หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 84: สถานการณ์เป็นตาย

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 84: สถานการณ์เป็นตาย

เขากลิ้งตัวลงไปในหลุม จางเทีย รีบดึงมีดออกจากหมาป่าและแทงมันซ้ำอีกครั้ง ในช่วงเวลาสั้นๆนั้นเขาได้แทงเข้าไปที่หัวใจและท้องของมันอยู่ 4 ครั้งก่อนในที่สุดกรามของหมาป่าที่กัดหน้าแข้งเขาจะหมดเรี่ยวแรงไป

ตอนนี้เขาลืมอาการบาดเจ็บของตัวเองซะสนิท  เขาเงยหน้าขึ้นมาและมองไปยังช่องแคบที่อยู่ตรงหน้า...นี่คือรูที่ลึกที่สุดซึ่งงูกินทองได้สร้างขึ้นมา นี่คือรูที่ไม่มีหลุมซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 3 ม.และยังเป็นที่เดียวที่ จางเทีย จะรอดจากการโจมตีของพวกหมาป่าไปได้

ด้วยการโดนหมาป่ากว่า 7 ตัวไล่มา จางเทีย จะรอดได้ถ้าลงมือสองอย่าง อย่างแรกคือกระโดดลงมาในหลุมก่อนที่จะโดนหมาป่าตามทันใน 20 วินาทีซึ่งในที่สุดเขาก็ทำสำเร็จแม้ว่าจะบาดเจ็บก็เถอะ  อย่างที่สองคงต้องพึ่งโชค  ถ้าที่นี่ไม่มีเนินรึอะไรเลยเขาคงตกลงมาแล้วตายอย่างน่าอนาถ  เมื่อคิดแบบนั้นมันคงจะดีกว่าถ้าหันกลับไปหาพวกหมาป่านั่น

จางเทีย พนันชีวิตตัวเองกับการกระทำนี้แต่เขาทำมันโดยคิดสองอย่างซึ่งส่งผลกับการกระทำของเขาด้วย  อย่างแรกคืองูกินทองคงไม่ขุดรูโง่ๆมาเป็นแบบบ่อน้ำแน่ซึ่งมันจะตรงดิ่งลงไปข้างล่างและมันมักจะมีเส้นโค้งไปมาเสมอ  ดังนั้น จางเทีย คิดว่าตราบใดที่ที่นี่พวกรอยโค้งในรูแล้วเขาคงไม่ตกดิ่งลงไปที่พื้นและนั่นคงทำให้เขาพอช่วยตัวเองได้บ้าง

อย่างที่สองคือหมาป่านั้นจะไม่ตามเขากระโดดลงมาที่หลุมนี้  จางเทีย เดาได้ถูก แม้ว่าหมาป่าจะวนเวียนอยู่ปากหลุมอยู่นานแต่จากนี้เป็นต้นไป จางเทีย จะต้องคงต้องพึ่งการเดาอันแรกของเขาคือมันต้องมีจุดเลี้ยวโค้งที่ทำให้เขาไม่ตกลงมาตาย

จางเทีย ได้ตกลงมาด้วยความเร็วสูงพร้อมกับหมาป่า  ตอนนั้นเขาได้แทงหมาป่าไปถึงสี่ครั้ง อุโมงค์นี่นั้นมืดสนิทเนื่องจากแสงสาดเข้ามาไม่ถึง

จางเทีย และหมาป่านั้นตกลงไปต่อในรู้นั้น...

แม้ว่า จางเทีย จะไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้เขาถึงได้ใจเย็นแม้ว่าจะอยู่ในช่วงวิกฤตแต่แม้ว่าเขาจะกลัวตายแต่ จางเทีย ตอนนี้รู้สึกไม่มีอารมณ์อื่นๆมาเกี่ยวข้องและเป็นเหมือนเครื่องจักรที่คิดคำนวนและแสดงผลลัพธ์ออกมาได้อย่างแม่นยำ ...น่าสนใจ ตอนนั้น จางเทีย ไม่ได้คิดเรื่องชีวิตรึความตายเลย เขาคิดแค่ว่าถูกรึผิดก็เท่านั้น..

ตอนนี้เมื่อ จางเทีย เงยหน้าขึ้นมาดูปากรูที่ห่างออกไป  เขาก็คำนวณได้ในเวลา 0.1 วินาทีว่าเขาอยู่ห่างจากปากรูไป 10-15 ม. หมายความหว่าเขาต้องตกลงมาในรูนี่ได้ 1-2 วินาที  เขายังคิดเรื่องสูตรที่เขาเรียนมาจากโรงเรียนด้วย : D=D’(2t-1) โดย D นั้นหมายถึงระยะทางและ D’ นั้นหมายถึงระยะทางในการตกภายในวินาที่แรกซึ่งก็คือ 5 ม. เมื่อใช้สูตรนี้ได้แล้วเขาจะตกลงมาได้ 5 ม.ในวินาทีแรก 15 ม.ในวินราทีต่อมา, 25 ม.ในวืนาทีที่สาม เขาเลิกคิดต่อ  แม้ว่ามันจะมีจุดเลี้ยวรึจุดชันไม่ถึง 90 องศาหลังจากวินาทีที่สี่แต่ยังไงซะกระดูกเขาก็ไม่ได้แข็งเท่าหิน  แน่นอนว่าเขาต้องได้รับบาดเจ็บหนักรึตายได้ถ้าเขาชนเข้ากับพื้นรึกำแพงด้านใน

“ ฉันเป็นคนแรกที่จะตายในการฝึกนี้งั้นเหรอ ? ฉันยังซิงอยู่เลย เหี้ยเอ้ย ! “

มีความคิดหนึ่งแว็บขึ้นมาตอนที่เขาตก เขาใช้เท้าของเขาดันหมาป่าให้ไปอยู่ด้านล่างแล้วใช้มันเป็นที่รองและจับพลั่วในมือแน่น

โชคชะตาของ จางเทีย ขึ้นอยู่กับ 3 วินาทีนี้  แม้ว่า 3 วินาทีอาจจะผ่านไปอย่างรวดเร็วสำหรับคนอื่นแต่สำหรับ จางเทีย แล้วมันนานเท่ากับ 30 วินาทีตอนที่เขาเพ่งสมาธิโดยใช้พลังวิญญาณ

พระเจ้าดูเหมือนว่าจะไม่ทอดทิ้งเขา  ระหว่างวินาทีที่สามและสี่หลังจากที่ตกลงมา เอาให้เป๊ะ ก็หลังจากวินาทีที่ 3 ก็ได้มีจุดโค้งจุดแรกและระดับความชันมันก็หักเลี้ยวถึง 70-80 องศา แน่นอนว่า จางเทีย ไม่ได้มีเวลามาวัดองศาที่แน่นอน  ตอนที่เขาตก จางเทีย รู้สึกว่าหมาป่าที่อยู่ด้านล่างนั้นชนเข้ากับบางอย่าง เขาแทงพลั่วลงไปที่หินด้านข้างจนทำให้มีประกายไฟขึ้นมา  หน้าตาจริงจังของ จางเทีย แสดงให้เห็นถึงความต้องการรอดของเขา  เขารู้สึกราวกับว่าแขนเขาหักแต่เขารู้สึกได้ว่าความเร็วของเขาลดลง ในที่สุดขาของเขาก็แตะพื้นได้  เขาลดแรงปะทะให้น้อยลงและเริ่มกลิ้งไปตามกำแพงอย่างกับลูกบอลที่ดีดไปมา เขากลิ้นอยู่หลายรอบในระยะเวลาสั้นๆแบบนี้

แม้ว่า จางเทีย จะไม่รู้ว่าเขาอยู่ในความมืดนี่มานานเท่าไหร่แล้ว ร่างกายของเขากลิ้นอยู่หลายรอบและชนเข้ากับหลายอย่างกว่าในที่สุดการชนครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้นจนทำให้สติของ จางเทีย ดับวูบไปในความมืด

……

ในตอนที่เขาหมดสติข่าวของเด็กผมดำที่โดนหมาป่า 7 ตัวโจมตีจนตายซึ่งห่างจากปราสาทไป 3.5 กม.ก็แพร่กระจายทำให้หลายๆคนช็อค

ข่าวนี่ถูกบอกโดยเด็กที่เห็นฉากของ จางเทีย ก่อนที่เขาจะกระโดดลงไปในหลุม  เมื่อได้ยินข่าวนั้นทุกคนในปราสาทถึงกับช็อค

……

“ ฉันได้ยินมาว่าเด็กผู้ชายโดนหมาป่ากัดจนตาย...”

 “ ถูกต้อง ! แต่ฉันได้ยินมาว่าเขาน่ะกล้าหาญและฆ่าหมาป่าได้ 3 ตัวก่อนที่จะโดนฆ่า ! “

“ คู่หูเขาอยุ่ไหน ? เขาอยู่ทีมไหน ? ทำไมคนกล้าแบบเขาถึงได้สู้กับพวกสัตว์นั่นคนเดียว ? “

“ เขาอยู่คนเดียวและไม่ได้อยู่ทีมไหน ฉันได้ยินมาว่าเขาเป็นนักขุดเหมืองด้วย “

“ น่าสงสารจริงๆ...”

ในห้องนั้นภายในปราสาทมีเด็กผู้หญิงสองคนกำลังคุยถึงเรื่องที่ได้ยินมา  พวกเธอก็ไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้างมาก หนึ่งในนั้นได้อธิบายถึงผู้ชายที่โดนหมาป่าฆ่า   เมื่อได้ยินคำอธิบายผู้หญิงที่นั่งกินอาหารที่มุมห้องก็ตัวสั่น  จากนั้นก็เริ่มมีน้ำตาไหลลงมาพร้อมกับอาหารแห้งที่ตกลงจากมือของเธอและเธอได้ก้มหน้าลงกอดเข่าตัวเองไว้แน่นและรีบไปซ่อนตัวที่มุมมืดของห้อง

“ แพนโดร่า เธอออกมาจากมุมได้มั้ย เธอทำให้ทุกคนกลัวนะ ?  ถ้าเธอชอบมุมห้องขนาดนั้นทำไมถึงไม่ออกจากห้องนี้ไปเลยล่ะ ? อย่างน้อยๆเราจะได้ไม่ต้องอยู่กับคนน่าขนลุกแบบเธอ... “

“ ใช่เลย ! ทำไมฉันต้องโชคร้ายมาอยู่ห้องเดียวกับตัวซวยได้นะ ? วันที่ผ่านมาที่ฉันออกไปหาผัก ฉันเกือบโดนงูพิษกัดเข้า... “ – ผู้หญิงสองคนได้เข้ามาในห้องและด่าออกมาในตอนที่เห็นคนนั่งอยู่ที่มุมโดยไม่สนว่าผู้หญิงที่มุมห้องจะรู้สึกยังไง

เมื่อได้ยินคำด่าของทั้งคู่ แพนโดร่า ก็ขดตัวที่มุมไม่ปริปากออกมาสักคำ  เธอแค่เอื้อมมือออกมาหยิบอาหารที่เปื้อนน้ำตาที่พื้นแล้วกินต่อไปเงียบๆ...

……

สำหรับสมาชิกคนอื่นๆในองค์กรนั้น มันคือเวลามื้อเย็นแล้วแต่พวกเขาตระหนักได้ว่า จางเทีย นั้นยังไม่กลับมา หลังจากที่รอสักพักพวกเขาก็เริ่มตระหนักได้ว่ามีบางอย่างแย่ๆเกิดขึ้นกับ จางเทีย ดังนั้นจึงให้สองคนเฝ้าอยู่ที่ฐาน  แบร์ลี่, ลิซ , ดั๊ก และแบกแดด ได้ออกจากฐานมา   พวกเขาเห็นด้วยกับความคิดของ ลิซ  พวกเขาจุดคบไฟและเริ่มออกตามหา จางเทีย ตามทางที่เขาใช้เป็นปกติ ส่วน ดั๊ก นั้นได้เอาหน้าไม้เดินออกมาด้านหน้า  เมื่อเดินมาได้ครึ่งทางและห่างจากจุดที่ จางเทีย สู้กับหมาป่าหลายร้อยเมตร  พวกเขาก็พบกับแสงไฟ มีคนมากมายได้มารวมตัวกันที่นั่นและเอาคบไฟมาด้วยจนทำให้พวกเขาต้องมองหน้ากันด้วยความสับสน   กลุ่มของ แบร์ลี่ รีบวิ่งเข้าไปและดึงมือพวกนั้นหนึ่งคนออกมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น

“ นายยังไม่ได้ข่าวเหรอ ? “ – เด็กผู้ชายถามอย่างสงสัย

“ ข่าวอะไร ? “

“ ตอนเย็น มีเด็กที่ขุดเหมืองน่ะโดนหมาป่า 7 ตัวฆ่าตาย  เขาเป็นคนที่สุดยอด มีคนบอกว่าเขาฆ่าหมาป่าได้ 3 ตัวก่อนจะโดนฆ่าด้วย... “

เมื่อได้ยินข่าวนั้นหน้าของกลุ่ม แบร์ลี่ ก็ซีดลงไป   เมื่อคิดว่า จางเทีย ไม่แข็งแกร่งพอที่จะฆ่าหมาป่า 3 ตัวได้ แบร์ลี่ ก็ถามเสียงสั่นออกมา – “ นายรู้ชื่อผู้ชายคนนั้นมั้ย ? “

“ ทางเจ้าหน้าที่เพิ่งยืนยันตะกี้ เขาเป็นคนจีนที่ชื่อ จางเทีย ! “

“ ไอ้หัวโต ... “ - ดั๊ก คำรามออกมาพร้อมกับวิ่งเข้าไปที่จุดที่คนรุมกันมากที่สุด  ในความคิดของเขาแล้วศพของ จางเทีย ต้องน่ากลัวอย่างมากแน่

ในตอนที่สี่คนวิ่งเข้าไปด้านหน้า พวกเขาก็ต้องอึ้งกเพราะที่นี่โดนนักเรียนที่ได้รับหน้าที่ประจำการที่ซึ่งสวมปลอกแขนสีแดงพร้อมกับคบไฟในมือ  ไม่มีใครได้รับอนุญาติให้เข้าไปใกล้ได้แต่เมื่อมองผ่านไปแล้วพวกเขาก็เห็นหลุมอันน่ากลัวและศพของหมาป่าสองตัวอยู่  ครูหลายคนยืนอยู่ตรงนั้นพุดคุยบางอย่างกัน  ส่วนศพของ จางเทีย นั้นไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย

“ จางเทีย จางเทีย เขาเป็นพี่น้องของเรา เราอยากเห็นเขา ! “ - แบร์ลี่ ตะโกนออกมา...

“ เงียบ ฉันได้ยินมาว่า จางเทีย กลิ้นลงไปในหลุมนั้นกับหมาป่า  กัปตันเคอร์ลิน และครูกำลังคุยกันเรื่องเอาตัวเขาออกมา... “ – นักเรียนคนหนึ่งที่รับหน้าที่ในการปกป้องที่เกิดเหตุเตือนขึ้นมา

“ ไอ้หัวโตตกลงไปในหลุม... “ – เมื่อเห็นรูที่น่ากลัวนั้น ก็ได้มีความหวังอันน้อยนิดเพิ่มขึ้นมาในตาของ แบร์ลี่ และ ดั๊ก....

“ คุณเซรอม... “ – เมื่อเห็นครูคนหนึ่งเดินเข้ามา ก็มีนักเรียนที่รับหน้าที่ทักทายเขา  เขาพยักหน้าให้กับพวกนั้นและครูก็ได้เดินเข้าไปหาพวกกรรมการและ กัปตันเคอร์ลิน....

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.