spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 61: โชค
ระหว่างทางไปคลับก็ปลอดภัยดี ในตอนที่เขามาถึงในตอนบ่ายก็ยังไม่ได้มีลูกค้าอยู่ในพื้นที่บริการระดับ 1 ดังนั้น จางเทีย เลยตัดสินใจใช้เครื่องออกกำลังที่ไม่มีในโรงเรียนก่อนเพราะตอนนี้ร่างกายของเขาก็พอฟื้นตัวขึ้นมาบ้างแล้ว จางเทีย ตั้งใจที่จะทดสอบสมรรถภาพร่างกายตัวเองดูว่าเขากับ เกรซ นั้นต่างกันมากเท่าไหร่แต่สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ทำแบบนั้น เขากังวลว่ามันอาจจะสร้างปัญหาให้กับเขาถ้าเรื่องที่เขาเป็นนักสู้ระดับ 1 แพร่กระจายออกไป อีกอย่างเขาเพิ่งฆ่าคนสองคนเมื่อคืนและดูเหมือนจะเกี่ยวกับเรื่องใหญ่ซะด้วย เพราะแบบนั้นเขาน่าจะทำตัวไม่ให้สะดุดตา เขาย้ำตัวเองเสมอ – ‘ พวกที่ทำตัวเด่นน่ะตายก่อน ‘ เกรซ น่ะตัวอย่างที่ดีของคำพูดนี้ เมื่อเขาตระหนักได้ว่าตัวเขาเก็บความลับหลายอย่าง จางเทีย ไม่อยากทำผิดพลาดซ้ำแบบ เกรซ ทำ ดังนั้นแล้วเขาจึงตัดสินใจที่จะซ่อนตัวตนที่แท้จริงเอาไว้ให้ได้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้
พระเจ้าใช้เวลากว่าหมื่นปีกว่าจะสร้างต้นโอลีฟขึ้นมาได้แต่ถั่วน่ะมีวงจรชีวิตแค่อาทิตย์เดียว
“ ฉันอยากเป็นต้นโอลีฟนั่น “ - จางเทีย พึมพำกับตัวเอง
เพราะเขาอยู่ในคลับมาตลอดทั้งบ่าย มีอาหารมื้อเย็นให้ด้วย อาหารที่ที่ทำงานให้มานั้นก็ถือว่าดีกว่าที่โรงเรียนให้วันนี้เยอะ
ทันใดนั้น จางเทีย ก็ตระหนักได้ว่าเขากินอาหารครบ 3 มื้อซึ่งถือว่าเป็นความฝันที่เขามีตั้งแต่เด็ก เขาไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าวันนี้ฝันของเขาได้เป็นจริงแล้ว
นี่คงเป็นคำพูดโบราณสินะที่ว่า ‘ เมื่อหลบจากอันตรายได้จะได้รับผลตอบแทนอันหอมหวาน ‘ ?
หลังจากที่กินข้าวเสร็จ จางเทีย ก็รู้สึกว่าเขาฟื้นตัวขึ้นมาอีกนิด หลังจากที่พักอีกหนึ่งชั่วโมง เบเน็ต ก็ได้มาถึง...
ก็อย่างเช่นเคย จางเทีย โดนอัดอย่างหนักหน่วงแต่ครั้งนี้หลังจากที่เอาตัวรอดจากเรื่องอันตรายมาได้เมื่อคืน จางเทีย นั้นดูใจเย็นมากกว่าเดิมเมื่อเจอกับการโจมตีของ เบเน็ต เขาไม่ได้รู้สึกกังวลเลยสักนิดและตอบโต้ได้เร็วยิ่งกว่าเดิมทั้งร่างกายและจิตใจ จางเทีย สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกยิ่งกว่าเดิม การมีจิตใจที่เข็มแข็งกว่าทำให้ จางเทีย ซ่อนข้อเสียเปรียบทางร่างกายไว้ได้และทนยื้อไว้ได้จนจบ ครั้งนี้เขาไม่ได้น็อครึหมดสติเลย
หลังจากที่สู้จนหมดแรง จางเทีย และ เบเน็ต ก็นอนราบไปกับพื้นพร้อมกับหอบ เมื่อเห็นท่าทีหยิ่งของ เบเน็ต จางเทีย ก็มองไปที่อีกฝ่ายอย่างชื่นชม ไม่ว่าครอบครัวรึเด็กนี่จะเป็นยังไงแต่ จางเทีย ก็เริ่มที่จะชอบเด็กนี่เพราะความไม่ยอมแพ้ จางเทีย ตระหนักได้ว่าพวกรวยๆน่ะอาจจะไม่ได้ทำตัวฟุ่มเฟือย, หยิ่งทะนงและโง่เหมือนที่คนธรรมดาคิด พวกนั้นต้องมีลักษณะบางอย่างรึนิสัยบางอย่างเป็นของตัวเองเหมือนกับคนธรรมดา
“ นายก็ไม่เลวนิ “ - เขาดื่มน้ำพร้อมกับส่งน้ำอีกขวดให้กับเด็กนั่น หลังจากที่ทำงานมาหลายวันในที่สุดเขาก็รู้วิธีถอดหมวกห่านี่สักที ระหว่างเขากับเด็กนั่นดูเหมือนจะมีความเข้าใจกันขึ้นเล็กน้อย
“ อย่าคิดว่าฉันจะยอมง่ายๆเพราะนายชมฉันละกัน ! “ – เบเน็ต ที่ตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อแสยะยิ้มและมองมาที่ จางเทีย – “ ฉันไม่ได้ใสซื่อมานานแล้ว เพื่อสักวันจะได้แต่งงานกับ แมรี่ แน่นอนว่าฉันจะเอาชนะนายให้ได้ สำหรับฉันแล้วนายมันก็แค่บันไดที่ต้องข้ามไป โชคชะตานายมีแต่ต้องโดนอัด ! “
ไอ้เหี้ยนี่ ! เมื่อได้ยินคำพูดนั้น จางเทีย อยากจะลุกขึ้นมาอัดมันจริงๆ หลังจากนั้นสักพัก จางเทีย ก็ยืนขึ้นและมองไปที่เด็กนั่น – “ ฉันจะเข้าการฝึกเอาตัวรอดอาทิตย์หน้า งั้นนายคงไม่ได้เห็นฉันอีกกว่า 2 เดือน ฉันหวังว่าทักษะการต่อสู้ของนายจะพัฒนาขึ้นตอนฉันกลับมา ! “
“ อย่าตายห่าก่อนซะล่ะ ไม่งั้นแล้วฉันคงทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับ แมรี่ ไม่ได้ ! “ – เด็กน้อยสวนกลับ
ทั้งสองคนมองหน้ากันด้วยความหงุดหงิดก่อนที่ จางเทีย จะเดินออกไป จนกระทั่ง จางเทีย ได้ออกจากห้องฝึกไป เบเน็ต ถึงเพิ่งจะรู้ว่า จางเทีย น่ะฟื้นตัวเร็วกว่าเขา !
……
จางเทีย ออกจากคลับต่อสู้แต่ไม่ได้กลับไปที่บ้านทันที เขาไปที่ร้านของ ดอนเดอร์ ใกล้ๆกับสถานี ในตอนที่ จางเทีย มาถึง ดอนเดอร์ ที่ซึ่งเตรียมที่จะปิดร้านก็เห็น จางเทีย และพึมพำออกมา ดูเหมือนว่าเขาจะบ่นเรื่อง จางเทีย เมื่อวานนี้อยู่
“ คนแก่นี่สนเรื่องเก่าๆด้วยเหรอ ? “ - จางเทีย หัวเราะกับท่าทีของ ดอนเดอร์
จางเทีย ไม่ได้พูดอะไรตอบกลับสักคำ เขาแค่ช่วย ดอนเดอร์ ปิดหน้าต่างและประตูกับทำความสะอาดร้าน หลังจากนั้นก่อนที่ ดอนเดอร์ จะพูดอะไรออกมา จางเทีย ก็เข้าไปกอดอีกฝ่ายแน่นๆซึ่งทำให้ ดอนเดอร์ ตกใจสุดๆ
“ ไอ้เด็กนี่ แกทำอะไรวะ ! ปล่อยได้แล้ว ฉันไม่ชอบผู้ชายโว๊ย ! “ - ดอนเดอร์ ตะโกนออกมาดังๆ
จางเทีย ปล่อยอีกฝ่ายแล้วมองด้วยสายตาจริงใจ – “ ขอบคุณ..... “
ถ้าไม่มีของสองอย่างที่ ดอนเดอร์ ให้มา เขาคงตายไปเมื่อคืนแล้ว ดังนั้นเขาจึงขอบคุณ ดอนเดอร์ อย่างมาก
“ ขอบคุณเรื่องอะไร ? ไม่ใช่ว่าเมื่อคืนแกสนุกหรอกเหรอ ? ผู้หญิงนั่นรู้สึกยังไง ? “ – ดอนเดอร์ ทำท่าทางใจเย็น
จางเทีย เกาหัวอย่างอายๆ – “ ผมยังซิงอยู่ ! “
“ แกไม่ได้ไปหาผู้หญิงหรอกเหรอเมื่อคืนนี้ ? “ - ดอนเดอร์ เริ่มสงสัยและถามขึ้นมาทันที
“ ก็ไป ! “ - จางเทีย ตอบความจริงออกไป
“ แกไม่ได้ทำ ? “
“ ทำได้ครึ่งนึง ! “
“ เบา ? “
“ แรง แรงมากด้วย ! “
“ แล้วเกิดอะไรขึ้น....”
จางเทีย กระซิบสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างอายๆ
“ ฮาฮาฮา... “ – ไอ้อ้วนหัวเราะออกมาเกือบกลิ้นไปกับพื้น เขาดีใจอย่างมาก หลังจากหัวเราะได้สักพัก ดอนเดอร์ ก็ปาดน้ำตาและตบไหล่ จางเทีย – “ เด็กน้อย ฉันสอนอะไรแกไป ? อย่าทำตัวหยิ่งเกินไป ! ไม่งั้นแล้วแกจะโดนเอาคืน ! ถ้าแกขอให้ฉันช่วยแต่แรก แกก็จะไม่มีปัญหาในเรื่องนี้ มันคงน่าเสียดายถ้าแกตายทั้งๆที่ยังซิงอยู่ ! “
“ ผมไม่ตายง่ายๆหรอกน่า ! “- จางเทีย พูดขึ้นอย่างมั่นใจ เขารู้สึกมั่นใจในคำพูดของเขา จางเทีย จ้องไปที่อีกฝ่ายสักพัก – “ ผมมาบอกคุณ ผมจะไม่ได้มาที่นี่ในอีก 2 เดือน ! “
ดอนเดอร์ ยิ้มและโบกมือให้ – จริงแล้วหลังจากฝึกเสร็จแกไม่ต้องมาที่นี่แล้ว นี่ก็เกือบถึงเวลาที่แกจะเริ่มชีวิตใหม่ของแก มีหลายอย่างที่แกต้องไปจัดการ นี่ยังไม่รวมเรื่องที่ฉันสอนแกไป ถ้าแกมาที่นี่แกคงไม่ได้ประโยชน์อะไรอีก แต่ ! ถ้าแกมีเวลา แกมาหาฉันคุยกับฉันได้ตลอด ! “
……
ในตอนที่ออกจากร้าน ดอนเดอร์ เพื่อกลับไปที่บ้าน จางเทีย รู้สึกว่าเขาโตขึ้นมาก ร้านชำเล็กๆและโรงเรียนนั้นดูเหมือนจะหายไปจากชีวิตเขา สิ่งที่รอเขาอยู่คือความลึกลับและโลกภายนอกกำแพง...
“ ไปดูดีกว่าว่า ฮัค กับ สเนซ ทิ้งอะไรให้ฉันบ้าง ! “
เมื่อคิดแบบนั้น จางเทีย ก็เร่งความเร็วขึ้นและวิ่งกลับบ้านทันที ..
ก็อย่างเช่นเคย ตอนนี้มันก็ดึกแล้วในตอนที่เขากลับมาถึงบ้าน จางเทีย ผลักประตูเข้าไปและได้กลิ่นซุปไก่หอมๆลอยออกมา
ไม่รู้ว่าแม่เขายังโกรธเรื่องเมื่อคืนอยู่รึเปล่าเพราะเธอไม่ได้พูดอะไรกับ จางเทีย เลยในตอนที่เขากลับมา แม่เขากลับไปที่ห้องนอนแล้ว มีแต่พ่อที่รอเขาอยู่ด้วยใบหน้าที่ขมขื่น
“ ซุปไก่อยู่ในหม้อ กินเสร็จแล้วรีบไปนอน ! “ – พ่อพูดขึ้นอย่างเย็นชาก่อนจะเดินจากไป
หลังจากที่กินและล้างถ้วยชามเสร็จ จางเทีย ก็กลับไปที่ห้องตัวเอง
ทันทีที่เขากลับมาที่ห้อง จางเทีย ก็เข้าไปใน Castle of Black Iron
----- ยินดีต้อนรับเจ้าของปราสาทสุดหล่อเหลาและวิเศษสู่ Castle of Black Iron !
คำพูดอันคุ้นเคยได้หายไป จางเทีย สูดลมหายใจเข้าลึกๆและเดินไปที่ศพสองศพ ตั้งแต่ที่เขาแบกพวกนี้มา เขาก็ไม่ได้เช็คของในตัวพวกนี้เลย เพราะมันเพิ่งผ่านไปแค่วันเดียวศพเลยยังไม่ได้เน่าซึ่งทำให้ จางเทีย เริ่มรู้สึกสบายใจ
เขาเดินไปที่ศพของ สเนซ จางเทีย ดึงมีดออกจากตัวของ สเนซ เมื่อวานเขากังวลว่าเลือดจะไหลออกมาถ้าเขาดึงมีดออกซึ่งทำให้ยากที่จะจัดการเรื่องต่างๆ เพราะนี่มันผ่านไปแล้ววันหนึ่ง เลือดคงไม่พุ่งออกมาจากศพแล้ว
แม้ว่าทั้ง สเนซ และ ฮัค นั้นจะตัวเริ่มดำขึ้นมาแต่พวกนี้ก็ไม่ได้ดูน่ากลัวอีกต่อไป สารหนูน่ะส่งผลอย่างรวดเร็ว ก่อนที่พวกนี้จะรู้ตัวสารหนูก็เริ่มทำงานและฆ่าพวกเขาแล้ว มันเร็วซะจนทำให้สีหน้าของทั้งคู่แสดงความกลัวออกมา
“ พวกแกอยากฆ่าฉันก่อน งั้นคงโทษฉันไม่ได้ ฉันก็แค่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไป.. “ - จางเทีย ภาวนาให้เงียบๆ หลังจากนั้นเขาก็ค้นตามศพ สเนซ ก่อน เขาจำได้ว่า สเนซ มีกระเป๋าตังที่เต็มไปด้วยเงิน หลังจากที่ได้เห็นเมื่อคืน จางเทีย สลัดเรื่องนี้ออกจากหัวไม่ได้เลย