spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 93: เดินหน้าต่อ
อากาศบริสุทธิ์พัดผ่านหุบเขามาทำให้ได้กลิ่นธรรมชาติ,หญ้าและต้นไม้ที่ปลิวมาตาม ลมทำให้ จางเทีย รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมา ลมนั้นพัดผ่านผมของ จางเทีย ได้และวนรอบๆคอของเขาก่อนจะไล่ไปถึงหลังที่ชุ่มเหงื่อ ความรู้สึกเย็นทำให้ จางเทีย นั้นเกือบจะครางออกมา
วันนี้คือวันที่เจ็ดตั้งแต่ที่ จางเทีย ออกจากปราสาทมาและวันนี้คือวันที่เจ็ดตั้งแต่ที่เขากลับมาทำงานในฐานะคนขุดเหมือง ระหว่างวันที่ผ่านมา จางเทีย ชินกับการแบกตะกร้าที่เต็มไปด้วยแร่และส่งที่ปราสาท ในอดีดเขามักจะแบกแค่ 50-60 กก.ต่อครั้งและบางครั้งเขาก็แบกได้มากถึง 70 กก.แต่เจ็ดวันที่ผ่ามาทุกครั้งนั้น จางเทีย จะแบกมากกว่า 100 กก. เขาจะส่งแร่งตามจำนวนได้ในครั้งเดียวทำให้คนที่จุดรับส่งนั้นตกใจอย่างมาก พวกเขาไม่คิดมาก่อนว่า จางเทีย ที่รูปร่างธรรมดาจะมีแรงมากขนาดนี้ แรงที่ไม่มีใครเทียบเขาได้
กว่าเจ็ดวันที่ผ่านมา จางเทีย นั้นดูเปลี่ยนไป ตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่าแรงของ จางเทีย ได้ก้าวไปอีกระดับแล้ว ห้าวันก่อนตอน จางเทีย กิน Leakless Fruit ผลที่สาม ก็อย่างที่คาดเอาไว้ว่าเขาฝ่าชั้นการบ่มเพาะมาสามชั้นติดต่อกันทำให้จุดชีพจรตรงสันหลังนั้นเปล่งแสงสีฟ้าออกมา ด้วย Leakless Fruit อีกแค่ผลเดียวเขาก็จะกลายเป็นทหารระดับ 2 อีกแค่เดือนเดียวเขาก็จะปลุกจุดชีพจรที่สองและกลายมาเป็นทหารระดับ 2 ได้ นี่คือความเร็วที่น่าทึ่ง อย่างน้อยๆ จางเทีย ก็ไม่เคยได้ยินว่ามีใครในเมืองแบล็คฮ็อตที่จะตามความเร็วในการปลุกจุดชีพจรแบบเขาได้ นอกจากจุดชีพจรที่จะถูกปลุกขึ้นมาในไม่ช้า เขายังได้เริ่มเห็นเอฟเฟ็คของ Trouble-Reappearance Fruit ด้วยการสู้กันกับหมาป่าสามตัวหลายครั้งต่อวัน จางเทีย รู้สึกได้อย่างชัดเจนถึงทักษะการต่อสู้ที่เพิ่มขึ้น ตอนนี้มันง่ายกว่าเดิมแล้วที่เขาจะใช้ทักษะต่อสู้ที่เขาเรียนรู้ที่โรงเรียนออกมา ดังนั้นจึงทำให้เขาฆ่าหมาป่าพวกนั้นได้ง่ายกว่าเดิม
ด้วยการมีสมบัติแบบนี้อยู่กับตัว จางเทีย ได้ตัดสินใจที่จะทำตัวให้ไม่สะดุดตากว่าแต่ก่อน ในสายตาของคนอื่นแล้ว จางเทีย ได้ทำงานหนักกว่าเดิม เหมือนราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น มันเหมือนกับว่าเขาได้ลืมเรื่องที่เขาโดนหมาป่าโจมตีไปแล้ว
ก็อย่างเช่นเคยในตอนที่ จางเทีย วางตะกร้าที่จุดส่งนั้น นักเรียนของโรงเรียนแห่งที่สองที่ซึ่งเป็นพนักงานก็ได้วิ่งเข้ามาดูตัวเลขที่ตาชั่งอีกครั้ง
“ 138 กก...เหี้ย นายทำลายสถิติอีกแล้ว ! แรงคนเราพัฒนาได้เร็วกับการขุดเหมืองทุกวันเลยเหรอ ? “ - หนึ่งในเด็กพวกนั้นบ่น – “ฉันล่ะอยากลองดูจัง จางเทีย ดูสบายอย่างมากเมื่อเขาไปขุดแร่ แค่รอบเดียวเขาก็สามารถส่งแร่ตามที่กำหนดได้แล้ว “
“ นาย ? ลืมซะเถอะ จางเทีย น่ะปลุกจุดชีพจรและเป็นทหารระดับ 1 แล้ว ! “ – ชายข้างเขาพูดพร้อมกับส่ายหน้าและจดตัวเลขลงในสมุด จากนั้นก็มองมาที่ จางเทีย เหมือนจะบอกว่าให้เทแร่ที่เก็บมานั้นลงบนรถราง ในอดีตสองคนนี้จะทำหน้าที่นี้แต่ตั้งแต่ที่ จางเทีย เริ่มเอาแร่มากขึ้น สองคนนี้ก็ต้องลำบากในการยกมันเพราะมันมีน้ำหนักมากกว่า 100 กก. และต้องยกมันกว่า 1 ม.กว่าจะเทลงในรถได้ ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงมักจะขอให้ จางเทีย ช่วย
“ ไม่ใช่ว่า ทานิน ก็ปลุกจุดชีพจรได้และเป็นทหารระดับ 1 เหรอ ? ทำไมเขาไม่เห็นแข็งแกร่งเท่า จางเทีย เลย...” - เด็กที่เพิ่งพูดขึ้นมามองอย่างชื่นชมไปที่ จางเทีย ในอีกด้านเขาก็ช่วยยกตะกร้าขึ้นมาโดยอีกคนได้พึมพำ – “ เพราะเขาสามารถรอดมาได้แม้ว่าตกไปหลุม 200 ม. ชายคนนี้น่ากลัวจริงๆ ! “
จางเทีย ไม่รู้ว่า ทานิน คือใครแต่เขาเดาได้ว่าคนนั้นเองก็เป็นคนที่โดดเด่น เมื่อฟังที่พวกนี้คุยกัน จางเทีย ก็ยิ้มออกมาและโกหกไป – “ บอกจริงเลยนะ การทำเหมืองน่ะท้าทายอย่างมาก โดยเฉพาะส่วนที่ต้องแบกมันออกมาเนี้ยแหละ ก็อย่างที่นายรู้ ฉันคงไม่สามารถแบกมาได้มากขนาดนี้ในอดีต แต่กว่าหลายวันที่ผ่านมา ฉันตระหนักได้ว่าถ้าฉันเลือกที่จะฝืนต่อ ฉันจึงกัดฟันแน่นและทำให้ฉันพัฒนาขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด ถ้านายไม่เชื่อก็ไปลองดูได้ ! “
แม้ว่าคำพูดของเขาจะกึ่งจริงกึ่งเท็จและดูหลงตัวเองนิดๆแต่ จางเทีย ก็ทำสีหน้าจริงจังออกมา ถ้าสองคนนี้เชื่อเขาและอยากไปลองดูจริงๆ มันก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับ จางเทีย แน่นอนว่าคนเราแข็งแกร่งขึ้นได้จากงานหนักแต่จำนวนแรงที่จะได้มานั้นก็ขึ้นอยู่กับร่างกายและความพยายามด้วย
จางเทีย อดไม่ได้ที่จะหัวเราะในใจพร้อมกับพึมพำ – “ ถ้านายได้ Leakless Fruit ทุกอาทิตย์เหมือนฉัน งั้นนายก็จะได้แรงเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเลยล่ะ “
ไม่กี่วันที่ผ่านมานั้น จางเทีย ได้ขุดแร่แต่เช้าก่อนที่จะเอาแร่ที่เหลือใส่ลงไปใน Castle of Black Iron หลังจากนั้นเขาก็จะกลับไปที่ฐานและใช้เวลาตอนบ่ายในการบ่มเพาะทักษะหมัดเหล็กโลหิต เมื่อเทียบกับการบ่มเพาะสกิลต่อสู้ที่ใช้โดยคนระดับสูงของอาณาจักรนอแมนกับการหาอาหารนิดหน่อย ทุกคนรู้ว่าอะไรสำคัญกว่าและ จางเทีย เองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น
ตอนนี้ แบร์ลี่ และคนอื่นๆในองค์กรได้จัดการขุดหลุมลึกกว่า 5 หลุมและติดตั้งกับดักเล็กๆกว่า 20 อัน พวกเขาน่ะเก่งเรื่องกับดักกันมากขึ้น พลังของกับดักที่ทำมาก็แสดงออกมาได้อย่างเต็มที่ เพราะกับดักพวกเขาทำให้องค์กรนั้นมีชื่อเสียงในบรรดาหมู่นักเรียนและเริ่มอยากเรียนรู้วิธีสร้างกับดักนี้
หลังจากที่ส่งแร่แล้ว จางเทีย ได้รับอาหารแห้งและเตรียมที่จะกลับไปยังฐานต้นไม้แต่ก่อนที่เขาจะได้ก้าวออกไป เขาก็ได้เห็นธงสีฟ้าบ่งบอกว่ามีทีมการค้าด้านนอกมาถึงปราสาทและในเวลาเดียวกันนักเรียนก็สามารถเอาของตัวเองมาแลกกับทีมการค้านี้ได้
ในวันที่ 20 ตั้งแต่เริ่มการฝึก ทีมการค้านี้จะออกจากเมืองแบล็คฮ็อตมาและในที่สุดก็ได้มาถึงที่ปราสาท การมาถึงของพวกเขาทำให้หลายคนตื่นเต้นและหมายความว่าพวกเขาสามารถขายของที่หามาได้แลกกับของที่จำเป็น
ก็อย่างที่คาดไว้ ลานปราสาทนั้นคึกคักขึ้นมาทันทีเพราะมีหลายคนเริ่มเข้าไปล้อมรถสามคันของทีมการค้านั้น แม้แต่ จางเทีย เองก็ต้องถูกผลักปนเข้าไปด้วย นี่เป็นครั้งแรกสำหรับ จางเทีย ที่เห็นรถขนส่งที่ถูกเอามาใช้ในป่า รถเหล่านี้ต่างกับรถทั่วไปที่ใช้ในเมืองแบล็คฮ็อต รถพวกนี้น่ะดูแปลก แต่ละคันดูเหมือนรถตัดหญ้าน่าเกลียด รถนั้นมีตู้สองตู้และหัวของมันก็เหมือนกับหัวเครื่องจักรไอน้ำขนาดเล็กกลมๆฝังอยู่ในกรอบสี่เหลี่ม ข้างๆมันมีปล่องที่สูงสะดุดตา ล้อเองก็มีสองส่วน ส่วนที่ต่อกับล้อด้านหน้าและด้านหลัง ในส่วนที่สองของหัวมันคือตัวเผาถ่านหิน ทุกคันนั้นมีความยาวกว่า 20 ม. นอกจากรูปร่างของมันแล้วก็มีคนขนของลงมาทีละอย่างๆซึ่งจับจองพื้นที่ว่างไปอย่างรวดเร็วเปลี่ยนมันเป็นตลาดย่อยๆขึ้นมา หลังจากนั้นพวกเขาก็เปิดและขายสินค้า ของส่วนมากก็เป็นอาหารธรรมดาที่มาจากเมือง นอกจากอาหารธรรมดาแล้วก็ยังมีพวกนม,เนื้อแห้งและไส้กรอกและยังมีเครื่องมือต่างๆไว้ใช้ในการทดลองด้วย
เสียงอุทานของพวกเด็กๆดังก้องไปทั่วข้างๆรถคันหนึ่ง เมื่อได้ยินแบบนั้น จางเทีย ก็เดินเข้าไปดูและตกใจกับสิ่งที่เห็นตรงหน้า -- เหี้ย ! ในตอนที่ร้านเปิดออกมาก็ได้มีมีดและหอกแสดงอยู่ในร้านซึ่งทำให้พวกเด็กๆตื่นเต้นซะจนน้ำลายไหลออกมา
“ ทุกคนเอาทุกอย่างที่มีออกมา รวมทั้งหนัง,สมุนไพร,ทรายคริสตัลและของแปลกๆอื่นๆที่พวกเธอไม่รู้จัก ตราบที่เธอมีของดีก็สามารถแลกมันไปได้ “ – ผู้จัดการร้านนั้นกระโดดออกมาและตะโกนผ่านลำโพงที่ห้อยตามรถ – “ คนที่อยากแลกหนังให้มาทางนี้ ! คนที่อยากแลกสมุนไพรให้มาทางนี้ ไปตรงกลาง ! คนที่อยากแลกทรายคริสตัลและของแปลกอื่นๆให้มาหาฉัน เร็วเข้า พวกเธอจะรออะไรกันอยู่ ? !”
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา หลายคนก็ตื่นเต้นขึ้นมา สาวๆต่างก็วิ่งเข้าไปในปราสาท ส่วนผู้ชายต่างก็วิ่งลงไปที่หุบเขา ในตอนที่เขาคิดถึงหนังหมาป่า จางเทีย ก็ตื้นตันขึ้นมานิดๆ เมื่อเห็นสินค้าที่ทีมการค้าพวกนี้เอามา จางเทีย เองก็เตรียมที่จะกลับไปเอาหนังที่ได้จากคนในองค์กรเพื่อเอามาแลกกับของจำเป็นอย่างอาหาร ยิ่งมีมากเท่าไหร่ยิ่งดี....
ก่อนที่เขาจะออกจากลานไป เขาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปยังอาวุธที่เปล่งแสงเหล่านั้น มีดและหอกที่วางเรียงแถวกันอยู่นั้นเตะตาจริงๆ จางเทีย เริ่มสงสัยเพราะทีมการค้านั้นไม่ค่อยเอาอาวุธมาขายที่นี่
……
“ ฉันไม่เห็นด้วย.. “ - ในตอนที่ลานปราสาทนั้นคึกคักก็ได้มีเสียงทะเลาะกันในห้องกรรมการ มิสกิลิ ที่ซึ่งลงโทษ จางเทีย นั้นกำลังมองอย่างโกรธไปที่พ่อค้าที่มีหนวดผอมๆอย่างกับไม้ไผ่ที่ซี่งสวมหมวกผ้าไหมที่อยู่ในห้องนั้น – “ เพราะคอห่าหญ้าและไขกระดูกหมาป่าทองนั้นหาไม่ได้ในหุบเขา ถ้าพวกเขาต้องการที่จะเก็บคอห่าหญ้ากับไขกระดูกหมาป่าทอง งั้นนักเรียนก็ต้องออกจากหุบเขาเพื่อเข้าไปลึกอีกน่ะสิแต่สถานที่นั้นไกลจากปราสาทและมีหมาป่าจำนวนมากที่นั่นซึ่งเป็นอันตรายอย่างมากสำหรับเด็กๆ ! “