spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

บทที่ 323: เพิ่มระดับเกราะ ศิลปะการปรับแต่งร่างกาย

อย่างไรก็ตามเจี้ยงเฉินไม่ได้กลัวสถานการณ์เหล่านี้ ตรงกันข้าม เขารู้สึกตื่นเต้นมาก ก่อนหน้านี้เขากังวลว่าเหล่าสาวกของนิกายจะไร้ความสามารถและจะไม่แสดงความท้าทายใด ๆ ทั้งสิ้น

ดูเหมือนว่าเขาจะคิดเรื่องนี้มากเกินไป

เนื่องจากมีสาวกระดับอาณาจักรปราณจิตวิญญาณระดับที่ 4 อยู่ในพื้นที่ส่วนลึกลับ ในพื้นที่ส่วนที่สูงกว่าจึงต้องมีอัจฉริยะอย่างแท้จริงที่มีพรสวรรค์ที่น่าตกใจอย่างแน่นอน

เลือดของเจี้ยงเฉินพุ่งพล่านเล็กน้อยเมื่อคิดถึงความท้าทายข้างหน้า

เขาตั้งหน้าตั้งตารอความรู้สึกแบบนี้ นี่เป็นประสบการณ์ที่เขาไม่เคยมีในชีวิตที่ผ่านมา มันเป็นสิ่งที่ไม่เหมือนกับการฝึกฝน และถึงแม้เขาจะอ่านทฤษฎีต่าง ๆ มามากและมีความรู้กว้างขวาง เขาก็ยังคงเป็นเพียงคนเดินเตร่อยู่บนเส้นทางของเต๋าศิลปะการต่อสู้

"ข้าเพิ่งใช้รัศมีแสงของตัวเองเพื่อปราบปรามศิษย์พี่เฉิง และใช้ทักษะบางอย่างในการควบคุมสติของเขา ดูเหมือนว่าผลกระทบค่อนข้างใช้ได้ ศิษย์พี่เฉิงสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองและไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหวและคำพูดของเขาได้ นั่นหมายความว่าทักษะนี้ไม่ได้หมายถึงการปราบปรามพลังของอีกฝ่าย แต่ก็สามารถควบคุมสติของฝ่ายตรงข้ามได้เช่นกัน ดูเหมือนว่าข้าต้องฝึกทักษะเกี่ยวกับปัญญาและหัวใจอย่างจริงจัง"

จนถึงตอนนี้เจี้ยงเฉินไม่เคยได้รับการฝึกฝนในทักษะใด ๆ ที่สามารถควบคุมจิตใจได้ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการฝึกฝนทักษะหัวใจดั่งศิลาและทักษะญาณทิพย์ มันก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เขาจะได้เจอกับสนามนี้

เขาเพิ่งเริ่มต้นในสิ่งที่เขาไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อนและรู้สึกประหลาดใจกับผลที่ได้รับ

แน่นอนว่านี่ชี้ให้เห็นทิศทางทั่วไปสำหรับเขาเท่านั้น เขาไม่มีเวลาที่จะฝึกทักษะเฉพาะแบบนี้ในระหว่างการคัดเลือก

เขาได้รับประสบการณ์มากมายจากการทดสอบ 5 ครั้งในการคัดเลือกรอบแรก

ทักษะของไฟและน้ำก้าวหน้าขึ้นอย่างรวดเร็วด้วยการช่วยเหลือของดอกบัวในระหว่างการทดสอบ

อย่างไรก็ตามสำหรับอัจฉริยะทั้ง 5 องค์ประกอบเช่นเจี้ยงเฉิน,ถึงแม้ว่าการฝึกฝนทั้งในด้านไฟและน้ำทำให้เขาเหนือผู้ฝึกฝนรายอื่น ๆ แต่มันก็ยังไม่สมดุลกันกับเขา

โอสถห้ามังกรเปิดสวรรค์ได้สร้างมหาสมุทรวิญญาณของเขา และขยายขอบเขตพลังของเจี้ยงเฉินในห้าองค์ประกอบที่ขาดหายไป

โดยปกติแล้วจะมีเพียงคนที่เกิดมาพร้อมกับร่างฟีนิกซ์สวรรค์โดยธรรมชาติเท่านั้นที่จะสามารถฝึกทั้งห้าองค์ประกอบพร้อม ๆ กันได้

แม้ว่าข้อได้เปรียบที่ได้รับจากโอสถห้ามังกรเปิดสวรรค์ไม่ได้ดีกว่าร่างฟีนิกซ์สวรรค์โดยธรรมชาติ แต่ก็ยังคงเทียบเท่ากับการปั้นเขาขึ้นมาอีกครั้ง

แม้ว่าความคืบหน้าของเขาในสามองค์ประกอบอื่น ๆ ค่อนข้างช้า แต่ก็ไม่ส่งผลต่อความแข็งแรงและความสามารถในการต่อสู้ของเขา

อย่างไรก็ตาม หากความพยายามของเขามีผลในทุกองค์ประกอบทั้งห้าแล้ว ทั้งความแข็งแรงและความสามารถในการสู้รบของเขาจะพัฒนามากขึ้นเท่านั้น

"คำพูดมักจะดูสวยงามเต็มไปด้วยอุดมคติที่สูงส่ง แต่ความเป็นจริงมันมีน้อยมาก แม้ว่าข้าจะได้รับประโยชน์จากการโอสถห้ามังกรเปิดสวรรค์ในการสร้างมหาสมุทรวิญญาณ ข้าไม่มีโชคในการพัฒนาทั้งห้าองค์ประกอบในเวลาเดียวกันเนื่องจากการขาดทรัพยากร ดอกบัวพูดกับน้ำและไฟในเส้นชีพจรของข้า ในขณะที่ภูเขาแม่เหล็กสีทองเป็นขุมสมบัติสำหรับโลหะในเส้นชีพจรของข้า"

เจี้ยงเฉินเลือกใช้ภูเขาแม่เหล็กสีทองในที่สุด

มันเป็นหลุมฝังสมบัติอันมหาศาลเพราะมันสามารถสร้างสนามพลังป้องกันที่สามารถลดความเร็วของฝ่ายตรงข้าม ยับยั้งฝ่ายตรงข้าม และปกป้องตัวเองได้ มันสามารถกลืนทุกอย่างเมื่อมันกลายเป็นพายุแม่เหล็ก และสามารถหมุนทุกอย่างไปตามเส้นทางของมัน

พลังจิตวิญญาณของโลหะสามารถช่วยเจี้ยงเฉินรวมหลอดเลือดวิญญาณของโลหะได้ ถ้าเขาฝึกฝนทักษะการกลั่นกรองร่างกายและสร้างร่างที่ทำลายไม่ได้ มันก็สามารถทำให้ร่างกายของเขาแข็งแรงพอ ๆ กับทั้งโลหะและหิน ไม่มีอะไรทำลายได้แม้แต่มีดและหอก

ถ้าเขาสามารถควบคุมภูเขาแม่เหล็กสีทองได้อย่างสมบูรณ์แล้ว เขาก็จะสามารถเรียกตัวสัตว์ประหลาดสีทองที่มีรูปร่างเป็นอาวุธได้ตลอดเวลา พวกมันไม่ได้มีพลังมากมายหากต่อสู้ตัวต่อตัว แต่พลังการทำลายล้างของพวกมันค่อนข้างแข็งแกร่งและน่าทึ่ง

ดวงตาสีทองที่ชั่วร้ายนั้นยิ่งน่ากลัวมากขึ้น เนื่องจากอาจทำให้คนที่จ้องมองมันกลายเป็นหินได้อย่างรวดเร็ว กลายเป็นประติมากรรมสีทอง

แน่นอน สิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือการปลุกจ้าวภูเขาแห่งตราประทับทองคำให้ตื่นขึ้นมา ถ้าเขาสามารถควบคุมภูเขาได้อย่างสมบูรณ์ และปลุกจ้าวภูเขาให้ตื่นขึ้นมาอย่างเต็มที่ ความแข็งแกร่งของการสู้รบก็จะยิ่งเกินกว่าจินตนาการของเขาเสียอีก

เขาพบกับจ้าวภูเขาแห่งตราประทับทองคำซึ่งมีเพียงเศษเสี้ยวของพลังที่มีอยู่และใช้มันเพียงหนึ่งในสิบส่วน ในการโจมตีเจี้ยงเฉิน แต่เขาก็ยังคงรู้สึกว่าการป้องกันตัวเองในช่วงที่ต้องรับพลังของมันเป็นเรื่องยากมาก

ถ้าจ้าวภูเขาแห่งตราประทับทองคำตอบโต้เต็มกำลัง เจี้ยงเฉินเชื่ออย่างแรงกล้าว่าแม้บรรพบุรุษทั้งสี่จะร่วมมือกันตอบโต้ ก็คงเป็นการยากที่จะสู้รบกับมัน

แน่นอนว่าจ้าวภูเขาแห่งตราประทับทองคำระดับสูงสุดไม่ นั่นเป็นแค่ฝันกลางวันก่อนที่เขาจะเป็นเจ้าของภูเขาอย่างสมบูรณ์

เจียงเฉินยังไม่ลืมว่ายังมีจักจั่นสายฟ้าเมฆาและต้นสายฟ้าเมฆาที่เขาได้มาจากชั้นเก้าของภูเขา

ไม่ว่าจะเป็นสายเลือดของตัวจักจั่นหรือต้นไม้ มันทั้งสองสมบัติที่ดี

นอกจากนี้ เจี้ยงเฉินยังได้รับสมบัติล้ำค่าจากหุบเขาภินทนาการอีกด้วย

หัวใจของราชานกกาเหว่าไฟและนกกาเหว่าตัวอื่น ๆ เป็นของสะสมที่มีค่าทั้งหมด ขนหางยาวของราชานกกาเหว่าไฟยังเป็นวัสดุสำคัญในการปรับแต่งเป็นอาวุธ

กิ้งก่าเพลิงเกล็ดมังกรเป็นขุมทรัพย์ที่ล้ำค่ากว่า แม้ว่าฝูงหนูเขี้ยวทองกินเนื้อและเลือดไปหมดแล้ว เกร็ดของกิ้งก่าเพลิงก็มีอำนาจในการป้องกันตัวอย่างน่าทึ่ง กระดูกของมันแข็งมากจนแม้แต่ฝูงหนูก็ไม่สามารถแทะเล็มได้ เห็นได้ชัดว่ามันมีพลังมากเพียงใด และมียังสำคัญมากในการหลอมเป็นอาวุธ

เจี้ยงเฉินหยิบเกล็ดออกมา 2 ชิ้น และถือมันไว้ เกล็ดทั้งสองรวมกันแทบจะไม่สามารถครอบคลุมครึ่งบนของร่างกายผู้ใหญ่ได้

ขนาดมหึมาของกิ้งก่าเพลิงก็หมายความว่ามันมีประมาณ 200 เกล็ดบนร่างกายของมัน

เจี้ยงเฉินยังมีเกราะบนร่างกายของเขาอยู่ในขณะนี้ มันเป็นชุดเกราะเบา ๆ ทำมาจากเส้นใยไหมนภาที่องค์หญิงโกวยู่วมอบให้เขาขณะที่พวกเขาอยู่ในราชอาณาจักรตะวันออก

ชุดเกราะนี้มีประโยชน์มากในช่วงที่เขาอยู่ในระดับผู้เชี่ยวชาญฉี แต่ตอนนี้ที่เขาเข้าไปในอาณาจักรปราณจิตวิญญาณ ผลการป้องกันของมันจึงไม่มากนัก

"เกราะที่ดีเป็นเหมือนอีกชีวิตพิเศษในช่วงเวลารบอันโหดร้าย ถ้าข้าไม่ได้ใช้เกล็ดกิ้งก่าเหล่านี้ให้มีประโยชน์มากที่สุด มันก็คงจะเป็นของเสียที่ไร้ค่า"

เจียงเฉินจึงตัดสินใจที่จะดัดแปลงชุดเกราะอ่อนไหมนภา เขาถอดมันออกเป็นส่วน ๆ และผสมมันรวมเข้ากันกับเกล็ดกิ้งก่าเพลิง 2 ชิ้น

เกล็ดทั้งสองชิ้นจะเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันของเกราะได้อย่างน้อยสิบเท่า

กิ้งก่าเพลิงเกล็ดมังกรสามารถป้องการโจมตีของนกกาเหว่าไฟได้ในเวลาที่พลังของมันลดลงเหลือเพียงสองในสิบส่วน

แน่นอนว่าเกล็ดแสดงถึงความสามารถในการป้องกันที่แข็งแกร่งได้เมื่อมันห่อหุ้มอยู่บนตัวกิ้งก่าเพลิงร่วมกับพลังวิญญาณของมัน

วิธีที่ชาญฉลาดของเจี้ยงเฉินมีความซับซ้อนมากพอสมควร เขาคงจะสามารถใช้หนึ่งในสามของความสามารถในการป้องกันดั้งเดิมของกิ้งก่าเพลิงได้หากเขาหลอมเกล็ดตอนนี้

อย่างไรก็ตามหนึ่งในสามของความสามารถเดิมของเกล็ดเหล่านั้นก็น่าจะเหนือชั้นพอควร

ในวันหนึ่ง ถ้าเขาสามารถกลั่นหัวใจของกิ้งก่าเพลิงได้แล้ว เขาจะสามารถปรับใช้ความสามารถในการป้องกันของเกล็ดได้อย่างเต็มที่

อย่างไรก็ตามเจี้ยงเฉินรู้ว่ามันจะไม่ง่ายนักที่จะกลั่นหัวใจของสัตว์วิญญาณระดับเซียน

เขาไม่กล้าคิดเรื่องนี้ก่อนที่การฝึกฝนบ่มเพาะของเขาจะเข้าสู่อาณาจักรนภา

อย่างไรก็ตามการผสมผสานเกล็ด 2 ชิ้นเข้ากับเกราะอ่อนของไหมนภาไม่ได้เป็นเรื่องยากนักกับที่คนมีประสบการณ์เช่นเจี้ยงเฉิน

เขาใช้เวลา 2 ชั่วยามเต็มในการผสมผสานเกล็ด 2 ชิ้นลงในเกราะอ่อน เมื่อเขาทำเสร็จ ชุดเกราะอ่อนก็ดูเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากด้านนอก

ความแตกต่างที่มองเห็นได้เพียงอย่างเดียวก็คือมันหนักขึ้นเล็กน้อย ไม่มีความแตกต่างด้านนอกของมัน

อย่างไรก็ตามชุดเกราะส่องแสงด้วยพลังงานวิญญาณในตอนนี้ ทำให้เกิดความรู้สึกว่ามันไม่ใช่วัตถุธรรมดา

"คำพูดที่ว่า" คนที่เชี่ยวชาญในด้านการเมืองนั้นยากจน และคนที่เชี่ยวชาญในด้านเต๋าศิลปะการต่อสู้นั้นร่ำรวย " ช่างเป็นเรื่องจริง แม้แต่อัจฉริยะนิกาย ไม่พูดถึงสาวกสามัญ ก็คงยากที่จะหาอะไรบางอย่างเช่นเกราะอ่อนนี้เพื่อที่จะใช้งานสำหรับตัวเอง เส้นทางของเต๋าศิลปะการต่อสู้พัวพันกันอย่างลงตัวทั้งเงินและทรัพยากร"

เจี้ยงเฉินเกิดมาในราชอาณาจักรชั้นสามและไม่มีเงินหรือทรัพยากร เขามาถึงจุดนี้ได้อย่างสมบูรณ์เนื่องจากความทรงจำในชีวิตก่อนหน้าของเขา และความพยายามที่ไม่รู้จักจบที่เขาทำในชีวิตนี้

ตัวอย่างเช่น การใช้เกราะที่ทำจากกิ้งก่าเพลิงเกล็ดมังกร ถ้าไม่ใช่เพราะการกระทำที่เด็ดขาดของเขาในการพัฒนายุทธวิธีการรบ เขาอาจจะไม่ได้รับผลประโยชน์ใด ๆ ในตอนท้าย

"ด้วยการเพิ่มระดับของชุดเกราะนี้ ข้ารู้สึกว่าผู้ฝึกฝนในอาณาจักรปราณจิตวิญญาณปฐพีคงทำให้ข้าบาดเจ็บไม่ได้ง่าย ๆ แน่นอนว่าไม่มีอะไรแน่นอนในโลกนี้ การโจมตีที่แข็งแกร่งก็เป็นอีกเรื่อง มันจะเป็นไปไม่ได้สำหรับการโจมตีของผู้ฝึกฝนอาณาจักรปราณจิตวิญญาณนภาด้วยไฟหรือน้ำที่จะทำให้ข้าบาดเจ็บได้ "

โดยธรรมชาติกิ้งก่าเพลิงมีคุณสมบัติเด่นด้านธาตุไฟและมีภูมิคุ้มกันล้ำเลิศเกี่ยวกับไฟ การโจมตีของน้ำจะลดลงอย่างมากภายใต้การป้องกันของเกล็ด

เจี้ยงเฉินเริ่มนั่งสมาธิหลังจากเสร็จสิ้นการปรับเปลี่ยนชุดเกราะอ่อนของเขาโดยการค้นหาความทรงจำในอดีตของชีวิตที่ผ่านมา เขาต้องการหาทักษะการปรับแต่งร่างกาย

มีทักษะหลายอย่างเช่นนี้ แต่เขาต้องเลือกทักษะที่เหมาะสมกับเขาอย่างระมัดระวัง

"นักรบผู้เข้าร่วมประชุมกับพระเจ้า การเปลี่ยนแปลงเก้ารูปแบบ? ศิลปะนี้ต้องใช้สาระสำคัญของโลหะพร้อมกับพลังแห่งไฟและน้ำเพื่อปรับโครงสร้างที่ไม่สามารถทำลายได้ นี่เป็นทักษะที่ข้าตามหา! "

ทักษะ"การเปลี่ยนแปลงเก้ารูปแบบของปีศาจและเทพเจ้า" ยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อ "เก้ารูปแบบของนักรบผู้เข้าร่วมประชุมกับพระเจ้า"

ทักษะนี้ทำให้ดวงตาของเขาสว่างขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนก่อนหน้าเขาใช้ศิลปะนี้เพื่อปรับแต่งร่างกายของพวกเขาจากร่างมนุษย์ธรรมดาไปสู่ตำนานอันอมตะชั่วกัลป์

เป็นเพราะเหตุนี้มีการสร้างมรดกและรูปแบบต่าง ๆ ของทักษะนี้นับไม่ถ้วน

ทักษะ "การเปลี่ยนแปลงเก้ารูปแบบของปีศาจและพระเจ้า" มีทั้งหมด 9 ขั้นตอน 5 ขั้นตอนแรกคือการปรับแต่งผิว, เนื้อ, เลือด, เส้นเอ็นและกระดูก, อวัยวะทั้งห้า, และต้นกำเนิดที่แท้จริง 4 ขั้นตอนสุดท้ายไปไกลกว่าร่างกายของคนคนหนึ่งและเริ่มเปลี่ยนไปสู่รูปแบบต่าง ๆ ของปีศาจและเทพเจ้า ไปสู่ความลึกซึ้งที่หยั่งไม่ถึง

ขั้นตอนแรก 5 ขั้นตอนง่ายมากเป็นเพียงแค่การวางรากฐานและเพื่อสร้างร่างกายที่ทำลายไม่ได้ ขั้นตอนสุดท้าย 4 ขั้นตอนของศิลปะขั้นสูงคือสิ่งที่เขาไม่สามารถจินตนาการได้ในปัจจุบัน

เจี้ยงเฉินรู้ดีว่าถ้าเขาสามารถวางฐานรากได้อย่างมั่นคง เขาจะอยู่ยงคงกระพันในอาณาจักรปราณจิตวิญญาณ

แม้ว่าร่างกายของเขาจะเข้าสู่อาณาจักรต้นกำเนิด แต่ร่างที่ทำลายไม่ได้ของเขาจะทำให้เขามองไม่เห็นเมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ในระดับของเขา ถ้าเขาสามารถแสดงการเปลี่ยนแปลงของปีศาจและเทพเจ้า จะเป็นที่น่าตื่นตาตื่นใจอย่างสิ้นเชิง เขาสามารถเหยียบย่ำฝ่ายตรงข้ามในระดับเดียวกันได้อย่าง่ายดาย และแม้กระทั่งในระดับที่สูงกว่า

"นี่คือสิ่งที่ข้าต้องใช้ การเปลี่ยนแปลงเก้ารูปแบบของปีศาจและเทพเจ้า! ข้ามีหัวใจของโลหะที่ไม่มีที่สิ้นสุดจากภูเขาแม่เหล็กสีทอง และมีข้อได้เปรียบที่ไม่มีใครเสมอเหมือนเกี่ยวกับธาตุไฟและน้ำจากความช่วยเหลือของดอกบัว  เกือบจะเหมือนกับว่าศิลปะนี้เหมาะสำหรับข้า "

เจี้ยงเฉินหยุดการค้นหาและตัดสินใจที่จะฝึกฝนทักษะพิเศษนี้