spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 71: ฐานและความฝัน
เขาใช้พลั่วสนามขุดลงไปตรงโพรงด้านบนของต้นไม้ พลั่วนี้กลายเป็นจอบได้เมื่อต่อหัวเข้าหากัน ขอบด้านหนึ่งของพลั่วนั้นคมอย่างมากและสามารถใช้เป็นขวานได้ ส่วนขอบอีกข้างนั้นเต็มไปด้วยรอยฟันสามารถใช้เป็นเลื่อยได้ ในตอนที่ฮัมเพลงอยู่นั้น จางเทีย ได้สลัดพลั่วเพื่อปัดเศษไม้ออกจากถ้ำ ในตอนที่ทุกคนรู้สึกได้ถึงอากาศที่สดชื่นขึ้นเรื่อยๆก็ทำให้พวกเขามีแรงที่จะทำงานกันต่อ
แบร์ลี่ และ ชอร์วิน นั้นรับหน้าที่ในการจุดไฟเพื่อทำอาหารเย็นที่ซึ่งจะใช้หม้อมาทำอหารและ ดั๊ก กับ ฮิสต้า รับหน้าที่ในการส่งสัญญาณเตือนเมื่อมีอันตรายเข้ามาในระยะ 50 ม. ส่วน จางเทีย แบกแดดและ ลิซ นั้นรับหน้าที่ในการขุดโพรงต้นไม้
หลังจากที่ตกแต่งโรงด้านล่างเสร็จ ทั้งสามคนก็หันไปจัดการโพรงด้านบนกันต่อ เทียบกับโพรงด้านล่างแล้ว โพรงด้านบนนั้นต้องทำงานเยอะกว่า เพราะรูด้านบนนั้นมีพื้นที่จำกัดและมีพื้นที่แค่คนๆเดียวเข้าไปได้ มีแค่คนเดียวเท่านั้นที่เข้าไปขยายโพรงได้ถึงให้คนที่สองเข้าไปช่วยได้ ดังนั้นแล้วมันจึงช้ากว่าเดิมมาก จางเทีย เป็นคนแรกที่เข้าไปจัดการ หนึ่งชั่วโมงต่อมา จางเทีย ก็ได้ออกมาและคนที่ไปแทนเขาก็คือ ลิซ หลังจากนั้นอีกชั่วโมง ลิซ ก็ออกมาและ แบกแดด ก็ได้เข้าไปแทน หลังจากนั้นสองชั่วโมงพื้นที่ข้างในก็พอที่จะให้สองคนเข้าไปได้ ดังนั้น แบกแดด จึงออกมาให้ จางเทีย และ ลิซ กลับเข้าไปอีกครั้ง หลังจากนั้นอีกชั่วโมง แบกแดด ก็เข้าไปข้างในด้วยได้ จากนั้นทั้งสามก็เริ่มทำการขยายโพรงด้วยความเร็วที่เพิ่มขึ้น
ตอนบ่ายหลายกลุ่มที่ผ่านไปมาเห็นโพรงพวกนี้ มีสองกลุ่มจากโรงเรียนแห่งที่สองตั้งใจจะไล่พวก จางเทีย หนีไปแต่เมื่อ ดั๊ก เอาหน้าไม้ขึ้นมายิงให้ดูก็ไม่มีใครกล้าที่จะมาขู่พวกเขาอีกเลย ที่นี่เป็นแค่สถานที่สำหรับพัก ไม่สมควรที่จะมาตายที่นี่
ด้วยการทำงานทั้งบ่ายในที่สุดพวกเขาก็จัดการขยายโพรงด้านบนเสร็จก่อนที่จะตกเย็น ด้วยการแข่งกลับเวลาโพรงด้านบนนั้นจุคนได้แค่ 2 คน การให้คนนอนได้สามคนกับสองคนนั้นต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งสามคนรู้สึกเหนื่อยจนแทบหมดแรง ในที่สุด ลิซ ก็ทนไม่ไหวและให้ ฮิสต้า มาทำแทน แบกแดด และคนอื่นๆต่างก็ทึ่งที่ จางเทีย ยังคงยืนอยู่ได้นานเท่า แบกแดด พวกเขาทึ่งกับ จางเทีย ที่ดูไม่ต่างจากเดิมเลย สำหรับ จางเทีย แล้วเขาได้แสดงความสามารถของนักสู้ระดับ 1 ออกมาและมีแรงมากกว่า แบกแดด นิดหน่อย หลังจากปลุกจุดชีพจนแล้วแรงกายของ จางเทีย นั้นพัฒนาขึ้นอย่างมาก มันปิดกั้นช่องว่างระหว่างคนจีนและคนชาติอื่นๆลง แน่นอนถ้า แบกแดด ปลุกจุดชีพจรขึ้นมาก็คงได้ประโยชน์แบบเดียวกับที่เขาได้ งั้น จางเทีย รู้ว่าเขาคงเทียบไม่ได้แน่ แต่ แบกแดด จะไปปลุกจุดชีพจรเร็วเท่าเขาได้ยังไง ?
หลังจากคิดมาถึงจุดนั้น จางเทีย ก็มั่นใจมากขึ้นว่าจะผ่านการฝึกนี้ไปได้
ในตอนเย็นกลิ่นหอมๆได้ลอยออกมาจากหม้อทำให้ทุกคนรู้สึกหิวขึ้นมา เป็นธรรมดาที่เมื่อ แบร์ลี่ เรียกพวกเขา ทุกคนจะเอาจานของตัวเองออกมาล้อมหม้อนั้นเอาไว้ การเอาอาหารแห้งใส่ถ้วยพร้อมกับน้ำซุปนี่มันช่างเพอร์เฟ็คซะจริง !
ด้านในซุปนั้นมีเนื้อแห้งที่ แบร์ลี่ ใส่เข้าไปด้วยและยังมีเห็ดที่ ชอร์วิน หามา หลังจากต้มมันด้วยเกลือแล้ว พวกเขาก็ได้ซุปที่สุดแสนอร่อยกลับมา
ทุกคนนั้นพอใจอย่างมากกับมื้อเย็นมื้อนี้ พวกเขาต่างก็ล้างจานของตัวเองที่แม่น้ำเล็กๆที่ห่างออกไปไม่กี่สิบเมตร ในตอนที่พวกเขากลับมาก็มานั่งล้อมกองไฟใต้ต้นไม้คุยเรื่องที่จะทำต่อไป
“ ฉันคิดว่าเราต้องใช้อีกวันกว่าจะขยายโพงเสร็จถึงจะมีโพรงที่พร้อมใช้งานได้ อาหารที่เราเอามามีแค่อาทิตย์เดียว สำหรับสองเดือนที่เหลือนั้นเราต้องหาอาหารด้วยตัวเอง คิดจากที่เรากินในหม้อนี้แล้ว ทางทฤษฎีเราควรจะมีอาหาร 1 กก.ต่อวัน “ - แบร์ลี่ พูดด้วยท่าทีเคร่งขรึมพร้อมกับมองไปที่หน้าของทุกคน – “ เพราะการฝึกนี่มันอันตราย เราอาจตายถ้าเราไปหาอาหาร เราต้องคิดมันอย่างซีเรียส ในฐานพี่น้องและกินข้าวมาด้วยกันแล้ว เราจะไม่บังคับให้ใครไปทำที่คนๆนั้นค้าน ฉันจะคิดแผนในการหาอาหาร มาคุยเรื่องนั้นกัน .. “
แบร์ลี่ บอกรายละเอียดต่างๆมา การหาอาหารนั้นบอกถึงเรื่องการหาและการแบ่งให้กับสมาชิกแต่ละคนด้วย ถ้าใครได้อาหารมาด้วยตัวเองงั้นมันก็จะแบ่งตามน้ำหนัก สำหรับของที่หนักไม่ถึง 1 กก. เพราะพวกเขากินหม้อเดียวกัน มันน่าจะถือว่าเป็นอาหารของกลุ่ม สำหรับอาหารที่หนักระหว่าง 1-3 กก. มันจะถือเป็นอาหารสำรอง ซึ่งควรจะเก็บไว้อย่างปลอดภัยและใช้ในตอนฉุกเฉิน เพราะทุกคนต้องกิน ถ้ามีใครในกลุ่มกินเยอะคนอื่นเองก็จะอดอยาก สำหรับอันที่หนักกว่า 3 กก. มันก็ขึ้นอยู่กับคนที่หามันเจอะ พวกเขาสามารถเอามันให้คนอื่น, ใช้ล่อสาวๆ, รึแลกเปลี่ยนของที่ปราสาทได้ คนๆนั้นจะมีสิทธิในการแลกอาหารกับของอย่างอื่นที่คุ้มค่ากัน เครดิตที่แลกก็จะเป็นตั๋วซึ่งเพิ่มมูลค่าไปเรื่อยๆ ยกตัวอย่างเช่น แบร์ลี่ ไอ้อ้วนที่มีสิทธิสองสิทธิเพราะมันเป็นคนก่อตั้งองค์กร
หลังจากที่ แบร์ลี่ ประกาศแผนออกมาแล้ว ทุกคนก็เห็นด้วย มันจริงที่คิดเรื่องรายบุคคลขึ้นมาและการเก็บของที่น่าสนใจด้วย
“
“ ถ้าฉันเอาอาหาร 1 กก. มาส่งทุกวัน ฉันใช้เวลาที่เหลือทำอะไรก็ได้ถูกมั้ย ? “ - จางเทีย ถามขึ้นมา
“ นายสามารถทำอะไรก็ได้แต่ที่ฐานของเราแล้วจากเวลา 8.00-18.00 ของทุกวัน เราต้องมีอย่างน้อยหนึ่งคนที่รับหน้าที่ทำอาหาร อีกอย่างเราต้องเปลี่ยนหน้าที่กันทำงาน คนหนึ่งต้องอยู่ประจำการตั้งแต่ 18.00-00.00 และอีกคนต้องมาแทนที่เขาตั้งแต่ 0.00-8.00 ตราบใดที่น่ายส่งอาหารให้พอและไม่รบกวนคนอื่น นายสามารถทำอะไรก็ได้ในตอนที่ว่าง ! “ – หลังจากอธิบายแล้ว แบร์ลี่ ก็มองมาอย่างสงสัยที่ จางเทีย และยื่นข้อเสนอให้ – “ ไอ้หัวโต มันอันตรายที่ไปคนเดียว เราเป็นพี่น้องกัน เราควรร่วมมือกันเพื่อให้ปลอดภัย ! “
“ สิ่งที่ฉันต้องการน่ะเป็นสิ่งที่พวกนายไม่อยากทำ ! “ - จางเทีย ยิ้ม
แบกแดด ยืดอกขึ้นและตอบกลับ – “ ไม่มีอะไรต้องกลัว ถ้านายอยากสู้กับ เกรซ เราทุกคนจะช่วยนาย “
“ ถูกต้อง ! “ – คนที่เหลือพูดออกมาพร้อมกัน
“ ฉันอยากขุดเหมือง พวกนายยังอยากไปกับฉันมั้ย ? “ - จางเทีย พูดขึ้นพร้อมกับมองหน้าทุกคน เมื่อได้ยินคำพูดเขา ทุกคนต่างก็ทำตาโต
“ ขุดเหมือง ? นายอยากขุดเหมือง ? “ “ - แบร์ลี่ ถามออกมาพร้อมกับอ้าปากค้าง
“ ฉันรู้ว่าพวกนายมองคนที่ไม่สามารถหาอาหารได้ด้วยความสลดเพราะพวกเขาจะไม่สามารถหาอาหารได้พอสำหรับการฝึกแต่ฉันคิดว่าการขุดเหมืองนี่น่าจะสนุก ! “ - จางเทีย กระพริบตาปริบๆแล้วมองไปที่ทุกคน – “ ฉันรู้สึกมาตั้งแต่เด็กแล้วว่าการขุดเหมืองน่ะมันน่าสนใจ ฉันมีโอกาสก็เลยกะจะลองทำดู ! “
“ เพื่อน นายต้องรู้สึกเสียดายที่คิดแบบนั้น ! “ - ฮิสต้า พูดขึ้นมา – “ การฝึกนี้น่ะคือการทดสอบและยังเป็นโอกาสในการได้รับสิทธิในเมือง บางทีอาจจะได้แต่งงานกับสาวๆ ไม่มีผู้หญิงคนไหนหรอกที่ชอบผู้ชายที่ไม่มีปัญญาหาอาหารมาตุนไว้ได้และเนื้อตัวสกปรก คนที่ขุดเหมืองน่ะมีแค่คนโชคร้าย ส่วนมากก็โสดด้วย “
“ เพราะนั่นเป็นความฝันตั้งแต่เด็กของฉัน ฉันก็ยังอยากจะลอง ถ้ามันไม่น่าสนใจฉันค่อยกลับมาก็ได้ ! “
เมื่อได้ยินคำพูดของ จางเทีย ปากของทุกคนก็เบี้ยว พวกเขาหมดคำพุด แม้แต่ แบร์ลี่ เองก็คิดอะไรไม่ออก เพราะ จางเทีย เป็นคนฉลาด ทำไมเขาถึงยังต้องการขุดเหมืองด้วย ? ถึงเขาจะไม่ได้พูดออกมาแต่ตอนเด็กเขาฝันว่าจะเป็นคนเฝ้าประตูต่างหาก
เมื่อเห็นสีหน้าทึ่งของทุกคน จางเทีย ก็ขอโทษในใจ – “ ขอโทษทีพวก ! การฝึกนี้น่ะมีความหมายกับพวกนายต่างกับฉัน สำหรับนายแล้วก็แค่หาอาหารและบางทีอาจจะได้สาวๆกลับไปแต่ฉันมาที่นี่เพื่อรวบรวมพลังงานให้ Castle of Black Iron ฉันไม่รู้ว่าที่ไหนที่ฉันจะหาพลังงานให้มันได้อีก มันยากที่ฉันจะหาโอกาสแบบนี้ได้ในเวลาสั้นๆ “
ก่อนที่การฝึกจะเริ่มขึ้น จางเทีย ได้วางเป้าหมายเพื่อทำให้ Castle of Black Iron แข็งแกร่งขึ้น หลังจากเรียนรู้ผลของ Leakless Fruit และการเอาตัวรอดจากความเป็นความตายมา จางเทีย เข้าใจลึกๆถึงการเปลี่ยนแปลงและความหวังที่ Castle of Black Iron มอบให้กับเขา Castle of Black Iron และต้นไม้เล็กๆนั้นคือมีความลับสองอย่าง หนึ่งคือเกี่ยวข้องกับโชคชะตาของเขา เพราะ Castle of Black Iron และต้นไม้นั้น จางเทีย เลยได้ก้าวขึ้นมาบนเส้นทางที่ต่างจากคนอื่น เทียบกับ Castle of Black Iron และต้นไม้แล้ว พวกอาหารแค่เล็กน้อยนี่ดูจิ๊บจ๊อยไปเลยและการทะเลาะกับคนอื่นเองก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญด้วย
ตอนที่ จางเทีย และคนอื่นๆยังคงคุยกันอยู่ใต้ต้นไม้ ดั๊ก ที่ซึ่งวิ่งไปที่พุ่มหญ้าเพื่อไปเยี่ยวก็ต้องสะดุ้งทำให้ทุกคนในองค์กรนั้นคว้าอาวุธขึ้นมาและวิ่งไปหาเขา แบกแดด และ จางเทีย พุ่งไปข้างหน้าพร้อมกันทำให้ แบกแดด นั้นมอง จางเทีย ด้วยความตะลึง ในตอนที่เข้ามาใกล้ ดั๊ก ทุกคนก็ต้องพูดอะไรไม่ออก.....
ด้วยการที่ปลดกางเกงลง ดั๊ก ได้ร้องออกมาพร้อมกระโดดไปรอบๆและเอามือปิดก้น – “ อ่า ก้นฉัน ! ไอ้บัดซบนั่น .....นี่ให้ฉันขี้หน่อยไม่ได้รึไง ? “
เมื่อเห็นเพื่อวิ่งมาหาเขา น้ำตาก็เริ่มไหลออกมาจากใบหน้าของ ดั๊ก – “ ช่วยด้วย ! เร็วข้า ! มาดูช่วยฉันหน่อย ก้นฉันโดนบางอย่างกัด...ฉันคิดว่ามันเป็นพิษแน่ๆ...ฉันกำลังจะตาย...ช่วยด้วย ! “
ดั๊ก ไม่ดึงกางเกงขึ้นและวิ่งไปหาเพื่อนแล้วล้มลงกับพื้น ในตอนที่ ดั๊ก ล้มลง จางเทีย ก็เห็นรอยเลือดแดงๆตรงก้นของ ดั๊ก
แบกแดด รีบเข้าไปช่วย ดั๊ก พร้อกมับ จางเทีย รีบวิ่งไปยังจุดที่ ดั๊ก เคยอยู่ ไอ้ห่านี่เพิ่งทิ้งทุ่นมา --- มีกองขี้อยู่ตรงนี้ด้วย ในตอนที่ จางเทีย ไปถึงตรงนั้น กลิ่นเหม็นก็แทบทำให้เขาอ้วกแต่เทียบกับชีวิตเพื่อนแล้วกลิ่นนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร จางเทีย ต้องการรู้ให้ได้ว่าอะไรที่กัดเพื่อนเขา ดังนั้นเขาจะได้รักษาได้ถูก
ในตอนที่เขาวิ่งไปตรงนั้น จางเทีย บังเอิญหักกิ่งไม้ไปด้วย ในตอนที่เขาไปถึง จางเทีย ก็กลั้นหายใจและเริ่มหาของที่กัด ดั๊กตอนที่นั่งยองๆ โชคดีที่เขาเห็นแมลงป่องสีฟ้าเทาซึ่งชูหางอยู่ข้างๆทุ่นระเบิด ตอนนี้มันกำลังจะเตรียมโจมตี จางเทีย ทันทีที่ จางเทีย เห็นมัน เขาก็ใจชื้นขึ้นมาแต่กลิ่นนั่นทำให้ จางเทีย ต้องกลิ้งกลับมา เขารีบหักไม้นั้นออกเป็นสองส่วนแล้วคีบแมงป่องขึ้นมา
“ อ่า ! เจ็บจัง ! ฉันกำลังจะตายแล้ว.. เร็วเข้าพวก ! ดูดพิษให้ฉันหน่อย ถ้าไม่งั้นฉันตายแน่ ฉันรู้สึกชาไปครึ่งตัวแล้ว อ่า...ฉันหนาว..เร็วเข้า...อ่า .. “ – ดั๊ก ร้องคร่ำครวญออกมาและมองไปที่หน้าของทุกคนที่ซึ่งแสดงสีหน้าแปลกๆให้กับเขา ก่อนที่ จางเทีย จะกลับมา ทุกคนต่างก็ดูหน้าซีดและมีสีหน้าเคร่งขรึม พวกเขาเหมือนต้องตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ว่าจะดูดพิษที่ก้นของ ดั๊ก ดีรึเปล่า บรรยากาศมันแปลกอย่างมาก พวกเขามองหน้ากันแต่ไม่ได้พูดอะไรออกมา การดูดพิษนี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรแต่คนกันล่ะที่จะเอาปากไปดูดก้น ดั๊ก นั่นมัน.....
ในตอนที่พวกเขาไม่ได้พูดอะไรออกมาและมองไปที่ จางเทีย ที่กำลังจะเดินเข้ามาพร้อมกับแมงป่อง ทุกคนก็รีบเดินเข้าไปหาทันที
“ ไม่ต้องกังวล ไม่ใช่เรื่องซีเรียสอะไร แค่แมงป่องสีฟ้าเทาธรรมดาซึ่งไม่มีพิษแรงอะไร คนที่โดนต่อยเข้าไปจะฟื้นตัวหลังจากพักวันหนึ่ง...... “ - ในตอนที่เขาพูดขึ้นมาก็ชูแมงป่องให้ทุกคนดู อุ๊ป ! ทุกคนรู้สึกผ่อนคลายทันที ในเวลาเดียวกัน ดั๊ก ที่ซึ่งร้องไห้อยู่กับการที่พิษแล่นสู่หัวใจและตัวชาไปครึ่งหนึ่งนั้นก็หุบปากลงทันที
มันเป็นแค่แมงป่องธรรมดามีพิษเล็กน้อย คนที่โดนต่อยเข้าไปจะเจ็บนิดหน่อย อย่างมากก็เคลื่อนไหวไม่ได้ชั่วคราว มันไม่ใช่เรื่องซีเรียสอะไร หลังจากที่ผ่อนคลายแล้วพวกเขาก็ตระหนักบางอย่างได้และด่า ดั๊ก ที่ซึ่งนอนอยู่ตรงพื้นและมองด้วยสายตาหงุดหงิด ไอ้ห่านี่ ! เมื่อคิดถึงตอนที่ ดั๊กบอกอาการ พวกเขาก็ตระหนักได้ว่าเกือบโดนไอ้บ้านี่หลอกเอา ตอนที่รู้เรื่องนั้นพวกเขาหงุดหงิดขึ้นมาทันที....
พวกเขาเดินขึ้นไปข้างหน้าพร้อมกับรอยยิ้มกวนๆ แบร์ลี่ พูดขึ้นมา – “ นายบอกว่ารู้สึกชาไปครึ่งตัวแล้ว ? “
“ กึกๆ ! “ - แบกแดด หักนิ้วแล้วเดินเข้าไปหา - “ นายบอกว่ารู้สึกหนาวนิ.....”
“ พิษแล่นสู่หัวใจเหรอ ? “ – ลิซ ถามพร้อมกับกอดอก
“ นายคิดจะให้เราดูดก้นนายรึไง ? “ - ฮิสต้า ยิ้มกวนๆให้
“ ไอ้โกหก ! “ - ชอร์วิน ตะโกนออกมา
เมื่อเห็นว่ามันผิดปกติ ดั๊ก ก็รีบดึงกางเกงขึ้นและยืนขึ้นทันที เมื่อเห็นว่าไอ้บ้านี่ขยับได้ แม้แต่ จางเทีย ก็ยังขมวดคิ้วและพูดอะไรไม่ออก – “ ดูเหมือนว่ามันจะยังไม่ได้เช็ดตูดนะ มันนี่....นี่...นี่.....สุดยอดจริงๆเลย ! “
“ ฉัน....แค่.......กังวลมากไปหน่อย ตอนนี้ฉันเองก็กังวล ดังนั้นร่างกายเลยรู้สึกผิดน่ะ ! “ - ดั๊ก ลนลาน
“ รู้สึกผิดปกติ ? เราจะช่วยให้มันถูกเอง ฉันจำวิธีได้ เราไม่จำเป็นต้องดูดพิษออก ใช้วิธีปกติเลยแค่อัดแผลแกและช่วยให้พิษไหลออกมาเอง ! “ - แบกแดด พูดพร้อมกับเตะไปที่แผลของ ด๊ำ ทำให้เขาร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ทันทีที่ ดั๊ก จะหนี เขาก็โดน แบกแดด จับเอาไว้ หลังจากนั้นนอกจาก จางเทีย แล้วทุกคนต่างก็พุ่งเข้าไปหาเขา ต่อมา 3 นาที ดั๊ก ที่ซึ่งเพิ่งโดนแมงป่องต่อยมาก็โดนอัดเอาซะเละ.....