ทหารระดับ 3 รึ 4 ของกลุ่มเองก็ไม่กล้าที่จะขยับ
เมื่อเห็น เวรอม และกลุ่มเด็กเดินเข้ามาหาพร้อมกับหัวหน้ากองย่อยของกลุม คนที่ยังงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นก็ตะโกนออกมาด้วยความหงุดหงิด – “ เซรอม นี่มันเกิดอะไรขึ้น ? พวกนายต้องอธิบายเรา ! หัวหน้าของเราไปไหน สมิหลา ล่ะ ? “
นอกจากกลุ่มการค้านี้แล้ว พวกคนที่ยืนอยู่ข้างๆต่างก็ตาเบิกกว้าง มีนักเรียนจำนวนมากในลานเองก็งงกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ สำหรับลูกจ้างทุกคนของกลุ่มการค้าสมิหลา ฉันของให้พวกนายฟัง หัวหน้าของพวกนาย สมิหลา โดนเปิดโปงว่าเป็นสายลับของอาณาจักรนอแมน กรรมการนั้นจำเป็นต้องจัดการสิ่งที่สนับสนุนเขา ถ้าพวกนายไม่คิดเหมือนกับ สมิหลา ก็วางอาวุธลงและทำตามคำสั่งของเรา เจ้าหน้าที่จากกองทัพจะมาถึงและดูแลเรื่องนี้เอง ก่อนที่พวกเขาจะมาแม้ว่ากรรมการก็มีสิทธิในการกักกันตัวพวกนาย เรายืนยันความปลอดภัยของพวกนาย ใครก็ตามที่ต่อต้านและไม่ร่วมมือกับกรรมการจะโดนลงโทษ !” - เซรอม ตะโกนออกมา ทำให้ทุกคนในกลุ่มการค้าต่างก็ช็อค การมาบอกว่า สมิหลา นั้นเป็นสายลับให้นอแมนทำให้ทุกคนช็อคและบางคนถึงกับปล่อยอาวุธลงกับพื้น ในฐานะลูกจ้างแล้วพวกเขาก็แค่คนงานธรรมดาที่รับค่าจ้าง พวกเขารู้แค่ว่าต้องปกป้องตัวเองในตอนนี้ ถ้าใครกล้าที่จะก่อเรื่องในตอนนี้แล้วแน่นอนว่าคงเป็นการหาที่ตายชัดๆ
ก็อย่างที่คาดไว้ ลูกจ้างเจ็ดคนของกลุ่มการค้าที่โดนล้อมนั้นต่างก็ยอมร่วมมือกับพวกกรรมการและเดินออกจากลานไปพร้อมกับ เซรอม และกลุ่มนักเรียนที่ทำหน้าที่
…
ในตอนที่ เซรอม พาคนเจ็ดคนนั้นไป เขาก็มาตบไหล่ จางเทีย และมองมาที่ของจำวนมากที่กลุ่มการค้านี้เอามา เซรอม ไม่พูดอะไรและขยิบตาให้ จางเทีย ก่อนจะเดินจากไป จางเทีย คิดไม่ออกว่า เซรอม นั้นมีจุดประสงค์อะไร ใช้เวลากว่าวินาทีกว่าเขาจะรู้ตัวว่า เซรอม จะสื่ออะไรให้เขา - “ เซรอม นี่เจ้าเล่ห์จริงๆแต่..ฮี่ฮี่ ฉันก็ชอบเขานะ ! “ – ทันใดนั้น จางเทีย ก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นมาทันที
ในตอนที่คนอื่นๆในลานต่างก็คุยกันถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จางเทีย น่ะได้โบกมือให้เพื่อนของเขา เมื่อเห็นสายตาของ จางเทีย แล้ว พวกนั้นก็รีบวิ่งเข้ามาหาด้วยท่าทีตื่นเต้น ตอนที่ แบร์ลี่ จะเปิดปากพูด จางเทีย ก็ต้องเอามือปิดปากไอ้อ้วนนั่นไว้ก่อน
“ ฟังนะ เห็นของพวกนั้นมั้ย ? “ - จางเทีย ชี้ไปยังของที่วางอยู่บนร้านค้าของกลุ่มสมิหลา – “ เร็วเข้า ไปเอาสิ่งที่ต้องการไปให้มากที่สุด จำไว้ให้รีบลงมือ,แอบด้วยและต้องมั่นใจด้วย ! ไม่ว่าเอาไปได้กี่อันมันก็จะถือว่าเป็นค่าชดเชยที่พวกมันทำชื่อเสียงฉันเสียหาย “
“ มัน...ทำได้ด้วยเหรอ ? “ - ลิซ กลืนน้ำลายด้วยตาเป็นประกาย
จางเทีย ยิ้ม เขาไม่พูดอะไรและเอาตะกร้าจาก ชอร์วิน มา สำหรับ ชอร์วิน และ ดั๊ก แล้ว เขาชี้ไปยังที่ที่มีร้านขายอาวุธที่กองกันเป็นเนินๆและสำหรับคนอื่นในองค์กรเขาได้ชี้ไปที่ร้านอาหาร
ชอร์วิน เป็นคนที่มีความคิดดี เขาถือตะกร้าของ จางเทีย ไว้ซึ่งเพิ่งเอาออกมาจากห้องสืบสวน เพราะของพวกนี้เป็นของ จางเทีย เขาเลยต้องคืนพวกมันให้กับ จางเทีย
ตอนนี้ แบร์ลี่ และคนอื่นๆนั้นยังคงอึ้งง จางเทีย น่ะได้เดินไปยังร้านขายอาหาร ตรงนั้นมีเด็กจำนวนมากที่ยังคงถกเถียงกันอยู่ เพราะพวกนั้นไม่รู้ว่าทำไมกลุ่มการค้าสมิหลาถึงได้ถูกจับตัวไป
จางเทีย เดินเข้าไปในรถอย่างมั่นใจ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆและมองไปรอบๆก่อนจะเทของในตะกร้าสลัดฝุ่นออก จากนั้นเขาก็เอาของต่างๆลงในตะกร้าของเขา
นมอัดเม็ด,ของดี...
ไส้กรอก, ของดี...
เนื้อแห้ง, ของดี ....
อาหารแห้ง ฮี่ฮี่...เพราะพื้นที่มีจำกัด ฉันคงต้องทิ้งแกไว้ก่อน
หลังจากที่ จางเทีย เติมตะกร้าได้มากกว่าครึ่งด้วยนมอัดเม็ดและไส้กรอก แบร์ลี่ และคนอื่นๆก็วิ่งเข้ามาหา หลังจากที่มองหน้ากัน พวกเขาก็ไม่พูดอะไรและเริ่มมองหาสิ่งที่พวกเขาต้องการ ทุกคนต่างก็เอาถุงมาด้วยและเริ่มใส่ของต่างๆลงไป พวกเขาจำสิ่งที่ จางเทีย ได้บอกเขาเอาไว้ตลอด – เร็ว, แอบ,และมั่นใจ
หลังจากนั้นสักพักพวกเขาก็เติมของต่างๆจนเต็มถุงและ จางเทีย ก็ได้แบกเอาตะกร้าขึ้นบนหลัง ตะกร้านี้น่ะหนักแค่ 80 กก.และเบากว่าแร่ที่เขาแบกทุกวันอีก จางเทีย มองไปที่ของรอบๆและหยิบเอาแฮมชิ้นโตหนึ่งชิ้นและเนื้อแห้งอีกสองชิ้นซี่งน้ำหนักมากกว่า 20 กก.
ในตอนที่เก็บของอยู่นั้น คนอื่นที่ยืนอยู่ข้างๆที่มาแลกอาหารก็เริ่มเงียบพร้อมกับมองพวกเขาด้วยตาเบิกกว้าง พวกนั้นมองหน้ากันและสับสนกับสิ่งที่เกิดขึ้น
“ พวกเขากำลังทำอะไร ? เป็นพนักงานของกลุ่มการค้ารึเปล่า ? พวกเขาดูไม่เหมือนเลย นี่มันบ้าอะไรกันวะเนี้ย ? “
ในที่สุดเมื่อเห็น จางเทีย ที่ซึ่งกำลังจะออกไปพร้อมกับตะกร้าที่เต็มไปด้วยของต่างๆอีกทั้งยังมีแฮมและเนื้อที่ถืออยู่ในมือและคนอื่นๆเองก็แบกถุงหนักๆที่ทำให้หน้าบิดเบี้ยวเพราะน้ำหนักของมัน ชายที่ยืนอยู่ด้านข้างก็กลืนน้ำลายและถามออกมา – “ เพื่อน พวก..พวกนายทำอะไรน่ะ ? “
“ ไม่มีอะไรหรอกแค่กลุ่มการค้านี้ติดหนี้ฉัน ดังนั้นฉันเลยเอาของพวกนี้เป็นค่าชดเชย ! “ - จางเทีย ตอบกลับด้วยความมั่นใจก่อนที่จะมองไปที่ แบร์ลี่ และคนอื่นๆ เมื่อเห็นพวกนั้นเติมของจนเต็มถุงแล้ว จางเทีย ก็เดินออกมาจากรถนั่น
“ โทษทีนะ หลีกทางหน่อย.. “ - จางเทีย และเพื่อนเดินออกมาพร้อมของจำนวนมากของกลุ่มการค้าสมิหลา จางเทีย เห็น ชอร์วิน และดั๊ก ที่ซึ่งแบกถึงและถือกล่องไว้ในมือซึ่งทั้งคู่ก็เตรียมพร้อมที่จะออกไปแล้วด้วย จางเทีย,แบร์ลี่และคนอื่นๆรีบเดินเข้าไปหา ชอร์วิน และ ดั๊ก หลังจากที่มองหน้ากันพวกเขาก็เริ่มตื่นเต้นขึ้นมาจนหน้าแดงกล่ำไปหมด
“ เร็วเข้า ไปที่ฐานต้นไม้ ที่นี่จะวุ่นวายแล้ว ! “ – จางเทีย พึมพำออกมา ทุกคนต่างก็มองหน้ากันก่อนที่จะก้มหัวลงและหายไปจากลานพร้อมกับสิ่งของมากมายที่อยู่บนหลังและในมือ
……
“ โอ้ ฉันจำได้ว่ากลุ่มการค้าสมิหลาเองก็ติดหนี้ฉันด้วย.. “ – เมื่อเห็น จางเทีย และพวกนั้นหายไปจากลาน ก็ได้มีชายคนหนึ่งที่เพิ่งพูดกับ จางเทีย มองไปยังกองของที่เหลือไว้ ทันใดนั้นเขาก็คิดออกว่าเกิดอะไรขึ้น เขาวิ่งไปที่รถพวกนั้นและหยิบเนื้อแห้งมาสองชิ้นก่อนจะรีบออกไป
เมื่อเห็นชายคนที่สองเอาเนื้อแห้งไปก็เริ่มมีคนมากขึ้นเริ่มรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและพากันเอาของต่างๆที่มีไปจนหมด
“ ฉันเองก็จำได้ว่าฉันยังไม่ได้อาหารที่ฉันฝากไว้เลย ! “ – ชายอีกคนพูดขึ้นพร้อมกับวิ่งเข้าไป
“ ฉันเองก็จำได้ กลุ่มการค้าสมิหลาติดอาหารฉันไว้ในครั้งที่แล้ว.... “
“ ฉันก็จำได้ด้วย... “
มีผู้คนจำนวนมากวิ่งเข้าไปเอาแต่ก็ยังมีคนที่ลังเลอยู่
“ เพื่อน สมิหลา น่ะเป็นสายลับของอาณาจักรนอแมน ระหว่างการฝึกเอาตัวรอด เราต้องทำตามกฎสงครามของพันธมิตร นายลืมไปแล้วรึไง ของพวกนี้เป็นของกลุ่มการค้าสมิหลาน ต้องบอกเลยว่าเพราะ สมิหลา น่ะเป็นศัตรูของเรา ของพวกนี้จึงเป็นรางวัลของเรา จะมามัวมองอะไรอยู่ ? ใครเอาไปได้ก็เอาไป ไปเลยสิ ... “
ในลานนั้นนักเรียนจำนวนมากพร้อมใจกันวิ่งด้วยคำพูดพวกนี้ ผลก็คือคนเกือบพันนั้นสร้างเรื่องวุ่นขึ้นมา ตอนแรกมีแค่ผู้ชายที่วิ่งไปเอาของพวกนั้น แต่ไม่นานหลังจากที่เห็นพวกผู้ชายทำ สาวๆต่างก็ไปร่วมด้วย ตอนนี้พวกเขาไม่จำเป็นต้องสุภาพอีกต่อไปเพราะรู้ว่า สมิหลา นั้นเป็นสายลับของอาณาจักรนอแมนแล้วทำไมยังต้องทำตัวสุภาพกันศัตรูอีกล่ะ ?