spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 83: การโจมตีของหมาป่า
สำหรับเวลาทั้งหมดในตอนบ่าย จางเทีย ได้ทำการบ่มเพาะข้างในเหมือง เขารู้สึกว่าเวลานั้นผ่านไปอย่างรวดเร็วเมื่อทำแบบนั้น !
เมื่อเขาเดินออกมาจากถ้ำก็พบว่ามันเย็นแล้วเพราะหุบเขานี้เต็มไปด้วยแสงสีทอง เขาหรี่ตาลงและมองไปยังฉากอันงดงามนี้ หลังจากนั้นสักพักเขาก็สามารถปรับสายตาให้เข้ากับแสงได้
ตอนนี้เขารู้สึกค่อนข้างดีเลยทีเดียว ดูเหมือนว่าจะเป็นเพราะผลของการบ่มเพาะในวันนี้ซึ่งได้เปลี่ยนสีของจุดชีพจรที่หลังของเขาเป็นสีแดง เขาไม่เคยรู้สึกดีแบบนี้มาก่อนเลย ถ้าไม่ใช่เพราะคบไฟที่ จางเทีย ถืออยู่ที่นี่คงมืดสนิท จางเทีย ต้องการที่จะอยู่ด้านในต่อเพื่อเพิ่มพลังงานให้กับ Castle of Black Iron
ก่อนที่จะออกมาจากเหมือง จางเทีย ได้นั่งลงที่รูที่เขาขุดขึ้นมาและเข้าไปใน Castle of Black Iron อีกครั้ง กระบวนการทั้งหมดนั้นใช้เวลาไม่ถึง 3 นาที การเข้าไป Castle of Black Iron พร้อมกับบลูเบอร์รี่กับผลหนาม หลังจากที่วิ่งไปรอบๆแล้ว จางเทีย ก็เริ่มหว่านเมล็ดลงที่พื้นและเข้าไปเช็ค Leakless Fruit ก่อนจะเดินออกมาด้วยความตื่นเต้น
เหลืออีก 56 ชม.ก่อนที่ Leakless Fruit ผลที่สองจะสุก เมื่อเห็นกระบวนการของมันแล้ว จางเทีย ก็รู้สึกพอใจอย่างมากแต่ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกเสียดายเมื่อเห็นขีดกระบวานการของ Iron Body Fruit เพราะมันยังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง กระบวนการของ Iron Body Fruit นั้นหยุดอยู่กับที่เพราะเขาไม่ได้ไปที่คลับต่อสู้เพื่อเป็นกระสอบทรายเลย หลังจากที่มอง Iron Body Fruit สักพัก จางเทีย ก็ได้ข้อสรุปว่าเขานั้นเป็นคนไม่มีความอดทนและเขาก็เริ่มด่าตัวเองในใจ
ในเวลาเดียวกันพวกผู้ชายในปราสาทนั้นก็ท่ำท่าราวกับสุภาพบุรุษแม้จะคิดเรื่องแย่ๆในตอนที่ชวนสาวๆไปกินมื้อเย็น กว่าอาทิตย์ที่ผ่านมาเด็กผู้ชายมักจะพาสาวๆออกจากปราสาทและเดินจูงมือกันและคุยกันอย่างมีความสุข เรื่องนี้ทำให้ จางเทีย ไม่มีความสุขและอึดอัด เมื่อเห็นแบบนั้นเขาได้แต่แตะจมูกตัวเองและฝืนยิ้มออกมาก่อนที่จะมุ่งหน้ากลับฐานของเขา
ในตอนที่เดินทางกลับ จางเทีย ได้คิดเรื่องความสำเร็จของ แบร์ลี่ และคนอื่นๆในองค์กร เขาสงสัยว่าพวกนั้นจะชวนสาวๆมาที่ฐานได้มั้ย ทุกอย่างที่เขาเรียนรู้มาก่อนจะเริ่มการฝึกนั้นเกี่ยวกับอันตรายในที่นี่ซึ่งตอนนี้เขาลืมมันไปซะสนิท จางเทีย นั้นคือคนที่ไม่เจออันตรายใดๆเพราะเป็นคนขุดเหมืองแม้ว่าจะเพิ่งทำลายสถิติสองอย่างตั้งแต่ที่เริ่มฝึกมาแล้วด้วย แม้ว่าเขาจะเจอหหมาป่าแต่พวกมันจะทำอันตรายกับเขาได้ด้วยเหรอ ?
ในหุบเขาตอนทตี่เขากำลังคิดถึงหมาป่าก็ได้มีรอยยิ้มแปลกๆโผล่มาที่หน้า จางเทีย ในตอนที่ลมเย็นยามค่ำคืนพัดผ่านมา ถ้าเขาเจอะหมาป่าตอนนี้จริงๆ เขาคงต้องพึ่งตัวเองและคิดว่ามันคือโชคที่พระเจ้าให้มา แม้ว่าเขาจะมีแค่มีดแต่มันก็ยังถือเป็นอาวุธได้ ด้วยการที่เป็นนักสู้ระดับ 1 ซึ่งมีอาวุธแล้วการจัดการกับหมาป่านั้นยากเท่ากับการแบกแร่ 100 กก.แล้วเดินไปกว่า 1.5 กม. แม้ว่ามันจะดูเหมือนเป็นงานหนักแต่มันก็ไม่ได้อันตรายเท่าไหร่...
แต่อันตรายมักจะมาถึงก่อนที่คนเราจะได้เตรียมตัว มันจะโผล่มาตรงหน้าเหมือนกับภูเขาถล่มและคุณพลาด คุณนี่แหละที่จะตายเอง
20 นาทีต่อมาหลังจากที่ออกจากเหมืองมาแล้ว จางเทีย ได้เดินไปต่ออีกหลายกิโลเมตร ในตอนที่เขาเดินผ่านทุ่งหญ้าและกำลังจะเดินทะลุมันไป จางเทีย ก็ได้หยุด
ในตอนนั้นหัวใจของเขาเริ่มเต้นรัวและทำให้เลือดสูบฉีดไปที่หัวของเขา ในเสี้ยววินาที จางเทีย รู้สึกกังวลขึ้นมาจนเขาหน้าซีด
ลางสังหรณ์ !
ลางสังหรณ์เดียวกับที่เขาเคยรู้สึกตอนเจอกับ ฮัค และ สเนซ
ทุ่งหญ้านี้สูงประมาณครึ่งตัวและอยู่ห่างจาก จางเทีย ไป 30 ม. นอกจากทางเดินซึ่ง จางเทีย ใช้เดินทุกวันแล้ว หญ้าข้างในนั้นขยับไปมาเหมือนกับโดนลมพัดทุกทาง ดูเหมือนว่าจะมีอะไรซ่อนตัวอยู่ข้างใน
ทันใดนั้น จางเทีย ก็เริ่มเหงื่อตก เขาตระหนักได้ว่ามีบางอย่างที่น่ากลัวจ้องเขาอยู่ในพุ่มหญ้าพวกนั้น จางเทีย ไม่รู้ว่าที่ซ่อนตัวอยู่นั้นเป็นคนรึสัตว์ ในเวลาเดียวกันสิ่งแรกที่เขาคิดคือกลุ่มของ เกรซ เขาสงสัยว่าพวกนี้อาจจะซุ่มโจมตีและรอฆ่าเขาที่นี่ก็ได้
เขาค่อยๆวางตะกร้าลงไป จางเทีย เอาพลั่วออกมาจากตะกร้า ในเวลาเดียวกันเขาก็ดึงมีดที่พี่ชายให้ซึ่งหวังว่าเขาจะใช้มันป้องกันตัวออกมา สำหรับมีดพิษที่ ดอนเดอร์ ให้เขามานั้นเขาเอามันเก็บไว้ใน Castle of Black Iron
ด้วยสองอาวุธที่มีในมือ จางเทีย รวบรวมสติได้เล็กน้อย เขาเบิกตากว้างและมองไปยังทุ่งหญ้าด้านหน้าต้องการที่จะดูว่าอะไรซ่อนอยู่ข้างในนั้น ถ้าเป็นพวก เกรซ จางเทีย สาบานในใจว่าเขาจะต้องอัดพวกมันอย่างแน่นอน...
ลมที่พัดมาดูเหมือนจะแรงขึ้นจนทำให้หญ้าสะบัดไปมาแต่ตอนนี้น จางเทีย เห็นบางอย่างที่เหมือนกับหินในหญ้าพวกนั้นซึ่งเปลี่ยนท่าไปหลังจากที่หญ้าสะบัด ก่อนที่พลังวิญญาณเขาจะเพิ่มขึ้นมาสูงแบบนี้ จางเทีย คงไม่เห็นรายละเอียดพวกนี้แน่แต่หลังจากที่พลังวิญญาณเขาได้เพิ่มขึ้นมาแล้วเขาก็สามารถจับการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยได้ เขากลืนน้ำลายลงไปแล้วค่อยๆถอยหลังกลับแต่ในตอนที่เขาถอยหลังนั้น หินพวกนั้นที่ซ่อนอยู่ก็เดินเข้ามาหน้าเขา มันทำให้หญ้าเซไปเล็กน้อยในตอนที่มันขยับตาม จางเทีย ทีละก้าวๆ
จากนั้นหมาป่าก็โผล่ออกมาและจ้องมาที่ จางเทีย ....
หมาป่า ? ไม่นาน จางเทีย ก็โล่งใจได้นิดหน่อยแต่เมื่อเห็นว่ามีหมาป่าอีก 6 ตัวเดินออกมาจากหญ้ามันก็ทำให้เขาเครียดอีกครั้ง
ตาแดงๆของหมาป่าทั้งเจ็ดนั้นมองมาที่ จางเทีย หลังจากที่จ้องเข้าไปในตาของพวกมันแล้ว จางเทีย ก็รู้ได้ถึงอารมณ์ของพวกมัน พวกมันไม่ได้แสดงท่าทีว่าหิวเหมือนกับออกมาล่าแต่พวกมันแสดงความเกลียดชังออกมา ความเกลียดที่ฝังลึกจนพวกมันไม่ปล่อยเขาไปแม้ว่าจะกินเลือดเขาหมดก็เถอะ
ทำไมพวกนี้ถึงได้เกลียดฉัน ? จางเทีย อึ้ง ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขารู้คือเขาอาจจะตาย เมื่อเห็นพวกมันแยกเขี้ยวสีขาวออกมาพร้อมกับก้มตัว จางเทีย ก็ได้ยินเสียง ‘ กรร ‘ ดังมาจากคอของพวกมัน จางเทีย รู้สึกได้ว่าเขาขนลุกไปทั่วตัว....
จางเทีย หันหน้ากลับและเริ่มที่จะหนี ตอนนั้นเขาได้ใช้แรงทั้งหมดในการวิ่ง ความคิดของ จางเทีย ใสอย่างกับน้ำ ข้อมูลต่างๆนั้นหลั่งไหลเข้ามาในสมองของเขา....
ตอนนี้เขาอยู่ห่างจากพวกหมาป่าไม่ถึง 30 ม. ถ้าเขาไม่ใช้แรงทั้งหมดในการหนีแล้วงั้นด้วยความเร็วของเขาตอนนี้แล้วเขาคงหนีไปได้แค่ 20 วินาทีก่อนที่พวกมันจะจับเขาได้ ด้วยความสามารถของเขาตอนนี้คงเทียบความเร็วกับพวกมันไม่ได้....
เมื่อพวกมันตามเขาทันแล้วเขาคงมีเวลาไม่ถึง 30 วินาทีสำหรับความเป็นควมตาย ด้วย 30 วินาทีนั้นที่เขาทำได้ดีที่สุดคงเป็นฆ่าหมาป่า 1 รึ 2 ตัวแต่เวลาที่เขาใช้เพื่อจะทำแบบนั้นก็เพียงพอให้หมาป่าตัวที่เหลือฉีกเขาเป็นชิ้นๆ ในตอนที่เขาล้มลงเขาคงตายอย่างแน่นอน ...
ถ้าเขาอยากเข้าไปใน Castle of Black Iron เขาต้องมีเวลาอย่างน้อย 10 วินาที --- ไม่สิ 9 วินาทีเพื่อที่จะได้เข้าไป เขาต้องทำใจให้สงบซึ่งหมายความว่าเขาโดนรบกวนในช่วง 9 วินาทีนี้ไม่ได้ ชัดแล้วว่าเขาไม่มีเวลาพอในตอนนี้และ Castle of Black Iron คงไม่ช่วยให้เขาหนีรอดจากสถานการณ์ตอนนี้ได้....
เพราะไม่มีใครอยู่ใกล้ๆ จางเทีย ตระหนักได้ว่าไม่มีใครจะมาช่วยเขาได้ใน 50 วินาที ดังนั้น จางเทีย จึงมีทางเลือกเดียว เขาต้องหายไปจากสายตาของพวกหมาป่าใน 20 วินาทีข้างหน้าเพราะเขาคงตายแน่ถ้ามันจับเขาได้….
เขาวิ่งไม่เร็วเท่าหมาป่าและก็พึ่งใครไม่ได้อีก ความหวังเดียวของเขาตอนี้คือใช้ข้อได้เปรียบของพื้นที่และต้นไม้ที่สูงกว่า 200 ม. ด้านหลัง
ภูมิศาสตร์ที่ได้เปรียบที่สุดก็คือน้ำแต่โชคร้ายที่ไม่มีแม่น้ำอยู่ใกล้ๆ แต่ถึงยังไงมันก็โชคดีที่มีต้นไม้หลายต้นด้านหลังเขา ความจริงเขาก็ยังไม่ปลอดภัยถ้าไม่ปีนขึ้นไปสูงได้สักระยะ ตอนนี้ทางเลือกสุดท้ายได้แว๊บขึ้นมาในหัวของเขา อันที่พอมีความหวังอยู่บ้าง
ความคิดต่างๆระดมเข้ามาในหัวของเขาในเวลาแค่ 0.1 วินาที ด้วยเวลาสั้นๆแบบนี้ จางเทีย ได้คิดแผนสุดท้ายเพื่อหนีขึ้นมา ถ้าเป็นคนอื่น 90% คงเลือกที่จะหนีไปยังทางของปราสาทที่ที่มีคนเยอะโดยคิดว่าจะมีโอกาสรอดได้เล็กน้อยแต่ จางเทีย ตระหนักได้ว่าทางเลือกนั้นคงไม่ได้ผลกับเขา ถ้าเขาเลือกตัวเลือกนี้แล้วเขาคงตายใน 50 วินาที คนอีก 10% จะหนีโดยไม่รู้ทิศรู้ทาง พวกนั้นจะต้องการแค่อยู่ห่างจากหมาป่าให้ได้มากที่สุด ผลก็คือพวกนี้ตายเร็วยิ่งกว่า 90% ที่ว่าไป จางเทีย เองก็ไม่เลือกตัวเลือกนี้เช่นกัน จางเทีย เลือกที่จะวิ่งหนีไปยังสถานที่หนึ่งซึ่งเป็นความหวังสุดท้ายของเขา...
แน่นอนว่ามันคงยืนยันไม่ได้ว่าจะหนีได้ เขาไม่คิดที่จะยอมแพ้และไม่คิดจะทิ้งความหวัง ยังไงเขาก็ไม่รอความตายเฉยๆแน่ ดังนั้นในตอนนี้เขาจะต้องหันหน้าหนี จางเทีย ใช้แรงทั้งหมดที่มีตะโกนออกมาและส่งเสียงอันน่ากลัวออกไป
“ ช่วยด้วย... “
เสียงนั้นทำให้นกต่างก็ตกใจจนทำให้พวกมันบินหนี...
หลังจากตะโกนเสียงสูงออกมาแล้ว จางเทีย ได้ใช้แรงทั้งหมดในการวิ่งพร้อมกับมีหมาป่า 7 ตัวไล่ตามหลังมา พวกมันค่อยร่นระยะห่างเข้ามาได้ทีละนิดๆ
……
ก็อย่างที่คาดไว้ คำพูดของเขานั้นทำให้เด็กผู้ชายผู้หญิงกว่า 30 คนที่นั่งกินเนื้อย่างบนสันเขาที่ห่างไป 300 ม.ได้ยิน ในเสี้ยววินาทีพวกนั้นก็หยิบอาวุธขึ้นมาและวิ่งออกมาจากป่า หนึ่งในนั้นมีคือสาวผมแดงที่เตะขา จางเทีย จากบนสันเขานั้นพวกเขาได้เห็น ‘ วินาทีสุดท้าย ‘ ของ จางเทีย บนโลกใบนี้.......
ในที่สุดหมาป่าก็ตาม จางเทีย มาทันและได้มีบางตัวที่พุ่งเข้าใส่เขาแต่การโจมตีของพวกมันนั้นก็ถูกหลบได้ราวกับว่าเขามีตาหลัง เขาโยกตัวไปด้านข้างแล้วยกมีดขึ้นมาและฟันไปที่ท้องของหม่าป่าตัวนั้น หมาป่าอีกตัวได้พุ่งเข้ามาหาเขาแต่กรามด้านล่างของมันถูกพลั่วฟาดเข้าใส่ทำให้มันต้องร้องโหยหวนออกมา ในขณะเดียวกันหมาป่าอีกตัวได้กัดเข้าที่หน้าแข้งของเขาพยายามดึงเขาลงมาที่พื้น ตอนนั้นเองก็ได้มีหมาป่าสองตัวกระโดดเข้าใส่ จางเทีย ใช้มีดแทงออกไปที่หมาป่าซึ่งกัดที่หน้าแข้งเขา เขาดึงหมาป่าออกไปโดยใช้แค่มือเดียวพร้อมกับกระโดดไปที่รูด้านข้างเขาทันที...
การตัดสินใจและความกล้าของ จางเทีย ในวินาทีสุดท้ายทำให้เด็กหลายคนที่ยืนอยู่บนยอดเขานั้นช็อค เมื่อเห็น จางเทีย โดดลงไปในหลุม สาวๆก็เริ่มร้องไห้ออกมา ในบรรดาพวกนั้นมีแค่ คริสติน เท่านั้นที่จำได้ว่าเด็กชายที่ใช้พลั่วสู้กับหมาป่านั้นเป็นใคร
บางทีฉันไม่น่าจะไปเตะเข้าตอนที่อยู่ที่ลานเลยแม้ว่าเขาจะทำเรื่องอย่างว่ากับฉันในหัวก็เถอะ....
เมื่อคิดแบบนั้น คริสติน ก็รู้สึกผิดนิดๆ ในตอนที่ลมพัดมาถึงหน้าของเธอ เธอก็รู้สึกได้ถึงความสบายนิดหน่อยบนหน้า....
สำหรับคนทั่วไปแล้วพวกเขาอยู่ในยุคที่เด็กหนุ่มเด็กสาวนั้นมีอายุขัยที่สั้นไม่ต่างอะไรกับฟางข้าว