spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 95: สร้างปัญหา
ในตอนที่ จางเทีย พร้อมกับ ดั๊ก และ แบร์ลี่ ได้มาที่ลานพร้อมกับของจำนวนมาก เขาก็พบว่าลานนั้นมีคนมากมายกว่าเดิมหลายเท่า มีกลุ่มเด็กๆยืนเรียงแถวกันเพื่อแลกของต่างๆกับทีมการค้า
จางเทีย และสมาชิกคนอื่นๆในองค์กรนั้นต่างก็มีหนังสัตว์เป็นหลัก พวกเขาได้เอาหนังหมาป่ามา 5 ตัว, 3 ตัวนั้นล่ามาโดย จางเทีย , หนังเม่นตัวหนึ่งและหนังกระต่ายอีกสองตัว แม้ว่าหนังพวกนี้จะไม่ได้มีค่ามากแต่ก็ยังแลกอาหารได้จำนวนมาก เพราะหนังนั้นจะแห้งไปแล้วและส่งกลิ่นแปลกๆอยู่ที่ฐานของพวกเขา ดังนั้นถ้าพวกเขาสามารถที่จะขายมันได้ งั้นมันก็ทำให้กลิ่นที่ฐานนั้นดีขึ้นอีกนิดอย่างแน่นอน
“ไอ้หัวโต นายอยากเอาหนังหมาป่าแลกกับอะไร ? “ - แบร์ลี่ ถาม
“ แลกอาหารแห้งไงล่ะ “
“ นายไม่ต้องการเงินเหรอ ? ของพวกนี้น่ะขายได้มากกว่า 20 เงินเลยนะ “
“ ตอนนี้เราไม่ต้องการเงินหรอก สิ่งที่เราต้องการตอนนี้ก็คืออาหารซึ่งฉันอยากแลกมันเพื่ออาหารมากกว่า ตราบใดที่เราผ่านการฝึกนี้ไปได้ ทุกอย่างก็ถือว่าดี ! “ - จางเทีย ยิ้มออกมา
แบร์ลี่ มองมาที่ จางเทีย ด้วยท่าทางแปลกๆ เขาไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับ จางเทีย แบรลี่ รู้สึกว่า จางเทีย นั้นดูผ่อนคลายกับการจัดการสิ่งต่างๆมากกว่าเดิม การตัดสินใจนั้นก็เหมือนจะขี้เกียจแต่ก็ดูเหมือนมีความกล้าและมีการตัดสินใจที่ดี เป็นไปได้มั้ยว่านี่คือผลของทักษะหมัดเหล็กโลหิต ? ไม่ ไม่น่าจะเป็นแบบนั้น แบร์ลี่ อธิบายกับตัวเองไม่ได้เลยสักนิด พวกเขาเองก็ฝึกทักษะนี้ ดังนั้นแล้วทำไม จางเทีย ถึงได้พัฒนาไปได้เร็วกว่าคนอื่น ? นี่ยังไม่พูดถึงที่ว่าไอ้อ้วนเองก็เห็นว่า จางเทีย น่ะมีความคิดที่เปลี่ยนไปแต่ แบร์ลี่ น่ะสับสนว่าทำไม จางเทีย คนที่เอาแต่ขุดเหมืองและฝึกทักษะหมัดเหล็กโลหิตกับพวกเขาทุกวันถึงได้มีจิตวิญญาณที่เพิ่มขึ้นแบบนี้
รึว่างานเหมืองนั่นจะได้ผล ? ฉันควรไปลองเองเลยดีมั้ย ?
“ ได้ งั้นก็อย่างที่นายต้องการ ดั๊ก กับฉันต่อคิวเองก็ได้ ! “ - เมื่อได้ยินคำพูดของ แบร์ลี่ ดั๊ก ที่ซึ่งยืนอยู่ข้างๆก็ตบอกตัวเองพร้อมกับยิ้ม ระหว่างอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น ดั๊ก มักจะประจบ จางเทีย เสมอ
อันที่จริงสามคนนี้ไม่จำเป็นต้องต่อคิวเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นเมื่อเห็นว่า ดั๊ก และ แบร์ลี่ ยืนต่อคิว จางเทีย จึงตัดสินใจที่จะเดินไปรอบๆลานเพื่อดูของต่างๆตรงประตูปราสาท จางเทีย เองก็เดินไปที่นั่นด้วย
ในตอนที่ จางเทีย เข้าไปใกล้ เขาก็ได้ยินเด็กผู้ชายหลายคนนั้นพูดเกี่ยวกับภารกิจที่อยู่บนกระดาน
“ ถ้าฉันได้หญ้าคอห่านมานะ...แค่อันเดียวมันก็มีค่ามากกว่า 1 ทองอีก ! นั่นแลกมีดกับดาบดีๆได้เลยนะ ! “
“ แล้วยังหมาป่าทองอีก ถ้าฆ่ามันได้หนึ่งตัวงั้นนายก็จะได้ไขสันหลังของมันซึ่งมีค่ามากกว่าคอห่านนั่นอีก ไม่ต้องพูดถึงมีดรึดาบเลย นายสามารถแลกเนื้อ 3 กก.กับอาหารแห้งอีก 7 กก. ด้วย ! ถ้าฉันฆ่าหมาป่าทองได้ งั้นฉันก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอนาคตได้อีกเป็นอาทิตย์เลย “
“ แต่มันไม่ได้ง่ายที่จะได้ของพวกนั้นมา นายไม่ได้อ่านประกาศรึไง ? เราหาพวกมันได้แค่ชายขอบของหุบเขาและทุ่งหญ้าพระจันทร์เสี้ยวซึ่งห่างออกไป 30 กม. ฉันได้ยินมาว่ามีฝูงหมาป่าอยู่ที่ทุ่งหญ้านั่นหลายเท่าถ้าเทียบกับในหุบเขานี้ การเจอกับพวกมันเป็นสิบรึอาจเป็นร้อยน่ะ...เราโดนฉีกเป็นชิ้นๆได้ง่ายๆ ไม่เหลือกระดูกสักชิ้นแน่ ...”
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น จางเทีย ก็คิ้วขมวดก่อนที่จะเดินผ่าฝูงชนไปยังกระดานประกาศ ที่บนกระดานนั้นมีภารกิจให้ล่าหมาป่าทองและเก็บหญ้าคอห่าน มีภาพสองอันแขวนเอาไว้ อันแรกคือหมาป่าทองและอีกอันคือหญ้าคอห่านโดยเรียงจากซ้ายไปขวาเพื่อให้แน่ใจว่าแต่ละอันนั้นมีหน้าตายังไง ผู้ชายที่สวมหมวกไหมที่ซึ่งผอมพอๆกับไม้ไผ่หน้าตาธรรมดาได้อธิบายให้คนต่างที่เข้ามามุงดูฟัง
“ อาจารย์เอเบียน คือหัวหน้าของหน่วยยาของเมืองแบล็คฮ็อตและเขาต้องการไขกระดูกหมาป่าทองและหญ้าคอห่านเพราะวัตถุดิบพวกนั้นสามารถไปทำยาฟื้นฟูได้ พวกเธอรู้มั้ยว่าอะไรคือยาฟื้นฟู ? ยาฟื้นฟูคือยาสุดวิเศษที่ซึ่งทำให้นักสู้นั้นฟื้นฟูได้เร็วยิ่งกว่าเดิมหลังจากที่ได้รับบาดแผลมา.. “ – ตอนนั้นชายสวมหมวกก็ยกมือขึ้นและอุทานออกมา – “ ผู้กล้าหาญ เด็กหนุ่ม ! เธอรู้มั้ยว่าเกิดอะไรขึ้นในเมืองตอนนี้ ? อาณาจักรนอแมนผู้ชั่วร้ายได้แสดงว่าจะโจมตีเมืองเราและครอบครัวของพวกเธอด้วย ไม่นานเมืองนี้ต้องเจอกับการต่อสู้นองเลือด เพื่อเมืองแล้วญาติของนายอาจจะต้องเข้าร่วมกับกองทัพ ไปเอาของที่ว่ามา อาจารย์เอเบียน จะได้ทำยาขึ้นมาเพื่อเหล่าทหารทั้งหลาย หยิบดาบและมีดของพวกนายไปที่ทุ่งหญ้าพระจันทร์เสี้ยว ใช้ศพของหมาป่าทองและหญ้าคอห่านนั้นแสดงความกล้าของพวกนายซะ ! ดูนี่ ! เหล่าสาวๆน่ะรอคอยดูความกล้าของพวกนายอยู่ ! “
คำพูดพวกนี้กระตุ้นพวกผู้ชายได้ดีเหลือเกิน เมื่อรวมกับน้ำเสียงอันน่าหลงใหลกับอารมณ์แล้ว เขาได้สร้างสิ่งที่น่าเชื่อขึ้นมา ผลก็คือมีคนจำนวนมากที่ตื่นเต้นและคุยกันในเรื่องนี้ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เด็กๆได้ยินเรื่องที่เกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรนอแมนและเมืองแบล็คฮ็อต
“ บอกเราที มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างอาณาจักรนอแมนกับเมืองแบล็คฮ็อต ? “ – เด็กหนุ่มคนหนึ่งตะโกนถามขึ้นมา
“ นายไม่รู้จริงๆเหรอ ? ครูไม่ได้บอกนายเรื่องนี้หรอกเหรอ ? หลายวันก่อนมีเหตุการณ์น่ากลัวเกินขึ้นในเมือง ชายแดนด้านเหนือของอาณาจักรนอแมนได้เตรียมม้าของพวกเขาและฝึกกองทัพของพวกเขาเพื่อเตรียมพร้อมที่จะบุกเมืองเรา บ้านเกิดของนายยังไงล่ะ นั่นแหละว่าทำไมเมืองแบล็คฮ็อตตอนนี้ถึงได้อยู่ในช่วงที่อ่อนแอที่สุด นี่คือตอนที่วิกฤตสำหรับคนกล้าของเมืองเพื่อที่จะแสดงตัวออกมาทำบางอย่างเพื่อบ้านเกิดของพวกเขา ..”
ตอนนั้นผู้คนต่างก็ตกใจ เพราะพวกเขามาอยู่ที่น่ากว่า 20 วันแล้ว หลายคนจึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเมืองบ้าง การรู้เรื่องนี้จาก สมิหลานั้นทำให้ทุกคนตกใจ
ภายในฝูงชนนั้น จางเทีย ได้คิ้วขมวด สัญชาตญาณบอกเขาว่ามีบางอย่างผิดปกติไปกับคำพูดที่ชายคนนี้พูด แม้ว่าคนอื่นๆจะไม่รู้ว่ายาฟื้นฟูคืออะไรแต่ จางเทีย น่ะรู้ว่ามันคืออะไร เขาทำงานที่ร้าน ดอนเดอร์ มานานและร้านก็มีของสองอย่างนี้ ตามที่ ดอนเดอร์ บอกเอาไว้ ในเมืองน่ะราคายาฟื้นฟูที่ต่ำที่สุดก็ 10 ทอง นี่เป็นบางอย่างที่อาจจะไม่ได้มีไว้สำหรับคนธรรมดาและทหารธรรมดาแต่ไอ้บัดซบนี่กลับโกหกพวกเขาและบอกให้พวกเขาไปเอาวัตถุดิบสองอย่างนี่มาในทุ่งหญ้าเสี้ยวพระจันทร์ มันทำให้พวกเขาหลงในคำพูด ชัดแล้วว่ามันมีจุดประสงค์ไม่ดีแน่ๆ
เขากวาดตามองไปที่เด็กรอบๆที่เอะอะกัน ทันใดนั้น จางเทีย ก็เห็น เซรอม ขมวดคิ้วพร้อมแสดงหน้าตาน่ากลัวมองไปที่ชายคนที่พูดพร้อมกับกัดฟันแน่น เขากรอกตามองและก็ได้มีความคิดหนึ่งแว๊บขึ้นมาในหัวของ จางเทีย
เขาค่อยๆถอยกลับเข้าไปในฝูงชนและก้มตัวลงก่อนจะตะโกนออกมา
“ ทุกคน อย่าไปฟังเขา ชายคนนี้โกหก ! เขาต้องการให้เราไปตายในทุ่งหญ้านั่น แม้ว่ายาฟื้นฟูธรรมดาที่สุดน่ะราคาก็มากกว่า 10 ทองต่ออันแล้วและมันเป็นบางอย่างที่คนอย่างเราซื้อไม่ได้ เราควรฟังครูขอบเรา ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นในเมืองแบล็คฮ็อต งั้นครูก็จะบอกให้เรารู้ อย่าไปฟังคนแปลกหน้าที่พูดเชิญชวนเลย ... “
แม้ว่าเด็กพวกนี้จะคึกไปตามคำพูดแต่ไม่ใช่ว่าสมองของพวกนี้พิการ เมื่อได้ยินคำเตือนของ จางเทีย หลายคนก็ตระหนักได้ถึงเหตุผลที่จะไม่เชื่อใจคนแปลกหน้า อย่างน้อยๆความสัมพันธ์ระหว่างยาฟื้นฟูน่ะก็มีค่ามากกว่า 10 ทองแต่พวกเขาล่ะ ? ทำไมต้องให้พวกเขาไปเสี่ยงด้วย ?
สมิหลา ยืนอยู่ที่กระดานประกาศและสีหน้าก็เริ่มบิดเบี้ยว ตอนแรกเขารอให้คนจำนวนมากมาช่วยเขาในการทำเงินแต่ไม่คาดคิดเลยว่าจะมีใครสร้างปัญหาให้กับเขาและเปิดโปงเขา
“ ใคร ? ใครที่พูดแบบนั้น ? ออกมา ! “ - สมิหลา ตะโกนออกมาด้วยท่าทีหงุดหงิด ส่วนตาเขาก็กวาดตามองไปที่เด็กผู้ชายทุกคนตรงหน้า
หลังจากที่แอบออกมาจากตรงนั้น จางเทีย ก็บีบจมูกตัวเองและตะโกนออกมาอีกรอบ – “ ไอ้นั่นโดนเปิดโปงแล้วและตอนนี้เขาหงุดหงิด เพื่อน ดูที่ตาเขาสิมันเหมือนกับงูพิษชัดๆ แน่นอนว่าเขาต้องเจ้าเล่ห์ ! คนที่จิตใจดีน่ะไม่มีตาน่ากลัวแบบนี้หรอก บอกเพื่อนตัวเองเลยว่าอย่าโดนมันหลอก ! อย่าช่วยเขาทำเงินโดยเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยง ! เราจะอยู่ในหุบเขาและไม่ไปที่ทุ่งหญ้านั่น... “
เมื่อได้ยินคำพูดของ จางเทีย เด็กๆต่างก็เริ่มถกเถียงกันและหลายคนก็เริ่มที่จะดูตาของชายคนนั้น คำพูดว่าตาที่น่ากลัวเหมือนกับงูพิษนั้นและคำพูดอื่นๆเป็นจริงสุดๆ ตอนนั้น สมิหลา เริ่มหงุดหงิดและกระโดดขึ้นจากพื้นและหน้าเขาก็เริ่มม่วงขึ้นมาแต่เมื่อเจอกับสายตาที่สงสัยของเด็กๆ เขาก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องฝืนยิ้มออกมา
ในตอนที่เด็กถกเถียงกันนั้น จางเทีย ก็แอบออกมาและไปหา แบร์ลี่ และ ดั๊ก เมื่อเห็นว่าเกิดอะไรขึ้น สีหน้าของ เซรอม ก็ดูเหมือนจะพอใจอย่างมาก ตั้งแต่ที่ จางเทีย ได้พูดออกมา เขาน่ะตระหนักได้ว่ามันคือเสียงของ จางเทีย สิ่งที่ จางเทีย ทำนั้นทำให้เขาช็อค เขาไม่คิดว่า จางเทีย จะเห็นข้อเท็จจริงในคำโกหกนั้นและตะโกนเตือนคนอื่นๆโดยที่ไม่ให้ถูกจับได้ จางเทีย น่ะทำทุกอย่างที่ เซรอม อยากจะทำได้สมบูรณ์แบบ เพราะ จางเทีย ได้ออกมาจากตรงนั้นแล้ว พวกเด็กๆต่างก็เริ่มพูดคุยถึงเรื่องหน้าตาของ สมิหลา และตาที่น่ากลัวของเขา
จางเทีย ได้แลกหนังหมาป่าสามอันกับอาหารแห้งมากกว่า 4 กก. ถึงแม้ แบร์ลี่ จะบอกว่าเขาขาดทุนเพราะราคาของหนังพวกนี้น่ะมากกว่า 20 เงินและทีมการค้านี้ให้เขากลับมาแค่ 10 เงิน เมื่อเห็นแบบนั้น ดั๊ก เองก็เริ่มหงุดหงิดขึ้นมา
แม้จะเป็นแบบนั้นแต่ จางเทีย ไม่ได้สนใจมันมาก เขากลับปลอบ แบร์ลี่ และ ดั๊ก ในตอนที่พวกเขากำลังจะออกจากปราสาท จางเทีย ก็โดนสายตาของ เบอร์วิค จับจ้องไว้ แม้ว่าจะมีผู้คนจำนวนมากล้อมไว้แต่ เบอร์วิค ก็เดินเข้ามาพร้อมกับมีคนที่ถือหนังหมาป่าหลายตัวตามมาด้วย แค่มองคร่าวๆแล้วน่ะจะมีหนังหมาป่ากว่าร้อยตัวได้ ...
ทุกคนต่างก็หลีกทางให้ เบอร์วิค ตอนนั้น เบอร์วิค สะดุดตาอย่างมากแต่เมื่อเห็นสีหน้าที่สงบของ เบอร์วิค ที่ซ่อนอยู่ในใบหน้าที่ภาคภูมิใจของเขา อยู่ๆ จางเทีย ก็คิดถึงชายสวมหมวกผ้าไหมขึ้นมา
“ รึว่า เบอร์วิค ร่วมมือกับ สมิหลา ? “
ความคิดนั้นแว๊บเข้ามาในหัวเขา !
“ เกิดอะไรขึ้นในเมืองกันแน่ ? จดหมายที่ฉันส่งไปให้กองทัพได้รับแล้วงั้นเหรอ ? รึว่ามันทำให้หน่วยจัดการของเมืองสนใจเข้าแล้ว ? แม่กับพ่อและพี่ชายยังโอเคอยู่มั้ย ? “
สิ่งที่ชายคนนั้นพูดทำให้ จางเทีย ช็อค
ไม่นาน จางเทีย, แบร์ลี่ และ ดั๊ก ก็ได้ออกจากปราสาทไป กรรมการที่ซึ่งรับหน้าที่ดูแลการฝึกนี้ไปติดประกาศบอกเรื่องที่เกิดขึ้นในเมืองและพันธมิตรอันดามันในอาทิตย์ที่ผ่านมา เด็กทุกคนต่างก็รู้ว่ามีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นในเมืองและพันธมิตรในหนึ่งเดือนที่พวกเขาเข้ามาฝึก เมื่อรู้ว่าอาณาจักรนอแมนและราชวงศ์อาทิตย์นั้นจะโจมตีเมืองแบล็คฮ็อตและพันธมิตร ทุกคนต่างก็อึ้ง
เป็นไปได้มั้ยว่าจะมีสงครามระหว่างสามอาณาเขตนี้เกิดขึ้น ?
บรรยากาศอันตึงเครียดนั้นครอบคลุมไปทั่วทั้งหุบเขา !