spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
spoilsoc.com
*ตั้งค่าถาวร (คลิกตั้งค่าถาวร) |
หลังจากเห็น จางเทีย เข้าไปในห้องนอนกับ มิสแอนนา แบร์ลี่ ก็จ่ายเงิน 4 เงินให้กับหญิงแก่และนั่งรออยู่ในห้องรับแขกคนเดียวพร้อมกับดื่มน้ำอย่างใจเย็น
เมื่อได้ยินเสียงครางของ มิสแอนนา จากในห้อง แบร์ลี่ ก็ยิ้มลามกออกมา หลังจากนั้นสักพักเขาก็ได้ยินเสียงแปลกๆและได้ยินเสียงหัวเราะเบาๆของ มิสแอนนา สิบนาทีต่อมาก็ได้มีเสียงร้องโหยหวนออกมาซึ่งทำให้ แบร์ลี่ ที่ดื่มน้ำอยู่ตกใจกลัว แบร์ลี่ คิดว่าเป็นเสียงร้องของ จางเทีย จากนั้นห้องนอนก็เงียบไปสักพัก หลายนาทีต่อมาก็มีเสียงโหยหวนดังขึ้นอีกครั้ง แบร์ลี่ ได้ยินมันอย่างชัดเจนและรู้ว่านี่คือเสียงของ จางเทีย
“ เกิดอะไรขึ้น ? “ - แบร์ลี่ สงสัยและมองไปที่ห้องนอน เขารู้ว่า มิสแอนนา ไม่ได้มีงานอดิเรกแปลกๆและเธอคือครูที่ดีที่สุดสำหรับคนซิงอยู่ แล้วไอ้หัวโตร้องแบบนี้มาได้ยังไง ?
หลังจากเสียงร้องครั้งที่สองก็ไม่ได้มีเสียงใดๆดังขึ้นมาอีกเลย 5-6 นาทีต่อมา แบร์ลี่ ก็เห็น จางเทีย เดินออกมาจากห้องด้วยใบหน้าที่ซีดเผือด จางเทีย ก้มหน้าและรีบดึงแขนไอ้อ้วนวิ่งออกไปข้างนอกโดยไม่พูดอะไรออกมาสักคำ
พวกเขาไม่ได้ลดความเร็วลงจนกระทั่งห่างจากบ้านนั้นมา 100 ม.
“ เกิดอะไรขึ้น ไอ้หัวโต ? นายร้องโหยหวนทำไม ? “ - ไอ้อ้วน ถามขึ้นมาตอนพักหายใข
จางเทีย ดูหงุดหงิด เขาอ้าปากเหมือนอยากพูดบางอย่างออกมาแต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา มีแค่ แบร์ลี่ ที่ถามซ้ำอีกรอบถึงทำให้ จางเทีย บอกความลับออกมาเบาๆ...
“ไอ้จ้อนฉัน...มันขยายขนาดโตขึ้นเกินไป มันเหมือนกับการชักดาบออกมาแต่มันยากที่จะดึงมันออกมาได้ ฉันลองชักมันดูสองครั้งแล้วแต่มันก็เกือบฉีกฝักออกก่อนที่จะได้ชักออกมา...”
“ นี่เป็นความรู้สึกเหมือนที่นายนอนกับเธอครั้งแรกรึเปล่า ? มันต่างจากฝันมั้ย ? “ - จางเทีย ถามออกมาอย่างไม่มั่นใจ
เมื่อได้ยิน จางเทีย พูดแบบนั้น แบร์ลี่ ก็อึ้ง แม้ว่าเขาต้องการที่จะหัวเราะแต่เขาก็เสนอออกมาด้วยท่าทีเคร่งขรึม – “ เพื่อน ไม่มีอะไรซีเรียสหรอก นายน่าจะลองไปขลิบดูนะ... “
……
ดูเหมือนว่าแผนการสละซิงของ จางเทีย จะล้มเหลว เมื่อคิดแบบนั้นก็ทำให้เขาหงุดหงิด
“ ขลิบ ? เหี้ย ! ไม่มีใครบอกฉันเรื่องนี้เลย ดูเหมือนว่าฉันจะไม่มีปัญหาเลยในตอนที่จัดการ มิสไดน่า ในความฝัน แล้วเอาจริงๆแล้วฉันทำไม่ได้ได้ยังไง ? ดูเหมือนว่าชื่อเสียงของฉันจะป่นปี้แล้ว “ - จางเทีย พนันเลยว่าไอ้อ้วนนี่ต้องเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้คนอื่นฟังพรุ่งนี้แน่
“ เพื่อน ทำไมนายถึงหงุดหงิดแบบนั้น ? บอกฉันมาสิ ไม่มีอะไรมากน่า ฮาฮา ... “ - ในตอนที่ จางเทีย คิดเรื่องคนอื่นๆมาล้อเขาก็ยิ่งทำให้เขาสลดลงไปอีก
ตอนนั้น จางเทีย เห็นเงาสองเงาร่อนลงมาจากฟ้าและเหมือนกับยิ้มให้กับเขา หลังจากที่แยกตัวกับ แบร์ลี่ แล้ว จางเทีย ได้ใช้เส้นทางเดินในการกลับบ้านและเตะหินตามทางไปด้วย
จางเทีย กลับบังเอิญใช้ทางที่ไม่ค่อยมีคนใช้โดยไม่รู้ตัว....
“ ปัง “ - จางเทีย เดินไปชนกับใครคนหนึ่งเข้า – “ อ่า โทษที.. “
เขาเดินเข้าไปชนคนตัวใหญ่ หลังจากที่ขอโทษแล้ว จางเทีย ได้เงยหน้าขึ้นมาและเห็นใบหน้าอันชั่วร้ายที่ดูคุ้นเคย สองมือของอีกฝ่ายโอบเข้าที่ไหล่ของ จางเทีย และมีเหล็กยื่นออกมาพร้อมกับพูดขึ้น – “ ในที่สุดฉันก็เจอแก เด็กน้อย... “
หน้านั้นดูคุ้นนิดๆ ในตอนที่ จางเทีย จะอ้าปากพูดเขาก็รู้สึกได้ว่าโดนบางอย่างทุบเข้าที่หลังหัวจนทำให้เขาหมดสติไป
……
เขารู้สึกเย็นๆเหมือนกับมีน้ำเย็นมาราดที่หน้าของเขา จางเทีย ลืมตาขึ้นมาและเห็นใบหน้าน่าเกลียดของสองคนผ่านแสงไฟจากตะเกียงแสดงสีหน้าราวกับอยากกินเขา ความรู้สึกเย็นขารู้สึกได้เมื่อเขาเห็นชายที่เหมือนงูนั้นเอามีดมาจ่อที่คอเขา
“ เด็กน้อย ฉันตัดคอหอยแกได้ก่อนที่แกจะตะโกนซะอีก ลองดูสิถ้าแกไม่เชื่อ ถ้าเข้าใจก็ให้พยักหน้า หลังจากนั้นเราจะได้คุยกันดีๆ ! “ - จางเทีย ไม่รู้ว่าทำไมแต่เขาดูใจเย็นยิ่งกว่าเดิมเมื่อเจอมีด ตอนนั้นความคิดของ จางเทีย น่ะชัดเจนยิ่งกว่าคริสตัล เมื่อได้ยินคำพูดของชายคนนั้น จางเทีย คิดสี่อย่างขึ้นมาได้ในหัว
อย่างแรกคือชายที่มีมีดนี้ไม่ให้เขาตะโกนซึ่งสถานที่นี้ไม่ไกลจากที่คนพลุกพล่านเท่าไหร่
อย่างที่สองเนื่องจากเขาอยู่ในกำมือพวกนี้และพวกนี้ดูเหมือนจะไม่ได้สนใจอะไรมากกับการฆ่าเขา เขาจำเป็นต้องพูดให้ดีที่สุด
อย่างที่สามเขาเคยเจอพวกนี้วันพฤหัสก่อนตอนที่เขาเดินไปชนกับชายตัวใหญ่ที่ชื่อว่า ฮัค สุดท้ายเขาก็ได้เก็บแผ่นไม้ไป เนื่องจากพวกนี้ตามหาตัวเขา มันคงต้องเกี่ยวข้องกับแผ่นไม้นั่น ดูเหมือนว่าแม้ว่ามันจะดูไร้ประโยชน์สำหรับเขาแต่มันคงสำคัญกับพวกนี้มาก แผ่นไม้นั่นคือตัวตัดสินความเป็นความตายของ จางเทีย ได้เลย
อย่างที่สี่เพราะสองคนนี้จับตัวเขามา มันหมายความว่าพวกนี้ไม่ได้กลัวว่า จางเทีย จะจำได้และเพราะพวกนี้ไม่ได้กลัวพวกทหารตรวจการ งั้นดูเหมือนว่าพวกนี้ได้เตรียมตัวมาอย่างดีและมั่นใจว่า จางเทีย น่ะไม่ได้เป็นภัย พวกนี้ต้องทำตามการตัดสินใจสองอย่าง อย่างแรกคือพวกนี้จะเอาแผ่นไม้และออกจากเมืองนี้ไป อย่างที่สองฆ่าเขา มีแค่สองตัวเลือกนี้ถึงทำให้พวกนี้ถึงได้มั่นใจที่จะทำแบบนี้ออกมา...
เพราะมีมีดจ่อคอเขาอยู่ กลิ่นเลือดที่ส่งออกมาทำหใ จางเทีย รู้ว่าพวกนี้คิดจะทำอะไร เหงื่อเขาชุ่มออกมาทั่วตัว จางเทีย รู้ว่าเขากำลังเผชิญกับอันตรายครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในชีวิต
ความคิดพวกนั้นแว็บขึ้นมาในหัวของเขาในเสี้ยววินาที จากนั้น จางเทีย ก็พยักหน้า...
ไม่นานมีดนั้นก็ลดลงไปแต่คมมีดก็ทำให้มีแผลที่คอของเขา
“ ฉันจำพวกนายได้ ! เราเจอกันพฤหัสที่แล้ว ! “ - ก่อนที่สองคนนั้นจะพูดขึ้น จางเทีย ก็บังคับให้ตัวเองใจเย็นลงและเริ่มพูดขึ้นมาทำให้ทั้งสองคนนั้นอึ้ง
ฮัค และ สเนซ มองหน้ากันแต่ไม่ได้พูดอะไร
“ ดีมาก เด็กน้อย ! เพราะแกจำเราได้ งั้นไม่ต้องพูดให้มากความ ! เอาแผ่นไม้คืนเรามา ! “- สเนซ ฝืนยิ้มออกมาและเก็บมีดลงไป – “ แผ่นนั่นสำคัญกับเรามาก เอาคืนเรามาเดี๋ยวนี้ ถ้าแกทำแบบนั้นจะส่งผลดีต่อเราทั้งสองฝ่าย ! “
“ ฉันนั่งได้มั้ย ? “ - จางเทีย ถาม
“ ฮี่ฮี่... “ – ฮัค ยิ้มออกมาพร้อมกับเหยียดแขนและจับ จางเทีย ลุกขึ้น จากนั้นเขาก็ได้ผลัก จางเทีย ไปที่เก้าอี้ ในตอนที่ จางเทีย นั่ง เขาเห็นว่าของส่วนตัวของเขานั้นถูกค้นจนกระจัดกระจายไปทั่วโต๊ะ ดูเหมือนว่าสองคนนี้ปลุกเขาขึ้นมาเพราะไม่เจออะไร ถ้า จางเทีย เอาแผ่นไม้มากับตัวด้วย เขาคงกลายเป็นศพไปแล้ว
จางเทีย มองไปรอบๆและตระหนักได้ว่าอยู่ในห้องที่ไม่มีหน้าต่าง รอบๆเขาก็เป็นห้องธรรมดาไม่ได้มีการตกแต่งอะไร เขาได้ยินเสียงคนคุยกันข้างนอก เขามองไปรอบๆห้อง จางเทีย จำได้ว่านี่คือโรงแรมสำหรับนักผจญภัยในมือง เพราะนิสัยของนักผจญภัยที่ชอบความลับและความปลอดภัยจึงทำให้ห้องนี้ไม่มีหน้าต่าง ดังนั้นมันจึงรู้สึกเหมือนกับเป็นห้องความลับอะไรสักอย่าง ห้องนี้เองก็เป็นหนึ่งในห้องที่พวกนักผจญภัยชอบมาใช้กัน
“ ฉันว่าฉันไม่ได้เอาของพวกนายไปนะ... “ - เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ทั้งสองคนก็ทำหน้าบิดเบี้ยวแต่ก่อนที่สองคนนั้นจะได้อัดเขา จางเทีย ก็พูดขึ้นมา – “ วันนั้นที่ฉันเดินไปชนนาย... “ - จางเทีย ชี้ไปที่ ฮัค - “ หลังจากที่นายเดินอกไปแล้ว ฉันเห็นถุงเล็กๆที่พื้นและตอนฉันเปิดมัน ฉันก็เห็นแผ่นไม้สามเหลี่ยมอยู่ข้างใน ฉันสงสัยว่ามันใช่ของที่นายตามหาอยู่รึเปล่า ? “
“ แผ่นไม้นั่นสำคัญสำหรับเรามาก ถ้าแกเอาคืนให้เรา แกจะได้เงิน 10 ทองเป็นรางวัล.. “ – สเนซ ยิ้มแบบใจดีให้ – “ แกบอกเราได้มั้ยว่าแกเอาไปเก็บไว้ไหน ? “
“ ไม่มีใครเชื่อแกหรอก ! “ - จางเทีย ด่าในใจ เขาทำท่าโลภและกลืนน้ำลายตัวเองพร้อมกับมองไปที่ สเนซ – “10 ทอง ? นี่โกงกันป่ะเนี้ย ? ฉันเพิ่งไปเอาผู้หญิงเสียเงินไป 4 เงิน ถ้าฉันได้ 10 ทอง ฉันเอาได้ตั้ง 200 คน... “
“ ฉันจะโกงแกได้ยังไง ? ดูนี่สิ ... “- เขาพูดขึ้นพร้อมกับเอากระเป๋าตังออกมาจากเสื้อแล้วเทเงินออกมาที่มือทันที เมื่อเห็นเงินเหล่านั้น จางเทีย ก็อึ้ง ตอนนั้นเขาไม่ได้ทำท่าเหมือนอย่างเดิม ตั้งแต่เกิดเขาไม่เคยเห็นเหรียญทองมากขนาดนี้มาก่อน
จางเทีย เอื้อมมือออกมาจะจับมันแต่ชายคนนั้นก็กำมือทันที – “ แกยังไม่บอกว่าแกเอาไปเก็บไว้ไหน “
“ ที่บ้าน ถ้านายปล่อยฉันไป ฉันจะเอามันกลับมาให้ เพราะฉันเห็นว่ามันไร้ประโยชน์ ตอนฉันกลับบ้านคืนนั้น ฉันเลยโยนลงไปในกล่องเก็บของ ! “