หน้าแรก > Castle of Black Iron
Chapter 57: การทดสอบที่ตัดสินความเป็นความตาย

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

spoilsoc.com

*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร)

Chapter 57: การทดสอบที่ตัดสินความเป็นความตาย

แม้ว่านี่จะเป็นการทำสอบแต่สำหรับ จางเทีย แล้วมันเป็นการทดสอบที่เป็นไปไม่ได้ ตามทางกลับโรงแรม จางเทีย ตระหนักได้ว่ามันเป็นไปได้ที่จะกลับเข้าไปในประตูตรงหว่างคิ้วของเขา  มันหมายความว่าเมื่อเขามีเวลาสักหน่อย เขาสามารถหายไปได้และรอคอยโอกาสอยู่ใน Castle of Black Iron แต่เมื่อเขาทำแบบนั้นแม้ว่าเขาจะซ่อนตัวเองจากอันตรายได้แต่เขาก็มีแววว่าจะทำให้อันตรายนั้นส่งผลต่อครอบครัวของเขา  ความลับของ Castle of Black Iron นั้นเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่และเมื่อมันถูกเปิดเผยออกมา คนที่เกี่ยวข้องกับเขาคงไม่รอดแน่ๆ   ในสายตาของเขาแล้วพวกคนที่มีอำนาจแล้วคนธรรมดาน่ะไม่มีค่าเท่าความลับของ Castle of Black Iron อยู่แล้ว

พวกเขากลับมาที่ห้องตัวเองแล้วปิดประตูลง   ฮัค และ สเนซ แสดงท่าทีหงุดหงิดออกมาทันที

“ ปัง ! “ - จางเทีย โดนโยนอัดไปที่พื้นทั้งๆที่คอยังอยู่ในกำมือของ ฮัค   ผลก็คือกระดูกทั่วตัวเขาเกือบหักและเขาทนความเจ็บปวดนั่นไม่ไหวจนต้องร้องออกมา

“ เงียบ ! คนอื่นอาจจะได้ยินก็ได้ ! “  - สเนซ บอกกับ ฮัค  เมื่อได้ยินแบบนั้น ฮัค ที่ถอยกลับไปราวกับจะเตะซ้ำใส่ จางเทีย ก็ได้หยุดลง   สเนซ ได้มานั่งยองๆตรงหน้าและเอามือลูบหน้า จางเทีย – “ แกชื่ออะไร ? “

“ ฉันชื่อ ดูเช่าเฟิง....”

“ พี่แกชื่ออะไร ? “

“ ดุเช่าวู ! “

“ เขามีตำแหน่งอะไรในเมืองนี้ ? “

“ ผู้สั่งการของกองทัพที่สามของเมือง.. “ - จางเทีย ตอบกลับด้วยเสียงโหยหวน  - “ แผ่นไม้นั่นอยู่ลังของเล่นหลานฉันจริงๆ ฉันสาบาน ! ถ้านายปล่อยฉันกลับไป ฉันจะเอามาคืนให้ ทำไมนายถึงไม่เชื่อใจฉัน ? ฉันบอกให้นายเข้าไปกับฉันแท้ๆแต่นายก็ปฏิเสธ  นายต้องการอะไรอีก ? “

 “ บ้านแกอยู่ไหน ? “ - สเนซ ไม่สนใจที่ จางเทีย พูดและถามต่อ

B301 ในตึกนั่นแหละ ... “

หลังจากถามคำถามพวกนี้แล้ว สเนซ ได้เอาผ้าและเชือกออกมาก่อนที่จะเปิดปากของ จางเทีย และยัดผ้าลงไปทำให้ จางเทีย พูดออกมาไม่ได้สักคำ เขามัดมือ จางเทีย ด้วยเชือก  หลังจากนั้น สเนซ ก็ปรบมือและยืนขึ้น  เขาพูดบางอย่างกับ ฮัค ก่อนจะออกไป   ผลก็คือมีสองคนเหลืออยู่ในห้อง  จางเทีย ดิ้นอยู่ที่พื้นสักพัก  เขารู้ว่า สเนซ น่ะมุ่งไหนไปไหนแต่เขาไม่ได้กลัว   ดูเช่าวู น่ะคือพี่ชายของคนมีอำนาจ เขาได้ยินเรื่องนี้มาจากครอบครัวดูในตอนที่เขาคุยกับพี่ชายเขา  นอกซะจากว่า สเนซ จะมีรูปของ ดูเช่าเฟิง  เขาคงไม่รู้ว่า จางเทีย น่ะโกหก

ครึ่งชั่วโมงต่อมา สเนซ ก็ได้กลับม

“ เป็นไง ? “ – ฮัค รีบถามในตอนที่ประตูเปิดออกมา

สเนซ ดูท่าทีอึดอัด – “ ใช้เงินกว่า 1 ทองกว่าจะยืนยันว่าที่มันพูดน่ะจริง  มีคนชื่อ ดูเช่าวู จริงๆ  ดูเช่าวู มีน้องชายที่ชื่อ ดูเช่าเฟิง ที่เด็กพอๆกับมัน  พวกเขาอาศัยอยู่ในห้อง B301 ข้างในนั้น อีกอย่าง ดูเช่าวู น่ะมีลูกอายุ 2 ขวบอีก... “

เมื่อได้ยินคำพูดของ สเนซ  จางเทีย ก็เริ่มดิ้นอีกครั้ง

“ เป็นไปไม่ได้ ! ฉันรู้สึกว่ามีอะไรแปลกๆกับคำพูดของมัน ... “ -  ฮัค พูดขึ้นมาด้วยท่าทีหงุดหงิด – “ ฉันน่าจะเตะมันจนตาย ! “

“ ฉันก็รู้สึกแปลกๆแต่ฉันคิดไม่ออกว่าทำไม เราไม่มีทางเลือกอื่นแล้ว ถ้าเด็กนี่โกหก เราก็ฆ่ามัน ! “ -  สเนซ พูดขึ้นพร้อมกับมานั่งยองๆตรงหน้า จางเทีย แล้วใช้มือลูบหน้าและพูดขึ้น – “ ฉันรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าแกน่ะอาจจะโกหกเรา  ฉันอยากรู้ว่าแกจะเล่นตุกติกแบบไหน  แกรู้ข้อผิดพลาดของแกมั้ย ? ในตอนที่คนเราโกหก หัวใจจะเต้นเร็วขึ้นทำให้เส้นเลือดทั่วตัวสูบฉีดแรงขึ้นอีก และอุณหภูมิของร่างกายก็สูงขึ้นตามนิดหน่อย  ตอนฉันจับคอแก ฉันรู้ว่าตอนไหนที่แกโกหกผ่านการสูบฉีดเลือดนี่แหละ ฉันรู้สึกได้ว่าแกกังวลตอนที่เราเดินไปหาทหารพวกนั้น  ถ้าแกบอกความจริง งั้นหัวใจแกน่าจะไม่ได้เต้นเร็วขึ้นสิ  แกน่ะฉลาดกว่าพวกเด็กอายุดเท่าๆแก น่าสงสารนะที่แกมาเจอฉัน ! “

ในตอนที่มันพูด สเนซ ได้คว้าผมของ จางเทีย โดยไม่สนใจว่าเขาจะดิ้นแรงแค่ไหนและพาเขาเข้าไปในห้องน้ำ ฮัค เองก็ตามมาติดๆด้วย

เมื่อเข้าไปในห้องน้ำแล้ว มีดของ สเนซ ได้โผล่ขึ้นมาอีกครั้ง ความรู้สึกน่าขนลุกแผ่นออกมา  สเนซ ตัดเชือกที่มือของ จางเทีย   เขาเหยียบมือซายของ จางเทีย เอาไว้และเอามือขวาไปวางไว้ที่อ่างล้างหน้า   หลังจากนั้นเขาก็เอามีดไปจ่อที่เส้นเลือดใหญ่ที่มือขวา

“ แกมีโอกาสสุดท้าย บอกมากว่าแกเอาเหรียญไปซ่อนไว้ไหน ! “ - ในตอนที่ สเนซ ถาม เขาก็ดึงเอาผ้าออกจากปากของ จางเทีย

“ บ้านพี่ชายฉัน ฉันบอกความจริงไปแล้วนิ !  เหตุผลที่ฉันกังวลก็เพราะฉันน่ะกังวลว่านายจะฆ่าฉันเมื่อได้มันไป  ฉันรู้สึกได้ว่าพวกนายวางแผนกันเรื่องนี้แล้วและคิดจะโกงฉัน  เมื่อนายสัญญาว่าจะไม่ทำอันตรายฉัน แน่นอนว่าฉันจะเอาเหรียญห่านั่นกลับให้ทันที.. “ - จางเทีย ใช้โอกาสนั้นอธิบาย  เมื่อได้ยินคำพูดของ จางเทีย  สเนซ ก็คิ้วขมวดพร้อมกับเอาผ้ายัดกลับเข้าปาก จางเทีย อีกรอบ   หลังจากนั้นข้อมือขวาของ จางเทีย ก็รู้สึกได้ถึงความเย็น  ตามมาด้วยความเจ็บปวด  เลือดสีแดงเริ่มหยดลงมา  ตอนนั้น จางเทีย อยากที่จะดิ้นแต่ ฮัค นั้นจับตัวเขาไว้อยูทำให้เขาไม่สามารถขยับได้

ฉากนี้ทำให้ จางเทีย คิดถึงตอนที่หมูโดนเชือด  พวกเขาจะมัดหมูไว้แล้วเชือด  เขาเห็นว่ามันตลกตอนที่เห็นคนฆ่าหมูแต่ในตอนที่เขาโดนฆ่าเหมือนหมูแทน จางเทีย ไม่ได้ตลกเลยสักนิด   ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าหมูมันคิดยังไงตอนที่จะโดนเชือด...

ตอนแรกเขารู้สึกเจ็บตามมาด้วยเริ่มอ่อนแรงและสุดท้ายเขาก็หนาวขึ้นมา ยิ่งเลือดไหลมากเท่าไหร เขายิ่งกลัวมากขึ้นเรื่อยๆ..

“ เราหมดความอดทนแล้ว ! เราจะให้เวลาแกบอกความจริงเรามา เมื่อแกบอกความจริง เราจะห้ามเลือดให้แกและให้แกมีชีวิต่อ... “ - เมื่อได้ยินคำพูดของ สเนซ   จางเทีย ก็ตระหนักได้ว่าเขามีความสุขมากแค่ไหนในตอนที่ไม่ได้มีแผลเหวอะแบบนี้

เลือดยังคงไหลลงไปในอ่างจนเอ่อนอง  เมื่อมองไปที่อ่างล้างหน้า จางเทีย ก็จำหัวข้อที่เขา กับ ดอนเดอร์ พูดถึงเรื่อง ‘ การสัมผัสได้ถึงเลือด ‘  เขาอึ้งจริงๆที่ผู้หญิงน่ะไม่ได้รู้สึกเจ็บตอนที่เลือดออกทุกเดือน....ตอนนั้น จางเทีย เริ่มที่จะชื่นชมผู้หญิง... ตอนนี้เขากลับรู้สึกหนาวและอ่อนแรง  เขาฝืนยิ้มออกมาและพึมพำในใจ – “ การสัมผัสเลือดห่าอะไรนั่นคืออะไรวะ ? ! ฉันไม่เข้าใจมันเลยแต่ฉันก็สงสัย.. “

เวลาได้ผ่านไปช้าๆและเลือดก็ไหลลงมามากกว่าเดิมจากข้อมือขวาของเขา

จากนั้นเขาก็รู้สึกเบลอและทำการล็อคไปที่ประตูตรงหว่างคิ้วได้ยากกว่าเดิม – “ ฉันควรเข้าไปใน Castle of Black Iron รึเปล่า ? “ - จางเทีย ถามกับตัวเอง  เขาหวังว่าจะรอดได้นานกว่านี้แต่เขาไม่ต้องการที่จะเอาอันตรายไปหาครอบครัวและเพื่อนของเขา

ในตอนนั้นผ้าข้างปาก จางเทีย ก็ถูกดึงออกมาอีกรอบ หลังจากนั้น สเนซ ก็ถามคำถามเดิมแต่เขาก็ยังตอบแบบเดิมออกไปอยู่ดี  ดังนั้นผ้านั่นก็เลยยัดเข้าไปในปากของ จางเทีย อีกครั้ง...

จางเทีย เริ่มคิดถึงเงาของแม่...ผมสีขาวที่เพิ่มขึ้นบนหัวของพ่อ...รองเท้าหนังและกางเกงในที่พี่เขาให้มา...สิ่งที่ไอ้อ้วนบอกให้เขาไปขลิบ...

“ เหี้ย ! ฉํนยังไม่ได้ขลิบและจะตายทั้งๆที่ซิงอยู่   นี่มันน่าอายจริงๆที่ตายทั้งๆยังซิง .. “ - จางเทีย รู้สึกว่าเขากำลังจะหมดสติ

เมื่อเห็นว่าเด็กนี่หน้าซีดและปากเองก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีขาว  สเนซ ก็เริ่มสงสัย  เขาประมาณว่าร่างกายของเด็กนี่น่ะเสียเลือดไปกว่า 1800 มล. – “ ถ้าเราไม่ห้ามเลือด เขาคงตายแน่แต่เขายังไม่ได้บอกอะไรเลย เราทำผิดตรงไหน ?  รึที่ไอ้เด็กนี่บอกคือความจริง ?  เด็กนี่มันกังวลจริงๆเพราะรู้ว่าเรามีแผนอื่นอย่างนั้นเหรอ ? “

ตอนนั้น ฮัค ก็จ้องไปที่ สเนซ   เพราะทั้งสองคนทำงานด้วยกันมาหลายปี ฮัค รู้ว่าวิธีนี้ใช้เพื่อบีบเอาความจริงออกมา มีไม่กี่คนที่จะรอความตายเพราะวิธีนี้น่ะมันทรมานยิ่งกว่าการโดนฆ่าทันทีอีก  เด็กนี่จะแข็งแกร่งขนาดนั้นเลยรึไง ? เป็นไปไม่ได้ ! ไม่งั้นแล้ว...รึว่าเด็กมันบอกความจริง ?

ตอนนั้นตัวของ จางเทีย เริ่มไม่มีแรง  เขาขยับไม่ได้อีกต่อไป  ถ้า จางเทีย ตายแบบนี้ งั้นสองคนนี้คงต้องหนีไปในคืนนี้แล้วโดนองค์กรตัวเองตามล่าไปตลอด

เมื่อเห็นสายตาของ ฮัค  สเนซ ก็หงุดหงิด   เขาด่าตัวเองพร้อมกับเอาสองนิ้วไปกดตรงแผลของ จางเทีย – “ เหี้ย ! ห้ามเลือดก่อน บางที...เขาอาจบอกความจริงก็ได้... “

ในตอนที่กดเส้นเลือดที่ข้อมือลง  เลือดก็ได้หยุดไหล ในเวลาเดียวกัน จางเทีย ก็เห็นแสงสว่างตรงหน้าในความมืดมิดไม่รู้จบ มีคำพูดโผล่มาในสมองของเขา

--- Manjusaka Karma Fruit Tree ได้ตรวจสรอบว่าพลังงานของร่างกาย, พลังคี,และเลือดของเจ้าของปราสาทนั้นกำลังเจออันตรายระดับต่ำ  คุณต้องการฟื้นฟูและเปลี่ยนการไหลของเลือดกับพลังคีผ่าน Leakless Fruit รึเปล่า ?

---- ใช่... ไม่

จางเทีย ใช้แรงสุดท้ายที่มีเลือกคำว่า ‘ ใช่ ‘ ที่อยู่ในหัวของเขา...

Copyright © 2019 spoilsoc.com All rights reserved.