spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 64: มนุษย์เครื่องคิดเลข
ก็อย่างที่คาดไว้ด้วยราคาธัญพืชกับน้ำตาลที่สูงขึ้นทำให้ยอดขายเบียร์ข้าวนั้นลดลง แม้ว่าราคาที่เพิ่มขึ้นมาจะไม่ได้ส่งผลต่อการปรับเปลี่ยนค่าเงินแต่สำหรับคนชั้นล่างของเมืองนั้นมันส่งผลอย่างมากต่อการดำรงชีวิต เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะได้รับผลจากการขึ้นราคาครั้งนี้ แม้ว่าครอบครัวจางจะเพิ่มราคาเบียร์ข้าวมาแค่ 1 ทองแดงแต่การที่เพิ่มราคาขึ้นมาถึง 20% นั้นเป็นเรื่องยากสำหรับใครบางคนที่จะยอมรับได้
เมื่อเห็นผู้หญิงจีนจูงมือลูกที่กลืนน้ำลายตอนเดินผ่านร้านไป จางเทีย ก็ได้แต่ฝืนยิ้มอย่างขมขื่น ในอดีตนั้นเด็กนี่มักจะมากินเบียร์ข้าวเป็นประจำแต่เพราะราคาที่เพิ่มขึ้นมาทำให้แม่เด็กไม่มีตัวเลือกนอกจากต้องลากลูกเดินหนีไป สำหรับคนธรรมดาอย่างพวกเขาแล้วราคาที่สูงขึ้นมานั้นไม่ได้ส่งผลต่อแค่ราคาเบียร์ข้าวแต่ยังส่งผลต่อสิ่งของต่างที่ใช้ในการดำลงชีวิตอย่างน้ำมันและเกลือ แม้ว่ามันจะเป็นแค่ส่วนเล็กๆแต่มันก็ทำให้คนธรรมดาหลายคนรู้สึกไม่ดีอยู่
เพื่อนบ้านได้ยืมรถสามล้อน่าเกลียดของครอบครัวจางไปซื้อธัญพืช ในสองวันที่ผ่านมานี้มีหลายคนได้มายืมรถนี่ พี่สะใภ้บอกว่าเธอน่ะอึดอัดนิดหน่อยตอนเช้า แม่ของเขาเองก็เริ่มกังวลและพาเธอที่โรงพยาบาลแล้วทิ้ง จางเทีย ไว้บ้านคนเดียว ในร้านเบียร์ข้าวนั้น จางเทีย เบื่อกับการที่ต้องคอยไล่แมลงวันไปมา
เขานั่งเหม่อลอยคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ในตอนนั้นเองก็คิดบางอย่างที่น่าสนใจขึ้นมาได้...
เพราะพลังวิญญาณที่เพิ่มมากกว่าเดิม 7 เท่า จางเทีย ตระหนักได้ว่าการคิดเลขในใจที่เขาติดอยู่มานานกว่าสองอาทิตย์ได้พัฒนาขึ้นอย่างมาก เมื่อวานนี้ใช้เวลานานกว่าเขาจะทำการจำลองลูกคิดสามแถวขึ้นมาได้ ภาพของลูกคิดนั้นยังไม่คงที่และเขาไม่สามารถใช้มันคำนวนได้อย่างรวดเร็ว เขาไม่สามารถใช้มันคำนวณสิ่งต่างๆในชีวิตประจำวันได้ น่าแปลกใจที่มันพัฒนาขึ้นมากในเช้าวันนี้
ตอนนี้ลูกคิดสีทอง 7 แถวได้โผล่ขึ้นมาอย่างคงที่ในความคิดของ จางเทีย ลูกคิดในหัวของเขาขยับขึ้นลงเองและแสดงผลลัพธ์ออกมา
36 x 98 ? 3528 !
1269 + 9621 ? 10890
639/12 ? 53.25 !
362 x 125 ? 45250 !
98564 /125 ? 788.512 !
……
ในอดีตนั้น จางเทีย จำเป็นต้องใช้ลูกคิดเพื่อหาคำตอบแต่ตอนนี้เขาสามารถรู้คำตอบได้ทันทีที่เห็นคำถาม หลังจากฝึกสักพัก จางเทีย ก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องใช้ลูกคิดอีกต่อไป หลังจากที่ใช้ลูกคิดมานานกว่า 2 ปี ในที่สุด จางเทีย ก็ตระหนักได้ว่าการคำนวนนั้นส่งผลดีขนาดไหน เขาไม่รู้ว่าหนังสือนี่มาจากไหนแต่ จางเทีย ไม่เชื่อว่าเด็กประถมคงเทียบเท่าความเอาจริงจังกับการมีพลังวิญญาณเหมือนเขาได้ ประโยชน์จากการมีพลังวิญญาณที่เพิ่มขึ้นมาทำให้เขารู้ถึงผลของการคิดเลขในใจเพราะเขาสามารถรู้คำตอบของเลข 7 หลักได้ทันที อีกอย่าง จางเทีย ตระหนักได้ว่าการคิดด้วยลูกเต๋านั้นง่ายแค่ไหน ระหว่างที่ทำเรื่องแบบนี้ จางเทีย ขายเบียร์ข้าวได้หลายถ้วยอยู่.....
“ ฉันสามารถคำนวณได้เร็วกว่าคนที่ทำงานในธนาคารซะอีก ! “ - จางเทีย ตื่นเต้นขึ้นมา เขาไม่คิดว่าพลังวิญญาณที่เพิ่มขึ้นมานั้นจะช่วยเขาคิดเลขในใจได้มากขนาดนี้ จางเทีย มั่นใจว่า ดอนเดอร์ ต้องอึ้งถ้าเห็นการพัฒนาของเขา
เพราะเขาคิดเลขในใจได้เก่งขึ้นมาทำให้เขาคิดบางอย่างออก บางทีนี้คือวิธีที่คนใช้ลูกคิดในตอนแรกๆ ? เมื่อนานมาแล้วคนจะมีพลังวิญญาณที่แข็งแกร่งและสามารถใช้มันคำนวนในใจได้อย่างง่ายดายแต่หลังจากนั้นพลังวิญญาณพวกเขาก็ลดลงและยากที่จะคิดเลขในใจได้อีก ดังนั้นบางคนจึงตัดสินใจที่จะสร้างสิ่งของขึ้นมาเพื่อแทนการคิดในใจ หลังจากนั้นหลายแสนปีในตอนที่ทุกคนชินกับการใช้เครื่องมือคิดเลขแล้ว ก็มีคนตระหนักได้ว่าการคำนวณนี้สามารถคิดในหัวได้และสามารถแทนด้วยสิ่งของจำลองที่คิดขึ้นมาได้ ผลก็คือเขาได้ทำหนังสือนี่ขึ้นมาซึ่งเป็นสิ่งสะท้อนการคิดคำนวนนี้...
ถ้าเขาเดาถูก งั้นเขาก็เป็นแค่คนเดียวที่เชี่ยวชาญการคำนวณนี้อย่างแท้จริง จางเทีย ไม่รู้ว่าการคำนวณนี้จะพัฒนาได้ไปถึงไหน เขาจำที่ ดอนเดอร์ บอกเขาไว้ครั้งหนึ่งเกี่ยวกับอาจารย์ที่อยู่ด้านทิศตะวันตกที่ชื่อ ‘ ผู้ทำนาย ‘ ซึ่งได้คำนวณสิ่งที่เรียกว่า ‘ ยี ‘ การคำนวณนี้ไม่ได้คำนวณตัวเลขแต่เป็นการคำนวณโชคชะตาของคนผ่านการเปลี่ยนแปลงของสวรรค์และโลก งั้นการคิดเลขโดยใช้ลูกคิดนี่เกี่ยวข้องกับ ‘ ยี ‘ ด้วยรึเปล่า ?
ในตอนที่ จางเทีย คิดอยู่นั้น แม่และพี่สะใภ้ของเขาก็ได้กลับมาถึงบ้าน ทันทีที่ลูกคิดในหัวนั้นพังทลายเขาก็วิ่งไปหาทั้งคู่ – “ แม่ พี่สะใภ้เป็นอะไรงั้นเหรอ ? “
หลังจากที่พูดคุยกันแล้ว จางเทีย ก็ตระหนักได้ว่าเขาถามคำถามโง่ๆออกไป พี่สะใภ้หน้าแดงเล็กน้อยและแม่ก็มองมาที่เขาด้วยท่าทีหงุดหงิดแล้วเอานิ้วดีดหน้าผาก – “ มีอะไร ? ไปทำข้าวเที่ยงได้แล้ว... “
……
ในตอนบ่าย ก็อย่างเช่นเคย จางเทีย ได้ช่วยแม่ของเขาทำเบียร์ข้าวแต่ครั้งนี้มันต่างจากเดิม พี่สะใภ้นั้นมาช่วยพวกเขาด้วย ผลก็คือพวกเขาทำเสร็จเร็วกว่าแต่ก่อน หลังจากกินมื้อเที่ยงเสร็จ เพื่อนบ้านก็ได้เอาจักรยานสามล้อมาคืนและ จางเทีย ก็เลยปั่นมันไปที่ร้านค้าเพื่อซื้อข้าวและน้ำตาล ก็อย่างที่คาดไว้ราคามันสูงขึ้นมาอีกนิดหน่อย คิดจากยอดขายที่ลดลงไปของเบียร์ข้าวอาทิตย์ที่แล้ว เขาจึงซื้อข้าวมาแค่สองถุง เขากลับมาบ้านและเห็นว่าแม่เขากำลังสอนพี่สะใภ้เกี่ยวกับเรื่องทำยีสต์อยู่
“ ยีสต์นี่แหละคือกุญแจหลักที่จะตัดสินรสชาติ ครอบครัวจางของเขาน่ะทำยีสต์เองและเราก็เก็บไว้ในเหยือกแล้วรอให้มันเย็น เราเตรียมยีสต์ไว้สองเหยือก หนึ่งไว้ใช้อีกอันไว้หมักไว้ก่อน ในตอนที่เหยือกแรกใช้เกือบหมด เราก็เพิ่มน้ำและผลไม้และเปลือกข้าวลงไปแล้วเปิดมันทุกวัน เขย่ามันให้เข้ากับอากาศด้วย หลังจากนั้นหนึ่งอาทิตย์เบียร์ข้าวถังใหม่ก็พร้อมกิน เราจะตักยีสต์ที่หมักไว้สองช้อนลงไปในแต่ละถัง ลองชิมดูสิ ยีสต์นี่อร่อยมากเลยนะ จางเทีย ก็เคยแอบกินมันมาก่อน... “ – จางเทีย จำเรื่องนี้ได้อยู่แล้ว เขาไม่ได้สนใจสิ่งที่แม่เขาพูดตั้งแต่แรกแล้วแต่แม่เขากลับทำให้เขาเสียหน้าต่อหน้าพี่สะใภ้ ในตอนที่ฟังแม่เขาพูด จางเทีย นั้นกำลังคิดถึงบางอย่างอยู่
ยีสต์----เบียร์ข้าว ---
การเปลี่ยนแปลงของยีสต์ ---- การเปลี่ยนแปลงของเบียร์ข้าว ---- ?
จางเทีย จำได้ว่ามีตัวเลือกใน Castle of Black Iron ที่ทำให้ทุกสิ่งมีชีวิตกลายพันธุ์และเปลี่ยนแปลงได้ และเขาเคยลองกับมันฝรั่งที่งอกมาก่อน เขายังไม่ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของมัน เขาเกือบลืมมันไปเลย เขาดูแม่สอนมีสะใภ้ในการทำยีสต์ จางเทีย ก็ตระหนักบางอย่างขึ้นมาได้ ถ้าเขาช่วยให้ยีสต์กลายพันธุ์เพื่อที่จะใช้ทำเบียร์ข้ราวแล้วรสชาติของเบียร์ข้าวจะพัฒนาขึ้นมั้ย ? ถ้าเป็นแบบนั้นมันคงช่วยยอดขายของร้านเขาเพิ่มขึ้นไปอีก
หลังจากคิดสักพัก จางเทีย ก็รู้สึกว่าวิธีนี้มันต้องได้ผล อย่างน้อยๆเขาก็ต้องลองดู – “ ครอบครัวจางน่ะได้ใช้วิธีเดิมในการทำเบียร์ข้าวมากว่า 20 ปี แล้วทำไมไม่ลองเปลี่ยนวิธีดูบ้าง ? ไม่เห็นมีอะไรจะเสียนิ ! “
เมื่อคิดแบบนั้น จางเทีย ก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที ตกเย็นเขาหาเหยือกสะอาดๆในครัวแล้วแอบเติมยีสต์ไปครึ่งหนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็เอามันกลับขึ้นไปบนห้องและรีบเข้าไปยัง Castle of Black Iron เขาเปิดตัวเลือก ‘ การจัดการสิ่งมีชีวิตและสายพันธุ์ ‘ ขึ้นมา เขาเลือก ‘ การจัดการสิ่งมีชีวิตและสายพันธุ์ที่เกี่ยวข้องกับคาร์บอน ‘ และเลือก ‘ จุลินทรีย์ ‘ หลังจากที่เลือกขวดยีสต์แล้วเขาก็ได้ใช้ค่าออร่า 300 หน่วย, ค่าความดี 5 หน่วย, และพลังงานอีก 0.1 หน่วยใส่มันลงไป นี่คือจุดเริ่มต้นของการกลายพันธุ์ของยีสต์