หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 63: Fruit of Brilliance

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 63: Fruit of Brilliance

สองอาทิตย์ก่อนตอนที่พี่ชายเขาคุยเรื่องโจรผ้าพันคอแดงตอนกินข้าว  จางเทีย  รู้สึกว่าเขาฟังเรื่องนี้ผ่านๆ สำหรับ จางเทีย แล้วโจรที่เป็นองค์กรอย่างโจรผ้าพันคอแดงได้ปลูกฝังความกลัวให้กับคนในพันธมิตรอันดามันและฆ่าคนที่ไม่เกี่ยวข้องไปมากมาย  ในความคิดของ จางเทีย แล้วแม้ว่ากลุ่มโจรนี้จะสร้างปัญหาให้กับอาณาเขตของพันธมิตรแต่พวกเขาไม่ได้ยุ่งเกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้ด้วย

ในตอนที่ประกาศเคอร์ฟิวในเมืองขึ้นมา จางเทีย รู้สึกว่าชีวิตของเขาโดนลิดรอนนิดหน่อยแต่เขากังวลเรื่องพี่ชายเขามากกว่า  เขาหวังว่าพี่ชายเขาคงไม่ไปเจอกับพวกนั้น

โจรผ้าพันคอแดงนั้นมีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วพันธมิตรเพราะมีคนมากมายที่ตายเพราะพวกนี้  12 ปีก่อนโจรผ้าพันคอแดงได้ฝ่าเข้าไปในเมืองบาโรเก้และทำการฆ่าคนที่นั่นจนทำให้ทุกคนเกิดความกลัวขึ้นมาฝังใจ  หลังจากที่ทำการฆ่าเสร็จเมืองอันสวยงามที่มีคนอยู่มากกว่า 100,000 คนได้พังพินาศ  พวกนั้นฆ่าทุกคนที่มันเจอไม่ว่าจะเป็นผู้ชายรึผู้หญิง,แก่รึเด็กและแม้แต่สัตว์อย่างไก่,หมาก็ไม่เว้น  ในที่สุดเมืองนั้นก็กลายเป็นเมืองร้าง

พวกโจรนั่นทำให้ทุกคนกลัว แม้ว่าโจรพวกนั้นจะมีไม่ถึงพันคนแต่โดยเฉลี่ยแล้วแต่ละคนฆ่าคนไปมากกว่า 100 คนในเหตุการณ์ในเมืองนั้น....

สมาชิกทุกคนในกลุ่มโจรผ้าพันคอแดงนั้นจะสวมผ้าแดงปิดหัวเอาไว้ในตอนที่ลงมือ  นอกจาสมาชิกไม่กี่คนที่เป็นที่รู้จักกันดีจากคดีต่างๆ ตัวตนของคนอื่นๆนั้นยังไม่อาจทราบได้  ดังนั้นรัฐบาลจึงไม่สามารถที่จะเข้าจับกุมคนที่เหลือได้  อีกอย่างพวกนั้นจะลงมืออย่างรวดเร็วแล้วหายไปทันทีที่ทำภารกิจเสร็จ  บางครั้งพวกนั้นจะโผล่มาใหม่ซึ่งทำให้คนต่างก็วิตกกังวลอย่างมาก

จางเทีย ไม่คิดว่าเขาจะไปเกี่ยวข้องกับองค์กรที่น่ากลัวแบบนี้ นี่เขาฆ่าพวกมันไปแล้วสองคนด้วย

จางเทีย นั่งอยู่ที่พื้นสักพักก่อนที่จะรวบรวมสติขอตัวเองได้  หลังจากนั้นเขาก็วิ่งไปที่ศพของ สเนซ และถอดเสื้อออก  เขาเจอกับผ้าคลุมที่รักแร้ซ้ายเหมือนกัน

“ เหี้ยแล้วไง  เตะครั้งนี้คือที่แกซวย เตะนี้เพื่อเลือดของฉัน ไอ้ห่านี่ แกรู้สึกดีรึไงที่ฆ่าคนน่ะ ? “ – เมื่อคิดเรื่องที่เขาเกือบโดนโจรผ้าพันคอแดงฆ่าเอา ความกลัวก็เปลี่ยนกลายเป็นความหงุดหงิดและรังเกียจแทน เขาเตะศพของ สเนซ มากกว่า 10 ครั้ง

หลังจากระบายอารมณ์แล้ว จางเทีย ก็รู้สึกดีขึ้นกว่าเดิมเยอะ โจรผ้าพันคอแดงเหรอ ? แล้วไง ! มาลองดูกันว่าแกจะจัดการฉันได้รึเปล่า !

“ ถุย ... “ - จางเทีย ถ่มน้ำลายรดศพของ สเนซ  จากนั้นก็ได้ลากศพของ สเนซ ไปไว้ข้างๆกับบ่อ  เขารู้สึกว่าลากศพของ สเนซ นี่มันง่ายยิ่งกว่าของ ฮัค เยอะเลย

หลังจากที่พักสักแป็ป จางเทีย ก็ใช้เวลากว่า 5 นาทีที่จะเอาศพของ สเนซ ไปไว้ใกล้ๆบ่อ  เขาใช้แรงที่เหลือโยนศพลงไปในบ่อแห่งความวุ่นวายซึ่งทำให้มันจมลงช้าๆ  จางเทีย หันกลับมาและใช้เวลาเกือบ 10 นาทีกว่าจะเอาศพของ ฮัค มาไว้ใกล้ๆบ่อได้  หลังจากที่ใช้แรงที่เหลือผักศพ ฮัค ลงไป  โจรผ้าพันคอแดงสองคนก็ได้หายไปจากโลกนี้ตลอดกาล

หลังจากนั้นเขาก็ได้วิ่งกลับไปโยนของที่เคยเป็นของพวกนี้ลงไปในบ่อ รวมถึงกระเป๋าใส่ยา,กระเป๋าตัง,เสื้อผ้าและกล่องที่เก็บคริสตัล   จากนี้ไปโจรผ้าพันคอแดงสองคนได้หายไปจากโลกและไม่ได้มีร่องรอยของสองคนนั้นอีกแล้ว

จากนั้น จางเทีย ก็เริ่มผ่อนคลายขึ้น – “ จากนี้เป็นต้นไป ใครจะไปรู้ว่าสองคนนี้หายไปจะเกี่ยวข้องกับฉันได้ ? “

เขาเปิดค่าสเตตัสของ Castle of Black Iron ขึ้นมาดูทันที

——Castle of Black Iron

——ความยาว: 1 Krosa

——ความกว้าง: 1 Krosa

——ค่าออกร่า : 328

——ค่าความดี: 2122

——พลังงานที่กักเก็บ: 43.7

——ผลลัพธ์พิเศษ : ไม่มี

ก็อย่างที่คาดค่าออร่ากับค่าพลังงานนั้นเพิ่มขึ้น ไม่กี่วันที่ผ่านมานั้นต้นไม้ได้งอกออกมาได้ดีเลย  ค่าออกร่านั้นต้องเพิ่มขึ้นอยู่แล้วแต่ค่าความดีนี่เกือบทำให้ จางเทีย ต้องกลัว มันเพิ่มขึ้นตั้ง 2,000 หน่วยได้ยังไง ? จางเทีย เปิดบันทึกขึ้นมาดูเหตุผลทันที

----- สำหรับพระเจ้า  คุณได้ฆ่า สเนซ และ ฮัค ที่ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับโจรผ้าพันคอแดง  คุณได้ทำการลงโทษปิศาจและเผยความเมตตาของพระเจ้าให้โลกใบนี้  คุณได้ทวงคืนความยุติธรรมให้หลายคนที่โดนพวกนี้ฆ่า ผลก็คือค่าวความดีได้เพิ่มขึ้น 2048 หน่วย

เขาอ่านมันแล้วรู้สึกว่าเขาทำสิ่งที่ถูกต้องแล้วที่ฆ่าไอ้ห่าสองคนนี่

หลังจากที่ปิดหน้าต่างสเตตัสแล้ว จางเทีย ก็ได้เดินไปที่ต้นไม้อีกครั้ง  เขารู้สึกสลดจิงๆเกี่ยวกับการรอ Leakless Fruit มาทั้งอาทิตย์ เขาอยากให้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับมันกันแน่

Leakless Fruit จะสุกและมีผลใหญ่พอๆกับลูกพีนัช  ที่ห้อยอยู่ตอนนี้คือผลเหี่ยวที่ดูน่าสงสาร  จางเทีย เอื้อมมือออกไปแตะมันและมีคำพูดโผล่มาตรงหน้า

----- Leakless Fruit ได้หยุดการเติบโต หลังจากที่เลือดและพลังคีของเจ้าของได้ฟื้นฟูแล้ว มันจะทำการเติบโตต่อไป

จางเทีย เดาว่าพลังงานทั้งหมดของเขาอาจจะใช้ในการผลิตเลือดอยู่  ตามสภาพร่างกายของเขาตอนนี้แล้ว น่าจะใช้เวลาอีกหลายวันกว่าจะฟื้นตัวมาได้เต็มที่  บอกเลยว่า Leakless Fruit น่าจะสุกในอีก 10 วันให้หลัง

เหี้ย ! เขาด่า ฮัค กับ สเนซ ออกมาอีกครั้ง ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องเมื่อคืน เขาคงพัฒนาขึ้นไปได้มากจากผลของ Leakless Fruit

เขาไม่มีตัวเลือกอื่นนอกจากต้องรอ !

หลังจากนั้น จางเทีย ก็ได้เช็คที่ผล Iron Body Fruit  ลูกนี้เหมือนจะเพิ่งโต มันโตได้แค่ 1 ใน 5  ถ้าเขาต้องการที่จะเร่งความเร็วมัน เขาต้องหาโอกาสไปโดนอัดแบบรุ่นแรง

ในตอนที่ จางเทีย หันหลังกลับและเตรียมที่จะออกจาก Castle of Black Iron อยู่ๆเขาก็เห็นบางอย่างส่องประกายที่หางตาของเขาที่ต้นไม้

“ นั่นมันอะไร ? ” - จางเทีย เดินกลับไปไปที่อีกด้านของต้นไม้  ในด้านตรงข้ามกับ Leakless Fruit เขาเห็นว่ามีแสงสีทองส่องประกายออกมาจากใบไม้

หลังจากที่เดินวนได้ครึ่งรอบ จางเทีย ก็เหยียดมือออกมาปัดใบไม้พวกนั้นออก  น่าแปลกใจที่เขาพบกับผลไม้ห้อยอยู่ตรงนั้น  มันส่องประกายสีทองออกมา  มันกลมราวกับลูกผลัและมีผิวสีทองที่อร่าม  แม้ว่ามันจะไม่ได้มีกลิ่นหอมเหมือน Leakless Fruit และ Iron Body Fruit แต่ผลไม้นี่ดูวิเศษกว่าสองผลนั้น

เมื่อเห็นผลไม้นั่น จางเทีย ถึงกับลืมหายใจ  เขาไม่รู้จริงๆว่าผลไม้นี่จะสุกตอนไหน

แม้ว่าเขาจะไม่รู้แต่เขาก็พอตรวจสอบมันได้  ทันทีที่เขาเอื้อมมือออกไปก็ได้มีหน้าต่างคำพูดโผล่มาตรงหน้าเขา

----- Fruit of Brilliance สุกแล้ว  การใช้ : เก็บและกินโดยตรง  เตือน : ผลไม้เอาออกจาก Castle of Black Iron ไม่ได้ หลังจาก 12 ชม.ที่เด็ดออกไป พลังงานและความคงทนของมันจะหายไป

เหมือนกับมันรู้ว่า จางเทีย สงสัย ได้มีหน้าต่างอีกอันโผล่ขึ้นมา

-----  ลำแสงนี้แน่นอนว่าจะถูกใช้หลังจากการตายของเหล่าคนบาป  วิญญาณของเหล่าคนบาปจะกลับไปยังดินแดนมืดมิด ส่วนลำแสงของวิญญาณจะยังคงอยู่  ลำแสงนี้เกิดจากผู้สร้างและไม่อาจทำลายได้  ลำแสงนี้เป็นของมนุษย์ผู้กล้าที่เผยแพร่คำสอนของพระเจ้า  ในฐานะนักสู้ผู้กล้าหาญที่ทำการใช้ดาบกำจัดปิศาจ คุณได้รับลำแสงนี้เป็นรางวัล  ลำแสงวิญญาณนี้จะสถิตอยู่กับคุณทำให้คุณแข็งแกร่งขึ้น

จางเทีย กลืนน้ำลายอยู่สองรอบ – “ ลำแสงศักดิ์สิทธิ์ ? แรงขับเคลื่อนวิญญาณ ? นี่มันคืออะไร ? “ - แม้ว่า จางเทีย จะสับสนแต่เขารู้แน่นอนแล้วว่า Fruit of Brilliance เป็นของที่สุดยอด อีกอย่างลำแสงวิญญาณพวกนี้อาจจะได้มาจาก ฮัค กับ สเนซ   แม้ว่า จางเทีย จะไม่รู้ว่าสองคนนั้นแข็งแกร่งแค่ไหนแต่เขารู้สึกได้ว่าคงไม่น้อยกว่า กัปตันเคอร์ลิน เลย  จะมีความแข็งแกร่งแบบนั้นอยู่ในผลไม้นี้ด้วยรึเปล่า ?

“ ฉันรวยแล้ว ฉันรวยแล้ว !  “ - หัวใจของ จางเทีย เต้นรัวขึ้นมาอีกครั้ง  เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วเอามือตบหน้าตัวเองเพื่อบอกว่าตัวเองไม่ได้ฝันไป   เขาเด็ดผลไม้นั่นลงมาราวกับจับเพชร  แน่นอนว่าเขากินมันก่อนที่จะรวบรวมสติตัวเองได้ด้วยซ้ำ  จากประสบการณ์ในการกิน Leakless Fruit  เขาจึงกินผลไม้นี้อย่างระมัดระวัง   จางเทีย นั่งขัดสมาธิอยู่ใต้ต้นไม้  จากนั้นก็กัดเข้าไปตรงๆ....

ทันทีที่เขากัดเข้าไป จางเทีย รู้สึกว่าเหมือนได้ยินเสียงบางอย่างดังขึ้นในสมองของเขา หลังจากนั้นเขาก็หมดสติไป

สิ่งที่เกิดหลังจากนั้นเหมือนกับความฝัน  ในฝันนั้นเขารู้สึกว่าร่างกายของเขานั้นโปร่งใสไร้น้ำหนัก มีหมอกสีเหลืองหม่นวนเวียนอยู่รอบๆในสมองของเขา  หลังจากนั้นหมอกสีเหลือทองก็ได้หนีจาก Fruit of Brilliance เข้ามาในปากของเขา หมอกสีทองนั้นรวมกับหมอกอันเดิมในสมองเขา  ในเวลาเดียวกันความรู้สึกดีที่เขาไม่เคยรู้สึกมาก่อนก็ปะทุขึ้นมาในวิญญาณ  ความรู้สึกนี้ปะทุขึ้นมาจากส่วนลึกที่สุดของหัวใจทำให้ จางเทีย รู้สึกสบายและสงบ  ในตอนนั้นหมอกสีทองได้พุ่งอออกกมาจาก Fruit of Brilliance และรวมกับหมอกอันเดิมของเขา ผลก็คือหมอกอันเดิมของเขานั้นหนาแน่นและกว้างขึ้นพร้อมกับที่สว่างขึ้นด้วย  มันเปลี่ยนสีจากสีทองหม่นกลายเป็นสีทองบริสุทธิ์...

หลังจากนั้นสักพักการเปลี่ยนแปลงก็ได้หยุดลง  หมอกที่อยู่ในสมองของเขาได้เปลี่ยนไปอย่างมาก ทั้งปริมาณและความหนาแน่น  ทางด้านปริมาณนั้นมันได้ขยายตัวออกมาอย่างน้อย 7 เท่า  ถ้าหมอกอันเดิมแทนเป็นดินสอ งั้นหมอกสีทองตอนนี้คงเป็นต้นไผ่สีทอง   ในด้านคุณภาพนอกจากจะสั่นไหวมากกว่าเดิม หมอกนี่ยังเต็มไปด้วยพลังคีที่มีชีวิตชีวาและพลังมากกว่าเดิม...

เขาลืมตาขึ้นมาด้วยความแปลกใจ  เขาตระหนักได้ว่า Castle of Black Iron นั้นแตกต่างจากแต่ก่อน  มีสีมากมายแสดงอยู่ในตาของเขา และจมูกของเขาก็เหมือนจะรับกลิ่นได้ดีกว่าเดิม  กลิ่นของดินดูเหมือนจะชัดเจนขึ้นและทั้งโลกก็ดูชัดเจนสำหรับเขามากขึ้น

เขาลุกขึ้นมาจากพื้นแล้วขยับแขนขาตัวเอง  เขารู้สึกว่าได้ร่างกายใหม่มาและทุกเซลล์ในร่างกายเหมือนกับอยากตะโกนออกมาด้วยความสุข

เกิดอะไรขึ้น ? แล้วหมอกสีทองนั่นมันอะไร ?

เขาปิดตาลงแล้วเปิดตาขึ้นใหม่พร้อมสีหน้าแสดงอาการตกใจ  ในที่สุดเขาก็รู้ว่า Fruit of Brilliance ทำอะไรได้และหมอกสีทองนั่นคืออะไร  หมอกสีทองคือพลังวิญญาณในหัวของเขา ก่อนหน้านี้เขายังอ่อนแอจนไม่อาจสัมผัสได้ถึงพลังวิญญาณของตัวเองแต่ตอนนี้เขาสัมผัสมันได้  ลำแสงวิญญาณนั้นเป็นตัวแทนของพลังวิญญาณ  ความจริงคือต้นไม้นี้ได้ใช้พลังวิญญาณของสองคนนั้นเปลี่ยนมาเป็น Fruit of Brilliance    Fruit of Brilliance นั้นใช้เพิ่มพลังวิญญาณ  เพราะพลังวิญญาณของพวกนั้นมากกว่าของ จางเทีย สามเท่า การกิน Fruit of Brilliance เข้าไปนั้นทำให้เขารู้สึกได้ว่าพลังวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นจากเดิมถึง 6 เท่า....

หลังจากที่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น จางเทีย ก็มองไปที่ต้นไม้นั่นด้วยความตะลึง..

ในอดีตนั้นเขาไม่รู้ว่าการมีพลังวิญญาณนั้นจะมีประโยชน์อะไรนอกจากช่วยปลุกจุดชีพจร เขาเองก็ไม่ได้เรียนรู้อะไรเกี่ยวกับมันมากและเกือบไม่มีโอกาสรู้เรื่องนี้เลยด้วยซ้ำแต่หลังจากที่พลังวิญญาณของเขาเพิ่มขึ้นมา 6 เท่า เขาก็ตระหนักได้ว่าเขาสามารถทำการบ่มเพาะได้ดีกว่าเดิม  เมื่อใช้เวลาเท่าเดิม เขาสามารถทำผลลัพธ์ได้ดีกว่าแต่ก่อน   นี่คือประโยชน์ที่ทำให้ จางเทีย พอใจอย่างมาก   เขาสัมผัสได้รวดเร็วขึ้นและกว้างขึ้น   นี่คือของขวัญที่ดีที่สุดจากพระเจ้าก่อนที่จะเริ่มการฝึกเอาตัวรอด !

“ ฉันมาแล้ว ไอ้การฝึกเอาตัวรอด ! “

จางเทีย ตะโกนออกมาดังๆ.....

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.