spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 70: หุบเขาหมาป่า
“ ตื่น ไอ้หัวโต เราต้องออกไปแล้ว.. ”
เพราะพลังฉีและเลือดที่น้อยทำให้นาฬิกาชีวภาพของเขานั้นเลื่อนออกมาหลายวันแล้ว เช้าวันนี้ไอ้อ้วน แบร์ลี่ ได้ปลุก จางเทีย โดยการจับเขาเขย่า เขาเปิดตาขึ้นมาและตระหนักได้ว่ามันเกือบเช้าแล้ว ดาวดวงสุดท้ายนั้นอยู่ที่ทางทิศตะวันออกไกลออกไป หลังจากใช้เวลาทั้งคืนในการนอนที่พื้นหิน จางเทีย รู้สึกปวดหลังหัวขึ้นมานิดๆ
เมื่อเห็น แบร์ลี่ และ ดั๊ก ตื่นขึ้นมาแล้ว จางเทีย เองก็รีบลุกขึ้นมาจากถุงนอนและเริ่มเก็บของ ยังไม่เช้า แต่พวกหื่นในลานต่างก็ตื่นขึ้นมากันทีละคนๆเพื่อเตรียมพร้อมกับการฝึกที่จะมาถึง
“ ฉันเห็นว่ามีมากกว่าสิบกลุ่มที่ออกไปแล้ว ตอนนี้ถึงตาเราบ้างแล้ว ! ” - ไอ้อ้วนแบร์ลี่ พูดขึ้นพร้อมกับจัดของ
“ นายตื่นเช้าเหรอ ? ” - จางเทีย ที่กำลังม้วนถุงนอนอยู่ถาม แบร์ลี่
“ แน่นอน ฉันตื่นเช้า หลังจากนั้นฉันก็เริ่มนับคนที่ออกไป คนพวกนั้นจะหาทางให้เราและเราก็จะใช้เส้นทางตามพวกนั้น มันคงไม่ดีถ้าเราออกช้ารึสายเกินไป ”
“ ไอ้อ้วนนี่เจ้าเล่ห์แหะ ” - จางเทีย ชมในใจ –
“ แต่มันก็ดีที่มีเขาเป็นพวก ”
จางเทีย ลุกขึ้นมาจากพื้นและมองไปที่ที่พวก เกรซ อยู่เมื่อคืนนี้ ก็อย่างที่เขาคาดสี่คนนั้นหายไปแล้ว ดูเหมือนว่าพกนั้นได้ลงเขาไปนานแล้ว การฝึกเอาตัวรอดนี้คือโอกาสครั้งสุดท้ายของ เกรซ เขาอาจจะกังวลมากกว่าคนอื่นๆก็ได้
สมาชิกทั้งเจ็ดขององค์กรพี่น้องทะยานฝันต่างก็จัดเตรียมของอย่างรวดเร็วและจากนั้นก็ได้ตามเส้นทางของกลุ่มอื่นๆออกจากปราสาทนี้ไป มีเส้นทางหินที่นำไปสู่หุบเขาด้านล่างยาวกว่า 200 ม. เมื่อเดินไปตามเส้นทางที่เลี้ยวไปตามภูเขาในที่สุดพวกเขาก็ได้เข้ามาในหุบเขาสักที มีกลุ่มคนอีกสองกลุ่มมากับพวกเขาด้วยก่อนที่จะแยกย้ายกันเมื่อถึงตีนภูเขา จากนี้พวกเขาต้องเป็นคู่ต่อสู้กัน สถานที่และสิ่งของในหุบเขานี้พวกเขาจะได้มันมาก็คงขึ้นอยู่กับโชคและการต่อสู้
ในวันแรกของการฝึกเอาตัวรอดนั้น การทดสอบแรกของทุกคนคือหาสถานที่เหมาะที่จะพัก
ในป่าแบบนี้สถานที่ที่เหมาะสมนั้นต้องมีเงื่อนไขสามข้อ หนึ่งคือต้องใกล้กับแหล่งน้ำสะอาด อย่างที่สองคือต้องปลอดภัย อย่างที่สามคือสถานที่นั้นต้องสะดวกสบายกับการเก็บอาหารในอนาคต
แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกปลดภัยและอยู่ใกล้แหล่งน้ำถ้าอยู่ใกล้ๆกับปราสาทแต่มันคงยากที่จะหาอาหาร จากประสบการณ์จากรุ่นพี่แล้ว คนส่วนมากเลือกที่จะอยู่ห่างจากปราสาทไป 1-7 กม. พวกคนที่คิดว่าตัวเองเก่งก็เลือกที่ไกลกว่านี้หน่อย
ด้วยขวามือ แบกแดด ได้เคลียร์เส้นทางข้างหน้าพร้อมกับมี ดั๊ก,แบร์ลี่และ จางเทีย ตามมาติดๆ ฮิสต้า และ ชอร์วิน ตามมาด้านหลัง จางเทีย และ ลิซ นั้นอยู่ด้านหลังสุด ทุกคนนั้นต่างก็ถืออาวุธไว้และเข้าไปในหุบเขาอย่างระมัดระวัง ดั๊ก ได้ก้าวขึ้นไปเหยียบอึของสัตว์อสูรเข้า มันน่าจะถูกอึไว้ที่นี่เมื่อคืน ในตอนที่ ดั๊ก ด่าออกมาดังๆ พวกเขาก็ต้องรู้สึกขนลุกขึ้นมาในใจ พวกเขาเตือนตัวเองอีกครั้งว่านี่คือหุบเขาหมาป่าไม่ใช่เมือแบล็คฮ็อต
หลังจากเดินเข้ามาในหุบเขาได้ 200 ม. ชอร์วิน ก็พบกับต้นวินโลว์ เขาเก็บผลของมันและแบ่งให้กับทุกคนแล้วเคียวมันลงไปเพื่อกินน้ำข้างในแล้วใช้มันล้างปาก ในป่านี้พวกเขาต้องใช้ทุกอย่างแบบประหยัด เพราะนี่มันยังเช้าอยู่ทำให้อุณหภูมิที่นี่ยังต่ำ หุบเขานี้มีหมอกบางๆและใบไม้และหญ้าก็ยังคงมีน้ำค้าง หลังจากเดินมาได้สักพักก็พบว่าเสื้อผ้าของเขาเริ่มชื้นขึ้นมา
เสียง ‘ กู๊ๆๆๆ ‘ จากนกที่พวกเขาไม่รู้จักบนต้นไม้ดังขึ้นมาจากไกลๆ จากนั้นหุบเขาก็เงียบลงไปทันที
หลังจากเดินทางได้มา 500 ม.พวกเขาก็พบกับหมาป่าตัวแรก ในตอนที่ แบกแดด โบกขวานอันใหญ่โตเพื่อเคลียร์ทาง หมาป่านั้นได้นอนอยู่ที่หญ้าห่างออกไป 20 ม.ได้ยืนขึ้นมา หลังจากจ้องมาที่พวกเขา มันก็ได้หันหลังกลับแล้วหายไปในป่าก่อนที่พวกเขาจะได้ทำอะไร
สายตาของหมาป่านั้นทำให้ทุกคนจับอาวุธตัวเองแน่นขึ้น
หลังจากเดินมาได้อีก 1 กม. พวกเขาก็พบกับแหล่งน้ำที่กว้างกว่า 5 ม. แม่น้ำนี้ใสซะจนเห็นหินด้านล่าง มีปลาเล็กๆว่ายไปมาตามสาหร่ายด้านล่างด้วย
“ ฉันว่าเราเข้าไปลึกตามแม่น้ำนี่กันเถอะ มันคงดีถ้าเราไปเจอสถานที่ที่อยู่ข้างๆแม่น้ำ ! ” - แบกแดด พึมพำขึ้นมา
“ ได้ !”- ทุกคนเห็นด้วย ดังนั้นพวกเขาจึงเดินไปตามแม่น้ำไปอีก 1 กม.จนผ่านมาถึงเหมืองร้าง รอบๆเหมืองนั้นมีถ้ำมากมายในภูเขา สองกลุ่มได้มาถึงที่นี่ก่อนหน้านี้แล้วและเลือกถ้ำสองอันไป เมื่อเห็นถ้ำที่ดูสมบุณณ์ ดั๊กก็ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย –
“ ทำไมถึงได้มีถ้ำมากมายแบบนี้ได้ ? ”
“ ฉันได้ยินมาว่ามีงูกินทองที่เลื้อยผ่านที่นี่และทำรูพวกนี้ขึ้นมาแต่หลังจากนั้นพวกมันก็โดนมนุษย์กำจัด ผลก็คือมีรูพวกนี้เหลืออยู่ ... ” - ชอร์วิน พูดขึ้นมา
“ ถ้ำของงูกินทอง ? ” – ดั๊ก ถามออกมาอย่างแปลกใจ เมื่อมองไปที่ถ้ำรอบๆที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 1-3 ม. จางเทีย ก็กลืนน้ำลาย เขาพยายามคิดว่างูกินทองนั้นจะมีขนาดเท่าไหร่ ตอนที่เขาคิดเขารู้สึกได้ว่าขาตัวเองอ่อนยวบลงและเขารู้สึกสิ้นหวังเมื่อมองไปที่รูเหล่านั้น
“ แน่นอน นายไม่รู้จริงหรอก ถูกมั้ย ? ” - ชอร์วิน ถามอย่างสงสัย
“ นายรู้ได้ยังไง ? ” - ลิซ หน้าซีดและถามออกมา
“ ฉันอ่านมันมาจากหนังสือในเมือง ... ” - ชอร์วิน ตอบกลับโดยไม่ลังเล –
“ ฉันจำได้ว่างูกินทองจากหุบเขาหมาป่านั้นมีบันทึกไว้มากกว่า 30 ปี มันบอกว่างูพวกนั้นมีอายุกว่าพันปี ตอนนั้นเพื่อที่จะกำจัดมันสมาคมแบล็คซอนต้องลงมือและเอานักสู้ระดับสูงมาจำนวนมาก ด้วยการร่วมมือกันระหว่างกองทัพกับนักสู้ระดับสูง ในที่สุดก็ฆ่าพวกมันหมดได้ หลังจากนั้นเมืองแบล็คฮ็อตก็พบกับเหมืองเหล็กและเหมืองคริสตัลระดับสูง สิบทีต่อมาจนถึงทุกวันนี้เหมืองคริสตัลได้ถูกขุดไปหมดจนกลายเป็นเหมืองไร้ประโยชน์ไปแล้ว ในทางกลับกันเหมืองเหล็กก็ถูกทิ้งไว้เมื่อพบกับเหมืองเหล็กแกร๊ง พวกเขาได้ส่งคนไปที่แกร๊งเพราะแร่ที่นั่นมีราคาสูงกว่าและผลิตแร่เหล็กระดับต่ำได้อีก ดังนั้นเหมืองเหล็กนี่จึงถูกทิ้งร้างเอาไว้ หลังจากที่งูกินทองถูกฆ่าแล้ว จำนวนหมาป่าได้เพิ่มขึ้นอย่างมาก เมื่อเห็นว่ามีหมาป่าจำวนมาก พวกเขาเลยตั้งชื่อที่นี่ว่าหุบเขาหมาป่า... ”
เป็นธรรมดาที่ไม่มีใครในกลุ่มจะรู้เรื่องนี้นอกจาก ชอร์วิน ที่มีเวลาไปอ่านหนังสือพวกนี้ แม้ว่านี่จะเกิดมากว่า 30 ปีแต่มันก็ยังคงเป็นเรื่องน่ากลัวสำหรับพวกเขา
“ แล้วถ้ายังฆ่าพวกมันไม่หมดและยังเหลือพวกตัวเล็กๆอยู่ล่ะ... ” – ดั๊ก พีมพำออกมา
เสียง กู๊ๆ ดังขึ้นมาอีกรอบทำให้พวกเขาต้องกลืนน้ำลาย เมื่อมองไปที่ถ้ำพวกนั้นอีกครั้ง พวกเขาก็ไม่กล้าเข้าไปอยู่ด้านในอีกต่อไป
“ ฉันคิดว่ามันจะดีกว่าถ้าเราเข้าไปลึกอีก ถ้าเราหาที่เหมาะในอีก 2 กม.ไม่ได้ เราก็ควรกลับมา ... ”- ไอ้อ้วน แบร์ลี่ เสนอด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
ทุกคนต่างก็รีบพยักหน้าและแม้แต่ แบกแดด ก็ไม่ได้ขัด เมื่อคิดถึงเรื่องสถานที่นี้ถูกสร้างขึ้นมาโดยงูที่ยาวกว่า 100 ม. มันกินหินได้ด้วยแล้วจะนับอะไรกับพวกเขา
หลังจากออกค้นหาอีก 4 ชม. ทั้งเจ็ดคนก็พบกับสถานที่หนึ่งซึ่งห่างจากปราสาทมา 5 กม. มีต้นเล็บมังกรที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 10 ม.อยู่ใกลๆ ไม่รู้ว่ามันกลายพันธุ์รึเปล่า ต้นไม้นี่เป็นต้นใหญ่ที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเจอมา มันสูงกว่า 50 ม.และด้านบนนั้นก็มีใบไม้เต็มอย่างกับมงกุฎ ก่อนหน้านี้เมื่อเห็นต้นไม้นี้ พวกเขาต่างก็ต้องการที่จะไปพักข้างบนแต่สุดท้ายก็จบที่การต้องหาถ้ำบนต้นไม้ที่สูงจากพื้นดินไป 4 ม. เมื่อปีนขึ้นมาบนต้นไม้ แบกแดด ได้มองเข้าไปข้างในและพบกับสิ่งหน้าแปลกใจ ถ้ำนี้กว้างอย่างมากและจุดคนได้สามคนสบายๆ ที่วิเศษกว่านั้นคือเคยมีคนอยู่ที่นี่มาก่อนแล้วด้วย นี่น่าจะเป็นสถานที่ที่คนซึ่งเคยฝึกอยู่มา ทุกคนต่างก็ตื่นเต้น แต่ละคนปีนขึ้นไปส่องดูข้างในบ้าง โชคดีที่พวกเขาเจออีกถ้ำซึ่งเล็กกว่าอันแรกและจุคนได้คนเดียว มันสูงจากพื้นไป 7 ม. ว่าจะมีสองถ้ำแต่ต้นไม้นี้ก็เขียวชอุ่ม แต่ถึงยังไงไม้ข้างในนั้นก็เน่าแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะโดนฟ้าผ่ามาเพราะได้กลิ่นไม้เน่าอยู่ข้างในถ้ำพวกนี้อยู่
“ ทำไมไม่เปลี่ยนมันเป็นสถานที่ที่จุเรา 7 คนได้เลยล่ะ ? ” - คำพูดของ ลิซ ทำให้ทุกคนคึกคัก ตอนนี้มันจุได้ 4 คนและดูไม่ใช่เรื่องยากที่จะจัดการมันใหม่ ดังนั้นทุกคนจึงเริ่มลงมือกันทันที
รูที่จัดแจงใหม่นั้นมีสองขั้นตอน ขั้นตอนแรกคือขยายพื้นที่ของสองรูนี่ให้ได้มากที่สุด โพรงด้านล่างนั้นน่าจะจุได้ 4 คน, อุปกรณ์,อาหาร ส่วนรูด้านบนน่าจะขยายให้ได้มากที่สุด ถ้าขยายให้ใหญ่พอกับโพรงด้านล่างแล้วงั้นมันก็สามารถจุคนได้เพิ่มีอก 3 คนและพวกเขาก็สามารถพักอยู่ข้างในนี้ได้
หลังจากขยายพื้นที่โพรงแล้ว พวกเขาก็ได้มาถึงขั้นที่สอง ทำโพรงสองอันนี่ให้มีเส้นทางเป็นรูปตัว N อย่างน้อยๆ 2 รึ 3 คนก็สามารถนอนตรงเส้นทางนี้ได้ ดังนั้นพวกเขาจะได้ไม่ต้องกลัวเมื่อหลับอยู่ข้างในโพรงนี้
เพราะพวกเขาได้เรียนทักษะช่างไม้อยู่โรงเรียนและไม่จำเป็นต้องทำให้มันออกมาดูดี พวกเขาจึงทำเรื่องแบบนี้ได้สบายๆ
แบบแดด โบกขวานไปมา ส่วน จางเทีย และ ลิซ นั้นก็ได้ใช้พลั่วอเนกประสงค์ของตัวเอง เศษไม้ปลิวว่อนไปทั่วทุกที่ ใช้เวลากว่า 2 ชม.กว่าพวกเขาจะทำโพรงด้านล่างเสร็จ
เมื่อเห็นเศษไม้ข้างในโพรง แบร์ลี่ ก็ตะโกนออกมา – “ อ่า อย่าโยนมันออกมา ไม้แห้งๆใช้เป็นฟืนได้ เราจะได้ไม่ต้องกังวลเรื่องขาดฟืนได้หลายอาทิตย์เลย... ”
ทุกคนต่างก็หัวเราะกันออกมา....