spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
อยู่ๆฝนครั้งแรกของเดือนมิถุนายนก็ตกลงมา สองวันก่อนท้องฟ้ายังโปร่งอยู่เลยแต่ในตอนเย็นของวันเดียวกันนั้นท้องฟ้ากลับปกคลุมไปด้วยก้อนเมฆสีดำและมีฝนตกลงมาอย่างหนัก มันตกต่อเนื่องมาจนถึงเมื่อคืน
เนื่องจากฝนตกเมื่อวานนี้ เด็กส่วนมากเลือกที่จะอยู่ที่ฐานของตนและพวก จางเทีย เองก็ด้วย แบร์ลี่ พกไพ่มาด้วยและพวกเขาก็ฆ่าเวลาในการเล่นไพ่ในโพรงไม้ของพวกเขา มันเป็นความรู้สึกที่ดีเลยทีเดียว ในตอนที่ข้างนอกฝนตกหนัก พวกเขาอยู่ข้างในแล้วสนุกสนานกัน นอกจากเสียงฝนที่ไหลหยดลงจากใบไม้แล้วไม่มีเสียงใดที่ได้ยินเลย แมลงและนกต่างก็ไปซ่อนตัว พวกเขาไม่ได้ยินเสียงจิ้งหรีดรึนกเลย สัตว์พวกนี้ต่างก็ไปหลบฝน และการจะไปล่าพวกมันตอนนี้คงไม่ใช่เรื่องง่ายนัก
ในวันที่แปดของการฝึก พระเจ้าก็เหมือนจะให้พวกเขาพักอีกหนึ่งวัน...
ในวันที่แปดฐานต้นไม้ได้ทำการปรับปรุงใหม่ไปอีก ในตอนที่พวกเขาว่างรึไม่มีมีไม้เป็นฟืน พวกเขาจะทำการขยายพื้นที่มากกว่าเดิม ผลก็คือทำให้มีที่นอนมากขึ้น พวกเขายังห้องม่านไม้ไผ่ที่ได้มาจากการเอาอาหารไปแลกกับสาวๆ แต่ละวันพวกเขาก็จะเก็บเถาวัลย์กันมา สุดท้ายแล้วก็ทำบันไดง่ายๆขึ้นมาจากเถาวัลย์พวกนั้นเพื่อให้ปีนขึ้นลงได้สะดวกขึ้น ในชั้นสามของต้นไม้พวกเขายังได้ขุดหลุมขึ้นมาและใส่ดินและดอกไม้ลงไปจนทำให้มันดูน่าอยู่มากกว่าเดิม
ในพื้นที่ใต้ต้นไม้นั้นพวกเขาได้ขุดบ่อประมาณ 2 ตร.ม.เติมก้อนหินลงไปด้านล่าง พวกเขาขุดคูน้ำอีกกว่า 30 ม.และตัดชิ้นไม้ผ่าใช้แยกดินออกแล้วปักไม้ไฝ่ลงตรงกลางเพื่อสร้างที่บ่อน้ำซึ่งจะใช้ที่นี่เป็นที่เลี้ยงปลาไว้กิน
แม้ว่าน้ำในบ่อนั้นจะซึมลงไปในดินได้ง่ายแต่ด้วยน้ำที่ไหลเข้ามาทำให้ความลึกของบ่อนั้นยังคงอยู่ที่ 50 ซม.ตลอดเวลาซึ่งพอที่จะทำให้ปลาอยู่รอดได้
หลังจากที่จัดการตกแต่งฐานใหม่แล้ว ฐานตอนนี้แตกต่างจากอันเดิมอย่างสิ้นเชิง ไม่กี่วันก่อนพวกเขาก็เชิญสาวๆมาที่นี่ได้สำเร็จและกินปลาย่างด้วยกัน ก็อย่างที่คาดด้วยความน่าอยู่ของฐานนี้แล้ว สาวๆนั้นทึ่งอย่างมาก มากซะจนเข้าไปในโพรงไม้เพื่อดูเลยด้วยซ้ำ หลังจากที่สาวๆพวกนั้นกลับไปที่ปราสาท พวกนั้นก็เริ่มบอกคนอื่นซึ่งทำให้ฐานนี่เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่สาวๆ สาวๆหลายคนเริ่มเรียนรู้เรื่องการอยู่ในโพรงต้นไม้และการเลี้ยงปลายใต้ต้นไม้ และพวกเธอรู้ว่าถ้าพวกเธอไปที่นั่นแล้วพวกเธอจะได้กินซุปปลาอร่อยๆและปลาย่าง นอกจากนี้แล้วดูเหมือนว่าพวกผู้ชายที่ทำงานหนักๆจะยังสามารถล่าสัตว์อื่นได้ด้วย พูดโดยทั่วไปแล้วเด็กชายพวกนั้นสามารถหาอาหารได้พอสมควรเลยทีเดียว เมื่อพวกเขาออกไปล่า พวกเขาจะกลับมาพร้อมกับบางอย่างเสมอ..
เพื่อที่จะไม่ให้คนอื่นกลับไปมือเปล่า จางเทีย ได้สอนวิธีขุดกับดักพวกนี้ขึ้นมา ในไม่กี่วันมานี้ด้วยการหาอาหารกันอย่างหนักของคนในองค์กร แบร์ลี่ และคนที่เหลือได้ขุดกับดักขึ้นมาสองอันซึ่งลึกกว่า 6 ม.โดยห่างจากฐานไป 5 กม. กับดักสองอันพวกนั้นทำมาจากกิ่งไม้และก้อนหินซึ่งจับเหยื่อตัวเล็กได้ แต่มันพัฒนาการเป็นอยู่ของพวกเขาได้มาก ในวันที่หกพวกเขาก็ทำการจับหมาป่าได้สำเร็จโดยการเอาเครื่องในปลามาล่อไว้ในหลุม ในที่สุดมันก็โดนหน้าไม้ยิงจนตาย ในวันเดียวกันสมาชิกในองค์กรได้กินเนื้อหมาป่าย่างเป็นครั้งแรกในชีวิตและได้หนังหมาป่ามาด้วย หลังจากทำกับดักสำเร็จได้ ทุกคนเริ่มสนุกกับการสร้างกับดักขึ้นมา ถ้าไม่ใช่เพราะฝนพวกเขาคงทำหลุมอันที่สามขึ้นมาแล้ว
หลังจากที่ทำกับดักแรกสำเร็จ ฐานของพวกเขาเริ่มมีชื่อเสียงมากขึ้นๆ หลังจากรู้สึกพอใจกับด้านร่างกายตัวเองแล้ว สมาชิกในองค์กรก็เริ่มเพ้อถึงสาวๆ ในไม่กี่วันก่อนพวกเขายังไปที่ปราสาทเพื่อไปรับสาวๆ บางคนถึงกับกล่อมพวกเธอมาร่วมมือกันได้ สำหรับสาวๆแล้วนอกจากการกลับมาที่ปราสาททุกเย็น พวกเธอทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ เมื่อตระหนักถึงเรื่องนี้พวกผู้ชายต่างก็ขยันกันมากขึ้น มีหลายทีมที่เข้าไปในหุบเขาลึกกว่าเดิมเพราะที่นั่นคือสวรรค์สำหรับพวกสัตวอสูร เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะจับเหยื่อที่ระดับสูงกว่าเดิมที่นั่นได้
หุบเขาหมาป่านั้นเป็นสวรรค์สำหรับพวกหมาป่า ในยุคนี้แม้แต่หมาป่าเองก็จัดประเภทต่างจากที่เคย หมาป่าเป็นสัตว์ทั่วไปซึ่งไม่ต่างจากหมาป่าก่อนเกิดภัยพิบัติ ตามบันทึกที่มีของสัตว์แล้ว หมาป่านั้นคือสิ่งมีชีวิตเลเวล 0 ซึ่งพอๆกับทหารระดับธรรรมดา หมาป่าตัวใหญ่คือเลเวล 1 ซึ่งมีร่างกายที่พัฒนาและกลายพันธ์หลังจากเกิดภัยพิบัติและตัวใหญ่ยิ่งกว่าหมาป่าธรรมดา หมาป่าตัวใหญ่นั้นดุร้าย,แข็งแกร่งและว่องไวมากกว่า หมาป่าทองคือสิ่งมีชีวิตเลเวล 2 ซึ่งพัฒนาจากหมาป่าตัวใหญ่ หมาป่าทองนั้นดูสวยงามเพราะมันส่องประกายสีทองทั่วตัวและตัวใหญ่ยิ่งกว่าหมาป่าตัวใหญ่ มีคำพุดว่าหมาป่าทองนั้นฆ่านักสู้ระดับ 1 ได้ง่ายๆ สูงจากหมาป่าทองไปก็มีหมาป่าเลือดและหมาป่าเงา ซึ่งอยู่ระดับท็อปของสัตว์อสูรที่เคยเจอในหุบเขาแห่งนี้ จริงๆแล้วคนไม่ค่อยเห็นสัตว์ที่สูงกว่าเลเวล 2 ในช่วยสิบปีที่ผ่านมาซึ่งนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมหุบเขานี้ถึงได้ถูกเลือกเป็นพื้นที่ฝึกของเมืองแบล็คฮ็อต
จางเทีย ได้ยินว่าไม่มีสัตว์สูงกว่าเลเวล 4 ถูกพบในหุบเขานี้เพราะมีงูกินทองอยูที่นี่มากมาย แม้ว่างูกินทองพวกนี้จะโดนกำจัดไปแล้วแต่พลังคีที่สูงของมันยังคงหลงเหลืออยู่ในหุบเขา ยิ่งพวกสัตว์นั้นเลเวลสูงมากเท่าไหร่ยิ่งรับรู้พลังคีได้มากเท่านั้นและเลือกที่จะอยู่ห่างพื้นที่นั้นๆ
ในวันที่หกและเป็นวันก่อนที่ฝนจะตก ทีมที่นำโดย เบอร์วิค จากโรงเรียนแห่งที่เจ็ดได้ฆ่าหมาป่าตัวใหญ่ไป 4 ตัว นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กล่าสัตว์เลเวล 1 ได้ เบอร์วิค นั้นสร้างเรื่องน่าตกใจให้กับปราสาท สาวๆจำนวนมากเริ่มพูดคุยกันและอยากร่วมมือกับ เบอร์วิค เทียบกับ เกรซ ที่ซึ่งอับจนหนทางไม่กี่วันก่อนแล้ว เบอร์วิค นั้นกลับมีชื่อเสียงโด่งดัง
หนึ่งอาทิตย์หลังจากที่เริ่มฝึกมา คนที่ทำได้ดีที่สุดของแต่ละโรงเรียนก็เริ่มพอมองเห็นได้แล้ว
ในตอนที่กลุ่ม เบอร์วิค ได้หมาป่าตัวใหญ่ 4 ตัว นักเรียนจากโรงเรียนอื่นซึ่งเก่งในด้านธนูคนที่ แบร์ลี่ เคยเล่าให้ จางเทีย ฟังก็เริ่มโด่งดังขึ้นมาด้วย ต่างกับความสำเร็จของ เบอร์วิค ซึ่งได้ของพวกนี้มาจากการลงมือกันเป็นกลุ่ม นักธนูบลู จากโรงเรียนแห่งที่สองนั้นได้ปืนขึ้นไปบนต้นไม้และยิงหมาป่าตัวใหญ่สองตัวตายด้วยตัวคนเดียว เทียบกับ เบอร์วิค แล้ว บลู นั้นดูสุดยอดกว่าและทำให้ได้รับความชื่นชมกว่าสาวๆ ผลก็คือ บลู กลายเป็นคุณชายสมบูรณ์แบบของสาวๆไป
แน่นอนมีคนที่สุดยอดกว่านี้อยู่...
โรงหลอมในปราสาทปล่อยควันสีดำออกมารอบๆ ดาบและเครื่องมือต่างๆนั้นจะถูกผลิตจากที่นี่แล้วเอาไปวางขาย ในเวลาเดียวกันที่โรงงานก็มีคำพูดว่ามีบางคนเริ่มสร้างเครื่องจักรไอน้ำขึ้นมาแล้ว
มีผู้หญิงสองคนที่รูปร่างดี มีข่าวลือว่าสองคนนี้ได้แสดงทักษะอันสุดยอดของการวิเคราะห์,บ่งบอกและหาพืชมา เพราะเธอสามารถหารากของเถาวัลย์คุดซี่ ที่ฝังอยู่ในดินกว่า 100 กก. ได้ง่ายๆ สาวอีกคนก็แสดงความสามารถในการจัดการที่น่าทึ่ง เธอสามารถจัดการไอเท็มทุกอย่างในปราสาทได้ทั้งหมด มีผู้หญิงที่เป็นนักสู้ระดับ 1 ซึ่งกล้าหาญกว่าผู้ชายส่วนมากอีกและเธอก็ได้ออกไปล่ากับเพื่อนและทำให้ผู้ชายหลายคนต้องอายก็มี
เด็กพวกนี้ต่างก็แสดงพรสวรรค์ของตัวเองออกมาทำให้การฝึกนี้ดูดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ
เทียบกับคนที่มีชื่อเสียงเหล่านั้นแล้ว ชีวิตอันน่าสงสารของ จางเทีย ในฐานะนักขุดเหมืองดูเหมือนเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นมา สองวันก่อนเขาได้ไปขุดกับดักกับคนอื่นๆ เมื่อวานเขาต้องหยุดก็เพราะฝน ตามตารางแล้วถ้า จางเทีย ไม่สามารถส่งแร่กว่า 300 กก.ได้วันนี้งั้นเขาก็จะไม่ได้รับอนุญาติให้ขุดเหมืองอีกต่อไป
ดังนั้นตอนเช้าหลังจากฝนหยุด จางเทีย ก็แต่งตัวเหมือนคนงานขุดเหมืองอีกรอบ หลังจากตรวจอุปกรณ์ต่างๆแล้วเขาก็แบกตะกร้าออกเดินทางไปคนเดียว
“ น่าสงสารจริงๆเลย ! “ – คนอื่นๆในองค์กรต่างก็ถอนหายใจอออกมาเมื่อเห็นตะกร้าที่หลังของ จางเทีย...