spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 90: แชร์ของดี
ตั้งแต่ จางเทีย โดนหมาป่าโจมตีแล้ว พวกเด็กผู้ชายต่างก็เริ่มจัดการกับพื้นที่รอบๆปราสาท 5 กม. ผลก็คือเส้นทางระหว่างปราสาทและบ้านต้นไม้นั้นปลอดภัยมากขึ้นและไม่มีขนหมาป่าเลยแม้แต่เส้นเดียวให้เห็น สิ่งที่เกิดขึ้นกับ จางเทีย นั้นเตือนทุกคนถึงอันตราย ยังไงซะเหตุกาณณ์แบบนี้ก็สามารถเกิดขึ้นกับคนอื่นได้ ไม่มีเด็กคนไหนที่อยากจะเจอฝูงหมาป่านั่นคนเดียวในตอนที่กลับมาส่งสาวๆที่ปราสาท ดังนั้นแล้วพวกเขาจึงต้องพยายามอย่างมากในการเคลียร์เส้นทางของหมาป่าออกไป ระหว่างทำแบบนั้นพวกเขาได้พบกับหมาป่าที่อยู่ตัวเดียวหลายครั้งแต่พวกเขาก็ไม่เคยเจอหมาป่าอีก 4 ตัวที่เข้าโจมตี จางเทีย ในวันนั้น
ในตอนที่กลับมายังฐานต้นไม้โดยใช้เส้นทางทุ่งหญ้าตามปกติ จางเทีย อดคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับเขาในวันนั้นไม่ได้และสายตาอันดุร้ายที่หมาป่านั้นจ้องมาที่เขา ความเกลียดชังในสายตามันนั้นทำให้ จางเทีย รู้สึกว่าอาจจะต้องพบกับหมาป่าทั้งสี่อีกครั้ง
ตอนนี้มันก็บ่ายแล้วและมีแค่ แบกแดด ที่ทำหน้าที่เฝ้าที่ฐาน เมื่อกลับมาที่ฐานแล้ว จางเทีย ได้เห็น แบกแดด กำลังฝึกเหวี่ยงหอกอยู่ ในตอนที่ จางเทีย เข้ามาใกล้ แบกแดด ก็เห็นเขาแล้ว
“ ใครกัน ? “ – ด้วยเหงื่อที่ผุดออกมาทั่วตัว แบกแดด หันกลับมาพร้อมกับหอกในมือ
“ ขยันเข้าไว้ เด็กน้อย ! ฉันล่ะสงสัยจริงๆว่านายเอาฉันเป็นตัวกระตุ้นสินะ ? ! “ - จางเทีย เดินเข้ามาพร้อมกับยิ้ม
เมื่อเห็นหน้าของ จางเทีย แบกแดด ก็แปลกใจกับการกลับมาของเขาและนิ่งไปในทันที หน้าเขาเบี้ยวและได้ด่าออกมา – “ บัดซบ ! “ – ในเวลาเดียวกันก็ปล่อยหอกในมือทิ้งแล้วเดินเข้ามาหา จางเทีย แล้วกอดอีกฝ่ายไว้ – “ อย่าอวดดีให้มาก ฉันจะก้าวข้ามนายให้ได้ในเร็วๆนี้แหละ ! “
“ แบกแดด นายรู้มั้ย ? ฉันมีความลับที่ยิ่งใหญ่แต่ฉันไม่เคยบอกนาย ! “ - จางเทีย แสดงสีหน้าจริงจัง
เมื่อได้ยินคำพูดของ จางเทีย แบกแดด ก็ได้ถามขึ้นมา – “ ความลับอะไร ? “
“ ความลับคือ ...อันที่จริง ฉันน่ะคืออัจฉริยะ ... “ - ในตอนที่ จางเทีย ตอบกลับสีหน้าจริงจังก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้มกวนๆ ซึ่งทำให้ แบกแดด ล่ะอยากอัดเขาชะมัด - “ ในอดีต ฉันแค่ต้องการที่จะใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ทั่วไป ดังนั้นเพื่อที่จะไม่ให้นายรู้สึกแย่ ฉันเลยต้องควบคุมความสุดยอดของตัวเองไว้และให้มันแสดงพลังออกมาแค่ 5% หลังจากเหตุการณ์นี้ ฉันตัดสินใจที่จะปลดปล่อยความสามารถออกมาอย่างเต็มที่ซึ่งหมายความว่ามันคงเป็นไปไม่ได้ที่นายจะก้าวข้ามฉันได้ ฉันเสนอว่านายเลือกเป้าหมายใหม่ดีกว่านะ มันคงโชคร้ายหน่อยที่นายมาเลือกฉันเป็นเป้าหมาย ! “
“ อ๊ากกก ไอ้บ้านี่.. “ – เมื่อรู้ตัวว่าโดน จางเทีย หลอกเข้า แบกแดด ก็เอามือกุมคอ จางเทีย จนเกือบทำให้เขาสำลักออกมา...
……
ก็อย่างที่คาดไว้ เมื่อกลับมาที่ฐานแล้ว ในตอนที่ แบร์ลี่ และคนอื่นๆกลับมาเห็น จางเทีย พวกนั้นก็ตื่นเต้นอย่างมาก แม้ว่าจะไม่ได้อะไรมามากมายในวันนี้และไม่สามารถจับเหยื่อโตๆได้โดยใช้หลุมกับดักแต่พวกเขาก็ยังจับไก่ฟ้าสองตัวได้ อีกอย่างพวกเขาน่ะได้ปลาขนาดพอๆกับฝ่ามือมา 10 ตัวจากกับดักใกล้ๆแม่น้ำ เมื่อรวมกับผักป่าที่ จางเทีย เอามาแล้ว มื้อเย็นคืนนี้ถือว่าดีเลยทีเดียว
ตกเย็น จางเทีย บอกทุกคนว่าเขาชวนสาวคนหนึ่งมากินมื้อเย็นด้วย พวกนั้นต่างก็ผิวปากแซว จางเทีย ออกไปรับ แพนโดร่า และพาเธอกลับมาที่ฐาน เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เธอถูกเชิญมากินมื้อเย็น แพนโดร่า เลยเกร็งๆหน่อยแต่หลังจากที่เห็นพวกหื่นนี่หัวเราะและพูดขบขันกัน เธอก็เริ่มผ่อนคลายมากขึ้น
หลังจากกินเสร็จ จางเทีย ได้ชวน แพนโดร่า ไปฐานของเขา หลังจากนั้น จางเทีย, แบกแดด และ ชอร์วิน ต่างก็ไปส่ง แพนโดร่า ที่ปราสาทด้วยกัน เมื่อเห็นมุมปากของ แพนโดร่า ยกขึ้นมา จางเทีย ก็รู้ว่าทั้งคำเชิญและมื้อเย็นของเขานั้นเป็นไปได้ด้วยดี ดูเหมือนว่าการเชิญสาวๆมาคงไม่ใช่เรื่องยากแล้ว
ในตอนที่กลับมายังฐาน กองไฟที่อยู่ใต้ต้นไม้ซึ่งพวกหื่นคนอื่นๆต่างก็นั่งล้อมวงกันพูดคุยกันเรื่อง แพนโดร่า
“ แม้ว่าหน้าอกและรูปร่างของเธอจะยังไม่โตเต็มวัยแต่เธอก็มีหน้าที่สวย ไอ้หัวโต นี่มีรสนิยมผู้หญิงแปลกๆ ! “ – ลิซ พูดขึ้น
“ บางทีสเป็คนี้คงง่ายที่จะกระตุ้นความอยากของไอ้หัวโตที่อยากนอนกับเธอ ฉันได้ยินมาว่ามีผู้ชายวัยสามสิบหลายคนที่ชอบเด็กแบบนี้เพราะกล่อมง่าย ฮาฮาฮา.. “
“ แกไม่เห็นรึไงว่าเธอมีตาสีฟ้าคู่สวยเลยนะ ? ตามที่ฉันสังเกตดูแล้ว ผู้หญิงทุกคนที่มีตาสวยๆน่ะมักจะทำให้ผู้ชายประทับใจ... “ – ฮิสต้า พูดแบบลามกขึ้นมา
“ แม้แต่ไอ้หัวโตยังมีแฟนเลย เราต้องพยายามกันให้มากขึ้นแล้ว ฉันจำได้ว่ามีผู้หญิงสวยๆตั้งหลายคนในกลุ่มที่เราเชิญมาครั้งที่แล้ว เราลองดูอีกทีวันพรุ่งนี้ก็ได้..”
ในตอนที่มาถึงเรื่องสาวๆแล้ว พวกหื่นนี่มักจะทำตัวน่าขนลุก เมื่อเห็น จางเทีย และอีกสองคนกลับมา พวกนั้นก็เดินเข้ามาหาและบอกให้พวกเขามาคุยเรื่องนี้ด้วยกัน ด้วยการที่พวกตื๊อ จางเทีย เลยต้องบอกเรื่องที่เขารู้จัก แพนโดร่า มาได้ยังไง แม้ว่า จางเทีย จะบอกว่าเขาไม่ได้คิดอะไรกับ แพนโดร่า และชวนเธอมาในฐานะเพื่อนเพื่อเข้าทีมให้ผ่านการฝึกไปได้แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเขา พวกนี้ยังคงทำตาเยิ้มและส่งเสียงแซวอยู่ดี
“ แกไม่คิดอะไรกับเธอเพราะแกยังไม่ขลิบ นี่ยังไม่รวมว่าแกห้ามอยู่สองต่อสองกับผู้หญิงตามที่โดนห้าม ฮี่ฮี่..ถ้าไม่ใช่เพราะสองข้อนี้แล้ว แกคงเผยธาตุแท้ออกมาแล้ว ! “
“ ฉันรู้ว่านายคิดจะนอนกับเธอตอนที่กลับไปที่เมือง นั่นเป็นความคิดที่ดีเลยนะ นายคงคิดแบบนี้ เพราะเด็กน้อยนั่นไม่ได้ดูน่าดึงดูดรึสวยสุดยอดอะไร นายคงจะจีบเธอไปก่อน พอจีบติดนายจะได้ไม่ต้องกังวลว่าเธอจะโดนคนอื่นแย่งไป ! “
“ สองเดือนต่อมา แพนโดร่า ก็จะโตขึ้นอีก ถูกมั้ย ? “
“ เธอน่าจะเซ็กซี่มากกว่าเดิม ผู้หญิงทุกวันนี้น่ะโตเร็วและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าแต่ก่อน ! “
“ ตอนนี้หน้าอกของเธอน่ะเล็กจริงๆ ดังนั้นนายเลยคิดจะจีบเธอก่อน หลังจากนั้นนายก็ไม่ต้องกังวลเรื่องนอนกับเธออีก...”
“ ฮี่..ฮี่.... “
“ พวกห่านี่ ! “ - จางเทีย ด่าในใจ เพื่อปกป้องวิญญาณอันบริสุทธิ์ของตัวเองไว้ จางเทีย ได้ตัดสินใจที่จะเปลี่ยนเรื่อง ตอนนั้นเขาได้ดึงเอาอาวุธสุดยอดออกมา
จางเทีย หยิบเอาหนังสือทักษะหมัดเหล็กโลหิตออกมาและเริ่มอ่านข้างๆกองไฟในตอนที่ทุกคนต่างก็หัวเราะและพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
“ ไอ้หัวโต แกกำลังอ่านอะไร ? “ - ชอร์วิน ที่ชอบการอ่านนั้นเป็นคนแรกที่ถาม
“ ไม่มีอะไรพิเศษหรอก ก็แค่หนังสือลึกลับเกี่ยวกับทักษะหมัดเหล็กโลหิตที่ส่งต่อจากคนชั้นสูงของอาณาจักรนอแมน ! “ - จางเทีย อธิบายอย่างไม่ใส่ใจราวกับว่ามันเป็นหนังสือเก่าราคาถูกที่หาได้ตามสถานี
“ โอ้ ! “ – ก็อย่างเช่นเคย ชอร์วิน ตอบรับแบบปกติแต่วินาทีต่อมาตาของเขาได้เบิกกว้างและปากก็อ้าค้างมองมายังหนังสือในมือของ จางเทีย
จางเทีย ยังคงอื่นต่อไป มีเสียงกลืนน้ำลายของทุกคนดังขึ้นมาแทนที่เสียงของทุกอย่าง ทุกคนต่างก็มองมายังหนังสือในมือของ จางเทีย และทำตาเบิกกว้าง
หลับจากนั้นสักพักก็มีแต่เสียงเปิดหน้าหนังสือ ไม่มีใครคุยกันอีกต่อไป ตอนนั้น จางเทีย แปลกใจและเงยหน้าขึ้นมาดูเพื่อนตัวเองที่มีสีหน้าแปลกๆและพูดขึ้น – “ เฮ้ย ทำไมไม่คุยกันต่อ ? คุยกันเลย ตามสบาย ! “
“ โฮ่โฮ่โฮ่... “- แบกแดด ฝืนยิ้มออกมาและยังคงมองไปที่หนังสือในมือ จางเทีย – “ นาย...ทักษะลึกลับอะไรที่นายอ่านอยู่ ? “
“ โอ้ นายอยากรู้เรื่องนี้งั้นเหรอ ... “ - จางเทีย พลิกหนังสือแล้วเอาปกให้พวกนั้นดูเผยให้เห็นสี่คำ ‘ หมัดเหล็กโลหิต ‘ ทันใดนั้นตาของทุกคนก็เริ่มแดงกล่ำ - “ ก็ไม่ได้พิเศษอะไร ก็แค่ทักษะหมัดเหล็กโลหิต แม้ว่าจะเป็นความรู้ลึกลับในบรรดาชนชั้นสูงของอาณาจักรนอแมนมาก่อน แต่มันก็เผยแพร่กันในกองทัพของนอแมนแล้วตั้งแต่ก่อนสงครามศักดิ์สิทธิ์ครั้งที่สองนู่น มันก็ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรเพราะมีหลายคนสามารถใช้มันได้ มันเป็นแค่หนังสือธรรมดาที่กระดาษเคลือบด้วยเงินและตัวหนังสือก็เขียนด้วยมือเอา.. “
จางเทีย ทำท่าไม่รู้เรื่องต่อแต่ด้วยหนังสือในมือนั้นทำให้คำพูดของเขาน่าเชื่อถือ
“ นายไปได้มันมาจากไหน ? “ - แม้แต่ ลิซ เองก็เบิกตากว้างพร้อมกับมองมาที่ จางเทีย ด้วยความทึ่ง ไม่ว่ามันจะธรรมดาแค่ไหนแต่มันก็ยังเป็นความรู้ลึกลับ อะไรที่เกี่ยวกับความลึกลับน่ะถือว่ามีค่ามหาศาลกับคนธรรมดา ในบรรดาเด็กโรงเรียนแห่งที่เจ็ดที่มาฝึกนี้ในเมืองแบล็คฮฮต มันยากที่จะหาใครที่ธรรมดายิ่งกว่าคนในองค์กรพี่น้องทะยานฝัน
“ ฉันบุคลิกดีน่ะนะก็ช่วยไม่ได้ .. “ - จางเทีย แบมืออก – “ กัปตันเคอร์ลิน บังคับให้ฉันรับมันไว้ เขาบอกว่าเขาได้มันมาจากสนามรบและถึงกับบอกด้วยว่าฉันมีความกล้าหาญดี เขาคิดว่าฉันจะเป็นคนที่แข็งแกร่งและโด่งดังได้ด้วยทักษะหมัดนี้ ดังนั้นเขาเลยบังคับให้ฉันรับมันมา “
เอาจริงๆแล้ว จางเทีย น่ะพูดไต้ตรงจุดประสงค์ของ กัปตันเคอร์ลิน
จางเทีย มองไปรอบๆและพบว่ามีแต่สายตาอิจฉาและเสียงกลืนน้ำลาย
“ เอิ่ม...กัปตันเคอร์ลิน ได้บอกมั้ยว่า.. “ - ไอ้อ้วน แบร์ลี่ ลังเลและเริ่มถามออกมาทำให้หัวใจทุกคนเต้นรัว
“ เขาบอกว่าฉันเป็นเจ้าของหนังสือนี่ ฉันให้คนอื่นยืมแต่พวกเขาต้องไม่เผยแพร่มัน ไม่ว่ายังไงทักษะนี่ก็เป็นความรู้ลึกลับในบรรดาชนชั้นสูงของอาณาจักรนอแมน เจ้าของของมันต้องทำตัวไม่ให้สะดุดตา ! ดูฉันนี่ ไม่ใช่ว่าฉันดูไม่สะดุดตาหรอกเหรอ ? ฉันยังไม่เอามันไปโชว์ต่อหน้าคนอื่นเลยด้วยซ้ำ.. “
ไม่สะดุดตา ? ไม่เอาไปโชว์ต่อหน้าคนอื่น ? แม้ว่าพวกนั้นจะคิดว่าคำพูดเขาไร้สาระแต่พวกเขาต่างก็รีบพยักหน้า – “ ใช่ๆ..ถูกต้องเลย.. “
ดั๊ก ที่นั่งข้างๆ จางเทีย กรอกตามาและเตะก้น ฮิสต้า ให้ไปไกลๆ เขาเอามือกอดคอ จางเทีย เอาไว้พร้อมกับเอาหน้าเข้ามาใกล้ๆและยิ้มออกมา – “ ไอ้หัวโต ตอนนายนอนพักเมื่อไม่กี่วันก่อนน่ะ ฉันมักจะอยู่ข้างๆนายเสมอ ฉันน่ะทำไปเพราะเป็นห่วงนาย ตอนนั้นฉันคอยเปิดตาดูยุงและฆ่ายุงเป็นร้อยๆตัวทุกคืน ก็เพื่อนาย ดูสิ ! นายเห็นรอยยุงกัดที่แขนฉันมั้ย... “ – ตอนที่เขาพูดก็ยื่นแขนออกมาให้ดูรอยแดงแต่ใครจะรู้ว่ามันเป็นรอยยุงกัดจริงรึเปล่า
หลังจากที่มองไปที่ ดั๊ก จางเทีย ก็ยิ้มออกมา ด้วยสายตาอันจริงใจของ ดั๊ก เขาได้ทิ้งหนังสือลงบนมือของ ดั๊ก - “ ดี ขอบคุณที่ดูแลฉัน นายมีเวลาหนึ่งชั่วโมงที่จะอ่านมัน ! “
“ จริงเหรอ ? “ - ดั๊ก แปลกใจอย่างมากจนตะโกนออกมาอย่างดัง
“ เริ่มตั้งแต่ตอนนี้ ! “ - จางเทีย เตือนขึ้นมา
เมื่อได้ยินคำพูดของ จางเทีย ดั๊ก ก็รีบเปิดหนังสือดูทันที ข้างๆเขามี ฮิสต้า กับ แบกแดด ที่ซึ่งยื่นคอมาดูตัวหนังสือพวกนั้นแต่พวกเขาก็รู้สึกว่าตัวเองเสียหน้าที่ต้องเข้าไปใกล้ ดั๊ก พวกเขาไม่คิดจะไปแอบดูความรู้ลึกลับของคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาติ พกวเขาทำได้แค่ชื่นชม ดั๊ก เท่านั้น
“ อ่า บรรทัดแรกของหน้าแรกหมายความว่าไง ? “ - ดั๊ก เกาหัวตัวเอง
“ มันเขียนเป็นภาษาจีนเป็นคำแนะนำของทักษะนี้ มันอ่านว่า ‘ พลังต่อสู้ก็คือพลัง ในตอนที่พลังขึ้นมาอยู่จุดสูงสุดแล้ว มันจะขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดของกฎจักรวลาล ! ‘ “ - จางเทีย แปลความหมายโดยทั่วๆไปของบรรทัดนั้นมา
ไม่นานหลังจาก ดั๊ก แล้ว คนที่สองที่เข้ามาก็คือ ลิซ - “ ไอ้หัวโต ปลาที่นายกินตอนนายพักฟื้นน่ะฉันจับมาเอง นายจำได้มั้ย ? ฉันเอาซุปปลาไปส่งนายสองรอบแน่ะ ! “
“ ดี นายอ่านได้ 1 ชม.หลังจาก ดั๊ก ! “
เมื่อได้ยินการตอบรับของ จางเทีย ลิซ ก็หัวเราะออกมา
แบร์ลี่ โดดเข้ามาทันทีและมองมาที่ จางเทีย ด้วยดวงตาเป็นประกาย – “ นายจำได้มั้ย ? มิสแอนนา... “
“ ดี แบร์ลี่ อ่านได้หนึ่งชั่วโมงหลังจาก ลิซ ! “
เมื่อได้ยินคำพูดของ จางเทีย แบร์ลี่ เองก็หัวเราะออกมาเช่นกัน
แบกแดด, ชอร์วิน และฮิสต้า นั้นรีบเกาหัวตัวเองพยายามคิดเรื่องที่จะเอาชนะใจอีกฝ่ายให้ได้
“ ฉันเอาหนังสือที่ มิสไดน่า สอนเราให้นายยืม ! “ - ชอร์วิน มาด้วยเหตุผลนี้
“ ดี ชอร์วิน อ่านได้หนึ่งชั่วโมงหลังจาก แบร์ลี่ ! “
“ เพื่อน นายมาหาฉันได้ถ้ามีปัญหาเรื่องผู้หญิง ไม่ว่านายจะชอบใคร ฉันจะช่วยนายจีบเธอ ! “ - ฮิสต้า แสดงธรรมชาติของตัวเองออกมาและตบไหล่ จางเทีย พร้อมกับพูด
“ ดี นายอ่านได้หลังจาก ชอร์วิน ! “
เมื่อตระหนักว่าสมาชิกคนอื่นต่างก็มีเหตุผลของตัวเอง แบกแดด ได้คิดสักพักก่อนจะทิ้งความคิดที่ทำท่าจะเป็นเจ้ากังฟู เขาฝืนยิ้มออกมาและเดินเข้าไปใกล้ – “ เอิ่ม...ไอ้หัวโต เพราะนายยังไม่ฟื้นฟูตัวเองเต็มที่ มันคงเป็นเกียรติมากที่ฉันจะเข้ากะแทนนาย ! “
“ หืม นั่นยังไม่ดี ถ้าคนอื่นรู้เรื่องนี่จะเอามันไปนินทา เราเป็นพี่น้องกัน ถ้าคนอื่นมองว่าฉันรังแกนาย งั้นก็คงไม่ดีเท่าไหร่ “ - จางเทีย ทำท่าคิดแบบสลดๆ
“ ใครกล้านินทาเรื่องนี้จะทำลายความสัมพันธ์พี่น้องของเราและแน่นอนฉันจะไม่ให้มันอยู่เป็นสุขแน่ ! “ – แบกแดด พูดพร้อมกับกำหมัด – “ ถ้าฉันได้ยินใครพูดแบบนี้ ฉันสาบานว่าจะอัดมันจนขี้แตก ! “ – หลังจากที่พูดจบเขาก็กวาดตาไปมองคนที่เหลือและถามด้วยน้ำเสียงน่ากลัว – “ เพราะไอ้หัวโตยังไม่หายดี พวกนายจะยังนินทาเรื่องที่ฉันเข้ากะแทนมั้ย ? “
คนอื่นๆต่างก็รีบส่ายหน้า
“ ดี แบกแดด นายอ่านต่อจาก ลิซ ได้ ! “
หลังจากถอนหายใจอยู่นาน แบกแดด ก็ได้ยิ้มออกมา
ทุกคนมองมาที่ ดั๊ก ภายใต้ไฟที่ลุกไหม้อยู่นั้น ดั๊ก ดูเหมือนจะตกในภวังค์ของหนังสือ หน้าของเขานั้นแสดงสีหน้ามากมายออกมา สีหน้าของเขาได้เปลี่ยนไปจากผ่อนคลายกลายมาเป็นจริงจัง บางครั้งเขาก็ชูมือขึ้นบนฟ้าทำให้คนอื่นๆสงสัยเกี่ยวกับเนื้อหาภายในหนังสือ
ตอนนี้ จางเทีย ได้แอบหัวเราะในใจ เขาคิดจะแบ่งหนังสือให้พวกนี้อ่านอยู่แล้วแต่เขารู้ว่าคนพวกนี้คงไม่รู้คุณค่าของมันถ้าได้มันมาง่ายๆ นี่คือเรื่องที่ ดอนเดอร์ สอนเขามา จากนี่ จางเทีย คิดจะกระตุ้นพวกนี้ให้ใช้ความพยายามเพื่อที่จะได้อ่านหนังสือสัก 1 ชม. เขาตระหนักว่าใช้วิธีนี้มันได้ผลมากกว่าโยนหนังสือให้พวกนี้อ่านเฉยๆ
เมื่อคิดถึงคำสั่งที่เขาจะสั่งพวกนี้ได้ จางเทีย ก็ยินดีอย่างมาก...
จากนี้ในที่สุดเขาก็จะมีเวลาอันแสนมีความสุขกับการพัฒนาพลังต่อสู้ของตัวเอง เพราะจางเทีย ไม่ได้เข้าไปใน Castle of Black Iron มากว่าหนึ่งอาทิตย์ Leakless Fruit ผลที่สองนั้นต้องสุกแล้วแน่ๆ !
มันถือว่าเป็นเวลาที่เหมาะที่จะเข้าไป Castle of Black Iron อีกครั้ง เขาสงสัยว่าจะมีบางอย่างน่าแปลกใจที่ต้นไม้เล็กๆนั่นรึเปล่า..
ในตอนที่ จางเทีย คิดแบบนั้น ภาพของ เกรซ และลูกน้องก็โผล่ขึ้นมาในความคิด ตามมาด้วยภาพของ กัปตันเคอร์ลิน จางเทีย ไม่รู้ว่าทำไมแต่เขาจำหน้าของ กัปตันเคอร์ลิน ในวันนั้นได้ เขาเห็นอาการาสิ้นหวัง....เป็นไปได้มั้ยว่าเป็นแค่จินตนาการของเขา ? รึ...มันมีเรื่องที่ไอ้โหดนั้นกังวลอยู่ ?