spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
Chapter 59: การเปลี่ยนแปลงที่น่าทึ่ง
ก่อนที่คำพูดนั้นจะหายไป จางเทีย ก็ได้ร่วงลงไปกอง..
“ สุดหล่อห่าอะไร ! ฉันเกือบโดนฆ่าเหมือนหมู เพราะสองคนนั้นมันไม่ฆ่าฉัน แน่นอนว่าฉันต้องฆ่าพวกมัน “ - จางเทีย ประกาศออกมาในใจ
แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่าตัวเองอ่อนแอแต่เขาก็ยังพอวิ่งได้ ในตอนที่เขาโผล่ขึ้นมาใน Castle of Black Iron เขาก็วิ่งไปที่กล่องเก็บของทันที
ข้างในกล่องนั้นมีอาวุธสองอย่างที่ ดอนเดอร์ ให้มาคือสารหนูและมีด นอกจากเข็มพิษแล้วตัวมีดเองก็มีพิษงูเคลือบเอาไว้
แม้ว่ามันจะเสี่ยงแต่ จางเทีย ก็ตัดสินใจที่จะลองดู
ระยะห่างระหว่างที่เขาโผล่ขึ้นมาใน Castle of Black Iron กับกล่องนั้นห่างกันแค่ไม่กี่ก้าวแต่ในตอนที่เขาไปถึงกล่อง จางเทีย ก็ต้องหอบและมือของอ่อนแรงลงอย่างมาก เขารีบเอาสารหนูและมีดออกจากกล่อง จางเทีย นั่งยองๆลงไปแล้วสูดหายใจลึกๆสองครั้ง หลังจากนั้นเขาก็ใช้เวลากว่า 10 วินาทีก่อนจะล็อคประตูไปที่หว่างคิ้วอีกครี้ง
ออก !
ต่อมา จางเทีย ก็โผล่มาในห้องนอนอีกรอบนั่งยองๆอยู่ที่เตียง
หลังจากที่เขาเข้าออกปราสาทอยู่หลายวัน จางเทีย เห็นว่ามันมีรูปแบบในตอนที่เข้าถึงมัน – เขาจะโผล่ออกมาในที่เดียวกับที่เขาเข้าไป
ข้างนอกนั้นยังคงเสียงดังอยู่ ดูเหมือนว่าการสืบสวนคงไม่จบลงง่ายๆ ดังนั้น จางเทีย เลยสูดลมหายใจเข้าลึกๆแล้วลุกขึ้นมาจากเตียงด้วยแรงอันน้อยนิดที่มี เขาก้มตัวแล้วเดินไปที่หน้าจานข้าว หลังจากที่มองไปที่แก้วและจานที่วางไว้ เขาก็เอาสารหนูออกมาแล้วเปิดขวดเหล้าออกแล้วรีบเทลงไปครึ่งหนึ่ง เขาเทส่วนที่เหลือลงในซุปและคนทั้งเหล้าและซุปให้เข้ากับสารหนู จากนั้นเขาก็กลับไปที่เตียงแล้วโยนขวดสารหนูเปล่าๆนั้นลงในกระเป๋า เขาดึงมีดออกแล้วจับมันไว้แน่น ใต้ตัวของเขาทำท่าว่าเขายังไม่รู้ตัว ...ก็อย่างที่ ดอนเดอร์ บอกเขาไว้ สารหนูพวกนี้ฆ่าช้างได้กว่า 20 ตัว จางเทีย ไม่เชื่อว่าสองคนนั่นจะแข็งกว่าช้าง 20 ตัวได้
กังวล เขากังวลจริงๆ....
เขาหลับตาลงอีกครั้ง จางเทีย รู้สึกใจเต้นรัวอย่างกับกอง เขากังวลอย่างมากและคอยหายใจเข้าลึกๆ จางเทีย ย้ำในใจตัวเองตลอด – ใจเย็นๆ ใจเย็นๆไว้ !
……
จางเทีย ค่อยๆใจเย็นลงเรื่อยๆเมื่อพูดคำนั้นในใจ นี่คือวิธีที่โรงเรียนสอนมา
จางเทีย รอจนกว่า ฮัค กับ สเนซ จะกลับมาห้องและทำว่าไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ...
ฮัค และ สเนซ ยืนอยู่ด้านนอกห้องกว่า 3 นาทีก่อนที่เจ้าของโรงแรมจะมาหาพวกเขาพร้อมกับทหาร หลังจากที่เช็คชื่อและถามนิดหน่อย หลังจากนั้น ฮัค และ สเนซ ก็มองหน้ากัน ทั้งคู่รู้ว่ามันหมายความว่าไง ปกติแล้วพวกทหารจะไม่ค่อยตามจับคน เท่าไหร่ ไม่มีใครจะคิดว่าไอ้อ้วนที่เป็นทหารจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในเหตุการณ์เพลิงไหม้
ในตอนที่สองคนกลับมาที่ห้อง จางเทีย นั้นนอนอยู่ที่เตียงได้ไม่ถึง 1 นาที ทุกอย่างยังคงเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เปลี่ยนแปลงและอาหารนั้นยังคงร้อนอยู่ซึ่งทั้งสองคนก็ทำการกินอาหารต่อไป
ฮัค ดื่มเหล้าเข้าไปและ สเนซ ก็กินซุปร้อนๆเข้าไปนิดหน่อย
จางเทีย ที่นอนอยู่บนเตียงนั้นใช้หางตามองทั้งคู่ ในตอนที่ ฮัค กระดกเหล้าคำโต จางเทีย ก็กำมีดแน่นขึ้นกว่าเดิม เขาไม่กล้ามองไปที่ สเนซ เพราะเขาจะรู้ตัวถ้ามีคนจ้อง
จางเทีย กังวลอย่างมาก เขากลัวว่า สเนซ จะไม่ได้กินอาหารที่มีพิษอีก เมื่อเห็นอาการของ ฮัค แต่หลังจากนั้นไม่กี่วินาที จางเทีย ก็เริ่มเบาใจขึ้นมาเมื่อเห็นว่า สเนซ กินซุปไปเต็มช้อน ดังนั้นเขาจึงจับมีดไว้แน่นกว่าเดิมอีก..
หนึ่งนาทีหลังจากที่ ฮัค ดื่มเหล้าเข้าไป...
“ ฉันรู้สึกอึดอัด.. “ - ฮัค พูดขึ้นพร้อมกับทำสีหน้าหม่นๆ เขาผงะถอยหลังลงไป และล้มลงไปที่เก้าอี้
“ ฮัค ! “- สเนซ อุทานออกมา ในเวลาเดียวกันเขาก็รู้สึกอึดอัดและเห็นว่ามีบางอย่างเคลื่อนไหวที่เตียงด้านหลัง
ในตอนที่ ฮัค ล้มลงไป จางเทีย ก็ลืมตาขี้นมา ในตอนนั้นเอง จางเทีย ขยับตัวเพียงเล็กน้อยเขาก็สามารถใช้มีดได้อย่างง่ายดาย
แม้ว่า จางเทีย จะพยายามไม่ทำให้เกิดเสียงแต่ สเนซ ก็ยังเห็นอยู่ดี สเนซ หันกลับมามองที่ จางเทีย ในตอนที่ จางเทีย เองก็จ้องกลับ ตอนนั้นเขาแปลกใจที่ ฮัค ล้มลงไป เขาดึงมีดออกมาโดยสัญชาตญาณและพุ่งเข้าหา จางเทีย แล้วใช้มีดแทงเข้าที่คอของ จางเทีย เหมือนกับงูพิษที่แลบลิ้นออกมา .....
เพราะได้เตรียมตัวรับมือกับการโจมตีของ สเนซ ไว้แล้ว จางเทีย แค่เคลื่อนไหวแค่เพียงครั้งเดียว – เขากลิ้งลงจากเตียงเพื่อหลบการโจมตีครั้งแรกจาก สเนซ...
สเนซ แทงไปที่ จางเทีย ที่ซึ่งนอนอยู่บนเตียง จากนั้นหน้าเขาก็ซีดลง เขาหยุดและพยายามที่จะเขวี้ยงมีดเข้าใส่ จางเทีย แต่ในเวลาเดียวกัน จางเทีย ก็กดปุ่มที่มีดตัวเองปล่อยเข็มพิษยิงเข้าใส่ต้นขาและน่องของ สเนซ พิษงูบนเข็มนั้นทำให้ สเนซ ชาไปทั่วตัว ผลก็คือมือของเขานั้นไม่สามารถขยับได้อีก จางเทีย กระโดดขึ้นจากพื้นแล้วใช้มีดแทงเข้าไปที่หัวใจของ สเนซ
สเนซ นั้นล้มไปนอนกับพื้นแต่ไม่ได้ตายทันที เขามองมาที่ จางเทีย ด้วยตาที่เบิกกว้างพร้อมกับมุมปากที่พยายามจะพุดบางอย่าง – “ ทะ....ทำไม... “
มีหลายคำถามในหัวของ สเนซ เขาคิดไม่ออกว่าทำไมเด็กที่ซึ่งควรที่จะอยู่ในอาการโคม่าถึงได้ฟื้นตัวได้เร็วขนาดนี้ เขาไม่รู้ว่ามีดอาบพิษนี่มาจากไหน เขาจำได้ว่าเขาค้นตัวเด็กนี่แล้วและไม่พบอะไร ทำไม ? ทำไมมันถึงจบลงแบบนี้....
สเนซ ตายไปด้วยตาเบิกกว้างทั้งๆที่ยังไม่ได้คำตอบ
จางเทีย คุกเข่าลงที่พื้นแล้วหอบหายใจสักพักก่อนที่จะสามารถฟื้นตัวได้จากอาหารมึนและการขาดเลือด ต้นไม้เล็กๆใน Castle of Black Iron มีอำนาจทุกอย่าง แม้แต่ตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้ฟื้นแรงขึ้นมาเต็มที่ ตอนนี้ จางเทีย รู้สึกหมดแรง เขาเหลือแรงแค่เพียงน้อยนิด หน้าผากของเขานั้นชุ่มไปด้วยเหงื่อเหมือนกับเพิ่งวิ่ง 10 กม.มาเสร็จ ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เขาได้เผชิญกับเรื่องอันตรายที่สุดในชีวิตที่เขาเจอมา
สุดท้าย จางเทีย ก็รอดมาได้ ส่วน ฮัค และ สเนซ นั้นกลายเป็นศพไป
จางเทีย คุกเข่าอยู่ที่พื้นทำการปรับลมหายใจตัวเอง เขารีบคิดถึงวิธีในการจัดการศพ จางเทีย รู้ว่าเขาต้องตัดสินใจเรื่องที่อันตรายอย่างมากซึ่งมันอาจทำให้เขาตายได้ถ้าเขาไม่ตัดสินใจดีๆ ดังนั้น จางเทีย จึงต้องคิดอย่างระมัดระวังและไม่ให้เหลือร่องรอยใดๆทิ้งไว้
จางเทีย คิดถึงการจัดการสิ่งแปลกๆที่เกิดขึ้นในห้อง ที่อยู่ข้างๆเขาตอนนี้คือศพสองศพที่ตอนนี้ตัวเริ่มเปลี่ยนเป็นสีดำ ส่วนเขานั้นคุกเข่าอยู่กับพื้นอย่างกับรูปปั้น เขายังเหลือเวลาสักพักเพราะข้างนอกห้องนั้นยังคงมีเสียงเอะอะโวยวายอยู่ ทหารคงยังไม่ได้ออกไปจากโรงแรมนี่
3 นาทีต่อมาหลังจากที่ฟื้นตัวมาได้เล็กน้อย จางเทีย ก็ลุกขึ้นยืน หลังจากที่ยืนยันแล้วว่า ฮัค ตายแล้วจริงๆ เขาก็เลิกคิดที่จะใช้มีดแทงอีกรอบ เขาดึงศพของ ฮัค ไปไว้กับ สเนซ หลังจากนั้นเขาก็ค้นทั่วทุกมุมของห้องและเจอกับของพวกนั้น หลายวินาทีต่อมาเขาก็ก้มตัวลงไปกอดศพของ สเนซ เอาไว้แล้วหายไปพร้อมกับกระเป๋าที่อยู่บนไหล่
1 นาทีต่อมา จางเทีย ได้กลับมาอยู่ในห้องอีกครั้ง ครั้งนี้เขาเอาผ้าคลุมกันน้ำมาห่ออาหารใส่ผ้านั่นแล้วห้อยไว้ที่แขน เขาเดินไปหา ฮัค และนั่งยองๆกอดศพนั่นไว้ มากกว่า 10 วินาทีต่อมา จางเทีย ก็ได้หายไปอีกรอบ
ครั้งนี้เขาใช้เวลามากกว่าเดิม หลังจากนั้นประมาณ 10 นาที จางเทีย ก็กลับมาโผล่ที่ห้องด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด...
เมื่อกลับมาในห้อง จางเทีย ได้เปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเอง เพราะตัวของ สเนซ นั้นมีขนาดพอๆกับเขา จางเทีย เลยใส่ชุดของมันแทนพร้อมกับใส่ผ้าคลุมซึ่งทำให้เขาดูเหมือนนักผจญภัยขึ้นมา หลังจากที่ทำแบบนั้นเสร็จเขาก็มองไปรอบๆห้อง
---- เลือดในอ่างล้างหน้า ทำความสะอาดเลือดของเขากับเลือดของ สเนซ โดยใช้ผ้าเช็ดตัวในห้องน้ำ
---- จัดเก้าอี้ที่ล้มอยู่ที่พื้นใหม่
--- จัดเตียงดีๆ
----- ยืนยันว่าไม่มีหลักฐานอะไรเกี่ยวข้องกับเขา, ฮัค , และ สเนซ แล้วออกจากห้อง
เขาถึงกับเช็คมันอีกรอบ บางครั้ง จางเทีย ก็รู้สึกว่าตัวเองน่ะโชคดี ในที่สุดตอนที่เช็ครอบที่สอง เขาได้หยิบผมสีดำหลายเส้นขึ้นมาจากเตียง
ก่อนที่เขาจะออกจากห้อง จางเทีย ได้โยนผ้าเช็ดตัวที่ชุ่มไปด้วยเลือดนั้นใส่กระเป๋าและมองไปรอบๆห้องเป็นครั้งสุดท้าย จริงๆแล้วเขาทำห้องสะอาดยิ่งกว่าบริกรซะอีก
เขาพยักหน้าขึ้นในใจ จางเทีย ใส่เสื้อผ้าของ สเนซ แล้วเอาฮู้ดปิดหน้าไว้เพื่อไม่ให้คนอื่นจำเขาได้ เขาเร่งความเร็วขึ้นแล้วเดินออกจากโรงแรมไป คนส่วนมากข้างในนี้คงคิดว่าเขาเป็น สเนซ นี่คงเป็นเบาะแสสุดท้ายของ สเนซ ในโลกนี้
ในตอนที่เขาออกมาเขาได้ชำเลืองมองไปที่นาฬิกาที่แขวนอยู่ในโรงแรม ตอนนี้ได้เวลา 11.52 อีก 8 นาทีก่อนจะเคอร์ฟิว
ทหารนั้นเพิ่งออกไป ทุกคนต่างก็ทำตัวปกติ
จางเทีย แอบออกจากโรงแรมมา เขาเอาผ้าเช็ดตัวชุ่มเลือดนั้นห่อหินไว้แล้วโยนมันลงไปที่บ่อน้ำทิ้งข้างๆถนน ผลก็คือหลักฐานได้ถูกกำจัดแล้ว จากนั้น จางเทีย ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก
หลังจากทำทุกอย่างเสร็จ จางเทีย ก็ได้เลือกเส้นทางที่ไม่มีโคมไฟและเดินตรงกลับไปที่บ้าน ในตอนนั้นเขาเริ่มคิดถึงเรื่องจะตอบคำถามแม่ในตอนที่เขากลับไปถึง นี่เป็นครั้งแรกที่เขากลับบ้านดึกขนาดนี้
……
“ หยุด ! “ – เสียงอันน่ากลัวดังขึ้นมา มันทำให้ จางเทีย ตกใจเพราะเขาแอบเดินอยู่ในมุมมืด ทหารได้ส่องไฟมาที่หน้าของเขาซึ่งเผยให้เห็นหน้าเต็มๆ เพราะแสงจากโคมไฟนั้น จางเทีย จึงไม่สามารถที่จะเปิดตาได้ เมื่อได้ยินเสียงคันธนูถูกถึงออกมารอบๆตัว จางเทีย ก็รีบยกมือขึ้นแล้วอยู่นิ่งๆทันที
“ นายมาทำอะไรที่นี่ ? “ - ทหารอายุประมาณ 20 ปีเดินตรงเข้ามาหา จางเทีย พร้อมกับดาบที่คาดไว้ที่เอว เขาระวังตัวอย่างมากจนกระทั่งเห็นว่านี่คือ จางเทีย ที่ซึ่งหน้าซีดและไม่ได้พกอาวุธใดๆ
“ ผม...จะกลับบ้าน ! “ - จางเทีย ติดอ่างเล็กน้อย จางเทีย เห็นว่าเขาโดนทหารมากกว่า 10 คนล้อม เมื่อเผชิญหน้าธนูของพวกนั้น จางเทีย ไม่กล้าขยับเลยสักนิด เขาเพิ่งหนีจาก ฮัค กับ สเนซ มา และมันคงไม่คุ้มที่จะทำให้ตัวเองโดนทหารพวกนี้ฆ่า
“ กลับบ้าน ? ทำไมดึกขนาดนี้ ? “ – ทหารได้ถามมาอีกรอบ
“ ผม...ออกไปเที่ยวมาและลืมเวลา ! “
“ บ้านอยู่ไหน ? “
จางเทีย บอกที่อยู่บ้านเขาไป...
“ นี่ยังเรียนอยู่รึเปล่า ? “
“ ใช่ พรุ่งนี้คือวันสุดท้าย ! “
“ ฉันจำได้ว่าที่นั่นใกล้กับตารางของโรงเรียนนานาชาติที่เก้า ! “
“ ผมมาจากโรงเรียนแห่งที่เจ็ด ! “
“ อ่า ใช้ ครูฟิโอเร่ สอนชีวะยังอยู่ดีรึเปล่า ? “
“ มิสไดน่า เป็นคนสอนชีวะเราแล้ว ครูฟิโอเร่ สอนกฎหมาย ! “
เมื่อได้ยินคำตอบนั้น ทหารก็ได้ยิ้มออกมาและยกมือขึ้น เมื่อเห็นท่าทีของเขา ทหารคนอื่นๆต่างก็ลดอาวุธลง ความตึงเครียดเองก็ได้หายไปด้วย
“ หัวหน้า เด็กโรงเรียนเดียวกับหัวหน้าเหรอ ? “ – ทหารถามขึ้นมา
จางเทีย มองไปที่หัวหน้าทหารด้วยความแปลกใจ เขาไม่คิดว่าชายคนนี้จะจบมาจากโรงเรียนเดียวกับเขา
“ ฉัน จอย ฉันจบมาจากโรงเรียนนั่นเหมือนกัน มันก็เลยเคอร์ฟิวมาแล้ว ทำไมนายถึงกลับดึกขนาดนี้ ? “
“ เอิ่ม...ผมเที่ยวเพลินไป....แล้วลืมเวลาไปเลย “
เมื่อเห็นหน้าซีดๆของ จางเทีย และร่างกายที่สั่นอีกทั้งเสียงที่ตะกุกตะกัก จอย ก็เข้าใจทันที คนอื่นๆเองก็เข้าใจด้วยย ทุกคนต่างก็หัวเราะออกมาดังๆ เพราะพวกเขาจับเด็กคล้าย จางเทีย ได้หลายคนเมื่อไม่กี่วันก่อน
“ น้องชาย นี่เป็นครั้งแรกสินะที่ได้โดนตัวผู้หญิง นายน่าจะระวังสุขภาพหน่อยนะ ! “ - จอย พูดขึ้นมาอย่างใจดี - “ เพราะเราไปทางเดียวกัน ให้เราไปส่งนายที่บ้านดีกว่า ไม่งั้นแล้วนายคงโดนทหารคนอื่นจับแน่ ! “
ไม่คิดเลยว่า จอย จะใจดีขนาดนี้ จางเทีย เดินไปกับพวกนั้นจนกระทั่งห่างจากบ้านเขาแค่ 200 ม.
เมื่อเห็นแสงไฟจากบ้าน จางเทีย ก็เริ่มหงุดหงิด พ่อและแม่ควรจะหลับไปแล้วเมื่อถึงเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าทั้งคู่คงรอเขาอยู่แน่ๆ เขาเข้าไปในบ้าน จางเทีย เห็นพ่อและแม่นั่งรอเขากลับมา แม่เขาดูหงุดหงิด ส่วนพ่อดูสลดเหมือนกับเพิ่งโดนแม่ด่ามา เมื่อได้ยินเสียงประตูเปิด พ่อและแม่ก็เห็นเขาเดินเข้ามา ทั้งคู่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
แม่ของเขารีบวิ่งเข้ามาหาและเช็คตัว จางเทีย เมื่อเห็นหน้าซีดๆของ จางเทีย แม่เขาก็เอามือตบหน้าผากเขา เธอไม่พูดอะไรมีแต่จ้อง จางเทีย กับพ่อและเดินขึ้นบันไดไปด้วยท่าทีหงุดหงิด
พ่อของเขาเองก็เดินเข้ามาหาเขาจ้องมาที่หน้าของ จางเทีย เขาเอานิ้วดีดหน้าผาก จางเทีย อยู่หลายรอบด้วยความหงุดหงิด – “ ลูก ทำไมกลับดึกนัก ? พ่อบอกทุกอย่างกับแม่ไปหมดแล้ว เพราะลูกนี่แหละ เงินเก็บพ่อเลยโดนแม่ยึดไปหมด “ – หลังจากที่พูดเสร็จพ่อเขาก็หันหลังกลับเดินขึ้นไปข้างบนแต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวพ่อเขาก็หันหลังกลับมาถามด้วยความลามก – “ กี่ครั้ง ? “
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น จางเทีย ก็งง และเกือบจะตะโกนออกมา – ลูกพ่อยังไม่ได้ขลิบเลย !
เมื่อไม่ได้ยินคำตอบ พ่อของเขารู้สึกว่าเหมือนทำให้ลูกเสียหน้า ดังนั้นเขาจึงทำหน้าเคร่งขรึมก่อนจะเดินขึ้นบันไดตามแม่เขาไป
เมื่อเห็นเงาของพ่อหายไปที่มุมบันได จางเทีย ก็รู้สึกขึ้นมาและตะโกนขึ้น – “ พ่อ ! “
“ หืม ? “ – พ่อของเขากลับมาและสงสัยว่า จางเทีย จะพูดอะไร
“ ผมรักพ่อ ! “
“ เด็กน้อย พ่อสาบานเลยว่าลูกไม่ได้เงินจากพ่อแน่ ! พ่อโดนด่าเกือบตาย .. “ - เพราะกลัวคำพูดของ จางเทีย พ่อของเขาเลยทำท่าจะหันกลับไปแต่ก็พูดขึ้นมา – “ แม่ลูกเตรียมข้าวเย็นให้แล้วในหม้อ ! “
เขายืนอยู่ในห้องธรรมดาแต่ก็อบอุ่น จางเทีย มองไปรอบๆและคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อชั่วโมงก่อน จางเทีย รู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่ โดยเฉพาะเมื่อเขาได้ยินคำพูดสุดท้ายจากพ่อ จางเทีย อดกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่